LASTEST NEWS

21 พ.ย. 2567​​​​​​​กองบัญชาการกองทัพไทย รับสมัครพนักงานราชการ 131 อัตรา สมัครตั้งแต่บัดนี้ - 8 ธันวาคม 2567 21 พ.ย. 2567​​​​​​​กรมชลประทาน เปิดสอบบรรจุเข้ารับราชกการ 58 อัตรา สมัครทางอินเทอร์เน็ตตั้งแต่บัดนี้ - 4 ธันวาคม 2567 ตลอด 24 ชั่วโมงไม่เว้นวันหยุดราชการ 20 พ.ย. 2567สพป.สงขลา เขต 3 รับสมัครพนักงานราชการ ตำแหน่งครูผู้สอน 11 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย. - 2 ธ.ค.2567 20 พ.ย. 2567สพม.เพชรบูรณ์ เรียกบรรจุครูผู้ช่วย ขอใช้บัญชี สพม.นครสวรรค์ และสพม.พิษณุโลก อุตรดิตถ์ รวม 3 อัตรา - รายงานตัว 28 พ.ย.2567 20 พ.ย. 2567สพป.สกลนคร เขต 1 เตรียมเรียกบรรจุครูผู้ช่วย 20 อัตรา เร็ว ๆ นี้ 20 พ.ย. 2567สพป.หนองบัวลำภู เขต 2 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 17 อัตรา - รายงานตัว 2 ธันวาคม 2567 19 พ.ย. 2567ยินดีด้วยครับ สพป.นครสวรรค์ เขต 3 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 39 อัตรา - รายงานตัว 28 พ.ย.2567 19 พ.ย. 2567ข่าวดี! สพป.ขอนแก่น เขต 4 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 10 วิชาเอก รวม 25 อัตรา 19 พ.ย. 2567(ไม่ต้องผ่าน ภาค ก) กรมชลประทาน เปิดสอบพนักงานราชการ 365 อัตรา สมัครทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 21 - 28 พ.ย.2567 18 พ.ย. 2567สพฐ. ชูศึกษานิเทศก์ทั้งประเทศ กลไกขับเคลื่อน "เรียนดี มีความสุข" สร้างคุณภาพสู่ห้องเรียน

วิกฤตครูไทย! ครูรุ่นใหม่ลาออกเพียบ เหตุงานเอกสารท่วมท้น ไร้เวลาสอน เด็กไทยเสียโอกาส เรียกร้องปฏิรูประบบดิจิทัล ลดภาระครู เพิ่มคุณภาพการศึกษาไทย

  • 04 พ.ย. 2567 เวลา 20:19 น.
  • 1,778
วิกฤตครูไทย! ครูรุ่นใหม่ลาออกเพียบ เหตุงานเอกสารท่วมท้น ไร้เวลาสอน เด็กไทยเสียโอกาส เรียกร้องปฏิรูประบบดิจิทัล ลดภาระครู เพิ่มคุณภาพการศึกษาไทย

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

วิเคราะห์วิกฤตครูไทย เมื่องานเอกสารท่วม จนต้องลาออกก่อนเกษียณ

วิกฤตครูไทย! ครูรุ่นใหม่ลาออกเพียบ เหตุงานเอกสารท่วมท้น ไร้เวลาสอน เด็กไทยเสียโอกาส เรียกร้องปฏิรูประบบดิจิทัล ลดภาระครู เพิ่มคุณภาพการศึกษาไทย

# วิกฤตครูไทย: จากแสงเรืองเรืองสู่ภาระงานท่วมท้น


"แสงเรืองเรืองที่ส่องประเทืองอยู่ทั่วเมืองไทย" เนื้อเพลงอันไพเราะที่เคยสะท้อนถึงความเสียสละของครูไทย กำลังถูกท้าทายด้วยความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย เมื่อครูรุ่นใหม่จำนวนมากตัดสินใจลาออกจากระบบราชการ ดังกรณีล่าสุดของครูสาววัย 24 ปี ที่ลาออกหลังบรรจุได้เพียงปีเดียว สะท้อนวิกฤตที่กำลังคุกคามวิชาชีพครูอย่างรุนแรง

ในอดีต เราเคยได้ยินว่า "เหนื่อยยากอย่างไรไม่เคยบ่นไปให้ใครเขามอง ครูนั้นยังลำพองในเกียรติของตนเสมอมา" แต่ปัจจุบัน ภาระงานที่ท่วมท้นกำลังทำลายอุดมการณ์นี้ลง หากพิจารณาจากข้อมูลการกำหนดภาระงานในระบบการศึกษาไทย ครูผู้สอนต้องรับผิดชอบการสอนไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ พร้อมภาระงานขั้นต่ำอีก 20 ชั่วโมง ในขณะที่ผู้อำนวยการสถานศึกษาสอนเพียง 5 ชั่วโมง และรองผู้อำนวยการสอน 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ความไม่สมดุลนี้สะท้อนให้เห็นถึงการกระจายภาระงานที่ไม่เป็นธรรมในระบบการศึกษา



"ไม่มีเวลาที่จะได้มาหยุดพอพักผ่อน" ไม่เพียงเป็นเนื้อเพลงแต่เป็นความจริงที่ครูไทยต้องเผชิญ เมื่อต้องจัดสรรเวลา 32 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ไปกับการสอนและงานประจำ ยังไม่รวมการเตรียมแผนการสอน ผลิตสื่อการเรียนรู้ ตรวจการบ้าน ทำวิจัยในชั้นเรียน และงานธุรการอื่นๆ อีกมากมาย บางโรงเรียนยังกำหนดให้ครูต้องมาถึงก่อน 07.00 น. เพื่อรับนักเรียนและอยู่ดูแลหลังเลิกเรียนจนถึง 17.00 น. ทำให้แทบไม่มีเวลาพักผ่อนหรือพัฒนาตนเองอย่างแท้จริง



"ฐานะของครูใครใครก็รู้ว่าด้อยหนักหนา" วลีจากบทเพลงที่ยังคงสะท้อนความจริงในปัจจุบัน เมื่อพิจารณาโครงสร้างเงินเดือนครูไทยเทียบกับภาระงานที่ต้องรับผิดชอบ พบว่ายังคงมีความไม่สมดุลอย่างมีนัยสำคัญ



ครูบรรจุใหม่ในตำแหน่งครูผู้ช่วย เริ่มต้นที่เงินเดือน 15,050 บาท สามารถเติบโตได้สูงสุดถึง 24,750 บาท ในขณะที่ครูระดับ คศ.1 มีเงินเดือนเริ่มต้นที่ 15,440 บาท และสูงสุดที่ 34,310 บาท เมื่อก้าวสู่ระดับ คศ.2 จะได้รับเงินเดือนระหว่าง 16,190-41,620 บาท พร้อมค่าวิทยฐานะเพิ่มเติมที่ทำให้รายได้รวมสูงสุดอยู่ที่ 45,120 บาท



สำหรับครูระดับสูงขึ้นไป คศ.3 มีเงินเดือนระหว่าง 19,860-58,390 บาท และอาจได้รับรวมถึง 69,590 บาทเมื่อรวมค่าวิทยฐานะและค่าตอบแทนพิเศษ ขณะที่ คศ.4 ได้รับระหว่าง 24,400-69,040 บาท อาจสูงถึง 88,840 บาทเมื่อรวมค่าตอบแทนพิเศษ และระดับสูงสุด คศ.5 มีเงินเดือนระหว่าง 29,980-76,800 บาท อาจได้รับสูงสุดถึง 108,000 บาทเมื่อรวมค่าตอบแทนทั้งหมด



อย่างไรก็ตาม การจะก้าวขึ้นสู่ระดับที่สูงขึ้นนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ครูต้องผ่านระบบการประเมินวิทยฐานะแบบใหม่ (DPA) ซึ่งแม้จะลดระยะเวลาพิจารณาจาก 3 ปีเหลือ 3 เดือน แต่ยังคงเน้นการประเมินผ่านเอกสารเป็นหลัก ทำให้ครูต้องแบ่งเวลาอันมีค่าไปกับการจัดทำเอกสารแทนที่จะทุ่มเทกับการพัฒนาการเรียนการสอน



เมื่อเปรียบเทียบกับภาระงานที่ครูต้องรับผิดชอบ ทั้งการสอนไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ งานธุรการ การเข้าเวร การทำวิจัย และงานพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย ค่าตอบแทนที่ได้รับถือว่ายังไม่สมดุล โดยเฉพาะครูบรรจุใหม่ที่ต้องแบกรับภาระงานเท่ากับครูอาวุโส แต่ได้รับเงินเดือนเพียง 15,050 บาท ในขณะที่ค่าครองชีพในปัจจุบันสูงขึ้นเรื่อยๆ



ความไม่สมดุลนี้เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ครูรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากระบบราชการ เพราะนอกจากจะต้องทำงานหนักแล้ว ค่าตอบแทนที่ได้รับยังไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพอย่างมีคุณภาพ โดยเฉพาะในเขตเมืองที่มีค่าครองชีพสูง การแก้ไขปัญหานี้จำเป็นต้องมีการทบทวนโครงสร้างเงินเดือนและระบบการประเมินวิทยฐานะให้สอดคล้องกับภาระงานและค่าครองชีพในปัจจุบัน เพื่อรักษาครูที่มีคุณภาพให้อยู่ในระบบและดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้เข้ามาสู่วิชาชีพครูมากขึ้น



"หวังสิ่งเดียวคือขอให้เด็กของไทยในผืนธานี ได้มีความรู้เพื่อช่วยเชิดชูไทยให้ผ่องศรี" ความหวังนี้กำลังถูกท้าทาย เมื่อคุณภาพการศึกษาได้รับผลกระทบจากการที่ครูต้องแบ่งเวลาไปทำงานอื่นแทนการสอน การแก้ไขปัญหาต้องอาศัยการปฏิรูประบบการศึกษาอย่างจริงจัง ทั้งการปรับระบบประเมิน จัดสรรบุคลากรสนับสนุน และพัฒนาระบบดิจิทัลเพื่อลดภาระงานเอกสาร



หากต้องการให้ "แสงเรืองเรือง" ของครูไทยยังคงส่องสว่างต่อไป เราจำเป็นต้องเร่งแก้ไขปัญหาเชิงระบบอย่างจริงจัง ไม่เช่นนั้น เราอาจสูญเสียครูที่มีคุณภาพไปมากขึ้นเรื่อยๆ และส่งผลกระทบต่อการศึกษาของชาติในระยะยาว เพราะแม้ครูจะ "สู้ทนอุตส่าห์" แค่ไหน แต่หากระบบยังไม่เอื้อต่อการทำหน้าที่ครูอย่างแท้จริง การ "สร้างชาติไทยให้วัฒนา" ก็คงเป็นได้เพียงความฝันที่ห่างไกล



อ้างอิง 

สพฐ. เปิดเทอมใหม่คืนครูสู่ห้องเรียน ลดภาระครูต่อเนื่อง 3 ด้าน

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

เรียบเรียง : ยศไกร รัตนบรรเทิง บรรณาธิการ TNN 

ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: TNN Thailand วันที่ 4 พฤศจิกายน 2567, 09:50 น.
  • 04 พ.ย. 2567 เวลา 20:19 น.
  • 1,778

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

^