สพฐ.หนุนก.ค.ศ.ทำระบบย้ายครูTRS ประหยัดงบกว่า 30 ล้าน
![สพฐ.หนุนก.ค.ศ.ทำระบบย้ายครูTRS ประหยัดงบกว่า 30 ล้าน](https://www.kruwandee.com/datas/document/picture-3-55139.png)
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์
ก-
ก+
สพฐ. หนุน ก.ค.ศ. ระบบย้ายครูแบบใหม่ TRS ทำประหยัดงบประมาณกว่า 30 ล้าน มั่นใจการย้ายครูโปร่งใส จัดสรรอัตรากำลังได้ทันก่อนเปิดภาคเทอมใหม่
เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า ที่ประชุมได้ติดตามผลคำยื่นคำร้องขอย้ายข้าราชการครูผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ Teacher Rotation System (TRS) ซึ่งในส่วนของ สพฐ. ได้มอบหมายให้สำนักพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา (สพร.) ได้เปรียบเทียบข้อมูลจำนวนการยื่นขอย้ายของครูทั้งระบบเดิมและระบบใหม่ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร โดยการสำรวจของ สพร. พบว่า ตั้งแต่มีการเปิดระบบการย้ายแบบ TRS เมื่อวันที่ 16 ม.ค. จนถึงวันที่ 31 ม.ค. มีครู สพฐ. ยื่นความจำนวนขอย้าย จำนวน 33,982 คน เพิ่มขึ้นจากการขอย้ายผ่านระบบเดิมด้วยการเดินทางทำแฟ้มเอกสารและกรอกเอกสารการขอย้ายที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 4,705 คน ซึ่งการขอย้าย TRS ถือได้ว่าเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของครูที่ยื่นประสงค์ขอย้าย และทำให้ลดภาระงบประมาณด้านการย้ายได้ถึง 32 ล้านบาท ดังนั้นหลังจากนี้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่จะดำเนินการพิจารณาการย้าย และจัดสรรอัตรากำลังครูให้ทันก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568 ต่อไป
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้หารือการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่ง สพฐ. มีการติดตามผลการแก้หนี้ครูทุกสัปดาห์ โดยพบว่ามีครูสมัครเข้ารับการแก้หนี้ จำนวน 7,762 คน และในจำนวนนี้แก้หนี้สำเร็จแล้ว 1,589 คน รวมมูลหนี้ที่แก้ไขสำเร็จ จำนวน 4,767 ล้านบาท คงเหลือที่ต้องแก้ไข 6,354 ราย ทั้งนี้การแก้ไขปัญหาหนี้ครูสิ่งสำคัญของ สพฐ. ในขณะนี้คือ การจัดโครงการอบรม Money Coach จำนวน 109,601 คน ซึ่งตนกำชับว่าขอให้ผู้เข้ารับการอบรมตามโครงการดังกล่าว ได้กลับไปขยายผลให้แก่เพื่อนครูและผู้ที่เกี่ยวข้องให้มีความรู้และวินัยทางการเงิน เพื่อป้องกันไม่ให้มีการสร้างหนี้ต่อไปในอนาคต
“ในการประชุมดังกล่าว ผมได้เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ ประจำปี 2568 และเงินกันไว้เบิกเหลื่อมประจำปี 2567 ซึ่งได้ย้ำให้หน่วยงานในสังกัดและเขตพื้นที่การศึกษาได้เร่งก่อหนี้ผูกพันให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้ และต้องดำเนินการใช้จ่ายงบอย่างโปร่งใสด้วย” ว่าที่ร้อยตรีธนุ กล่าว
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 12.58 น.