LASTEST NEWS

30 ม.ค. 2568ระบบ TRS หน่วง! ผู้ใช้งานแน่น ทีมงานกำลังดำเนินการแก้ไขให้กลับมาใช้งานได้โดยเร็วที่สุด 30 ม.ค. 2568สพป.สกลนคร เขต 2 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย โดยขอใช้บัญชีจาก สพป.สพป.อุดรธานี เขต 3 จำนวน 26 อัตรา - รายงานตัว 10 กุมภาพันธ์ 2568 30 ม.ค. 2568สพม.อุทัยธานี ชัยนาท อนุมัติผลเลื่อนวิทยฐานะ ชำนาญการ-ชำนาญการพิเศษ รวม 10 ราย 30 ม.ค. 2568สพป.นครราชสีมา เขต 7 เรียกบรรจุพนักงานราชการครู 5 อัตรา - รายงานตัว 10 กุมภาพันธ์ 2568 30 ม.ค. 2568โรงเรียนบ้านห้วยไข่เน่า (เพ็ชร-เพี้ยน อนุสรณ์) รับสมัครครูอัตราจ้าง 2 อัตรา เงินเดือน 15,000.- บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 7 กุมภาพันธ์ 2568 29 ม.ค. 2568คู่มือแนะนำ การสมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป ประจำปี 2568 (Paper & Pencil) 29 ม.ค. 2568"เสมา 1" กำชับข้าราชการ ศธ.ต้องไม่เอนเอียง วางตัวเป็นกลางเลือกตั้ง อบจ. 29 ม.ค. 2568“บิ๊กอุ้ม”สั่งยกเลิกประกาศประกวดราคาพิมพ์หนังสือเรียนองค์การค้าฯแล้วให้ประกาศใหม่ “ย้ำ”ได้รายเดียวไม่เกิดการแข่งขัน 29 ม.ค. 2568ศธ.เร่งดำเนินการแจกอุปกรณ์ตามโครงการ Anywhere Anytime รอ กรมบัญชีกลางอนุมัติสเปค 29 ม.ค. 2568โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา รับสมัครครูผู้สอน 13 อัตรา ตั้งแต่บัดนี้ - 16 มีนาคม 2568

ศธ.เร่งดำเนินการแจกอุปกรณ์ตามโครงการ Anywhere Anytime รอ กรมบัญชีกลางอนุมัติสเปค

  • 29 ม.ค. 2568 เวลา 19:11 น.
  • 222
ศธ.เร่งดำเนินการแจกอุปกรณ์ตามโครงการ Anywhere Anytime รอ กรมบัญชีกลางอนุมัติสเปค

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

ศธ.เร่งดำเนินการแจกอุปกรณ์ตามโครงการ Anywhere Anytime รอ กรมบัญชีกลางอนุมัติสเปค

เมื่อวันที่ 29 ม.ค.2568 นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยหลังการประชุมประสานภารกิจศธ. ว่า ที่ประชุมรับทราบมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่เห็นชอบโครงการส่งเสริมการศึกษาเท่าเทียมด้วยระบบดิจิทัลพัฒนาทักษะและเครดิตพอร์ตโฟลิโอ (The Digital Skill/Credit  Portfolio: Empowering Educations) โดยอนุมัติงบประมาณ 4,214,738,090  บาท  และโครงการจัดหาอุปกรณ์การเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมสนับสนุนการเรียนรู้ทุกที่ทุกเวลา หรือ Anywhere Anytime  งบประมาณ ระยะที่ 2 ปี เป็นงบผูกพันตั้งแต่ปี 2569-2573  จำนวน  29,765,253,600  บาทของศธ. สำหรับการแจกอุปกรณ์เสริมการสอนของนักเรียนและครูไม่ว่าจะเป็นแท็บเล็ต แล็บท็อป โน้ตบุค หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ในรูปแบบเช่าใช้งานพร้อมสัญญานอินเตอร์เน็ตคุณภาพสูง โดยในปี 2568 ได้ขอจัดสรรเครื่องอุปกรณ์ดังกล่าวให้แก่นักเรียน จำนวนกว่า 6 แสนคนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ในกลุ่มโรงเรียนคุณภาพชุมชนและโรงเรียนขยายโอกาส ส่วนในปี 2569 ได้ขอจัดสรรงบประมาณไปจำนวน 2.9 หมื่นล้านบาทสำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่เหลือทั้งหมด ประมาณ 1.2 ล้านคน ซึ่งในงบประมาณของปี 2569 จะขยายผลไปยังนักเรียนชั้นมัธยมต้นในโรงเรียนคุณภาพ  โดยคาดว่า จะมีเด็กและครูได้รับอุปกรณ์เสริมการสอนรวมกว่า 1.8 ล้านคน ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานคุณภาพการศึกษาไทยที่จะได้เห็นภาพอย่างชัดเจน

รมช.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ยังได้เห็นชอบให้ ศธ. โดย สอศ. ดำเนินโครงการส่งเสริมการเรียนรู้อาชีวศึกษาทุกที่ทุกเวลา งบประมาณ 3,302 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการจัดหาอุปกรณ์การเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมสนับสนุนการเรียนรู้ทุกที่ทุกเวลา 3,212 ล้านบาท สำหรับแจกให้ครูและนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)1-3 ประมาณ 159,332 รายและโครงการผลิตสื่อวิดีทัศน์หรือสื่อโทรทัศน์เพื่อการศึกษาอาชีวศึกษา 90,000 บาท โดยอนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ระยะเวลา 4 ปี (ปีงบประมาณ 2569-2572) เพื่อดำเนินโครงการฯ เช่นกัน

“ในปีงบประมาณ 2568 เราจะเริ่มดำเนินการเช่าอุปกรณ์เสริมเพื่อแจกนักเรียนและครู โดยขณะนี้ได้กำหนดสเปกและจัดทำร่างขอบเขตงานหรือทีโออาร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า จะเป็นแท็บเล็ต หรือโน๊ตบุ๊ก เพียงแต่ขอให้เป็นไปตามสเปก คุณสมบัติ ซอฟต์แวร์ภายใน ที่กำหนด ซึ่งคาดว่า จะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้ เหลือเพียงหารือรายละเอียดบางส่วนกับกรมบัญชีกลาง ซึ่งยังมีข้อกังวลอีกเล็กน้อย ในส่วนของคุณสมบัติของบริษัทที่จะเข้าร่วมประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-บิดดิ้ง ซึ่งศธ.ให้ความสำคัญกับมาตรฐานและคุณภาพ โดยบริษัทที่จะเข้าร่วมอี-บิดดิ้ง จะต้องเป็นบริษัทที่ได้มาตรฐาน มีผลงานและไม่เคยมีปัญหากับภาครัฐ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อกฎหมาย ซึ่งหากกรมบัญชีกลางให้ความเห็นชอบ ก็สามารถดำเนินการได้ทันที เชื่อว่าจะไม่มีปัญหา หากทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนคาดว่าจะสามารถเช่าอุปกรณ์เสริม เพื่อแจกนักเรียนได้ทันภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา2568  ” นายสุรศักดิ์กล่าว

นายสุรศักดิ์ กล่าวอีกว่า  สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) รายงานให้ที่ประชุมรับทราบการวิเคราะห์สภาวะการศึกษาไทย ของ Thai Education Situation Analysis (TESA) DASHBOARD ไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2568 ชี้ให้เห็นว่า ผลการวิเคราะห์ลึกลงไปในการสอบ PISA 2022 ประเทศไทย มีกลุ่มเด็กช้างเผือกอยู่ถึง 15% ซึ่งมากกว่ากลุ่มประเทศสมาชิกที่มีอยู่เพียง 10% ซึ่ง พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ฝากแต่ละองค์กรหลัก ช่วยกันคิด ช่วยกันเสนอแนะเพื่อส่งเสริมเด็กกลุ่มดังกล่าว และพัฒนาการจัดการศึกษาเด็กทั่วไป ส่วนการติดตามเด็กนอกระบบการศึกษาเชิงระบบ ตนได้ชี้แจงการดำเนินการดังกล่าวต่อสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งได้รับความชื่นชม โดยวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ ศธ. จะสามารถดูข้อมูลเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษาตามทะเบียนราษฎรได้ทั้งหมด100% ซึ่งจะทำให้รู้ปัญหา และสามารถตามตัวเด็กกลับเข้าระบบการศึกษาได้มากขึ้น หรือสามารถจัดการศึกษาได้ตามบริบทของผู้เรียน

ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: FocusNews วันที่ 29 มกราคม 2568
  • 29 ม.ค. 2568 เวลา 19:11 น.
  • 222

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

^