11 เดือน การขับเคลื่อนนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ของกระทรวงศึกษาธิการ
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
ศธ.360 องศา 11 เดือน การขับเคลื่อนนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ของกระทรวงศึกษาธิการพลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เผยถึงกรณี 11 เดือนของการขับเคลื่อนนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ของกระทรวงศึกษาธิการ ว่า นโยบายที่ทํา ก็คือเรียนดีมีความสุข ก็มีการขับเคลื่อนนะครับ ไม่ว่าผู้บริหารหรือเจ้าหน้าที่ คุณครู บุคลากรทางการศึกษา ก็มีความเข้าใจกันอย่างดี โดยเป้าหมายเรา คือลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา และลดภาระนักเรียนและผู้ปกครอง
ส่วนในเรื่องของลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษานะครับ ในเรื่องมิติที่ปรับเปลี่ยนในเรื่องการประเมินวิทยฐานะ เรามีการทำระบบ DPA มาใช้ ซึ่งก็มีความก้าวหน้า เป็นไปตามที่รัฐมนตรีอยากให้เกิดขึ้น ก็มีการดำเนินการกันนะครับ
ซึ่งประโยชน์ที่คุณครูได้รับก็คือ จากที่การประเมินเร็วที่สุด 3 เดือนช้าที่สุด 3 ปี ปัจจุบันเร็วที่สุดคือ 17 วันช้าที่สุดคือ 3 เดือน ก็ทราบผลเร็ว
เรื่องของครูคืนถิ่นที่ดําเนินการ หน่วยงานต่างๆ ให้ความร่วมมืออย่างดีมีการปรับเกณฑ์คะแนน มาตรวัดต่างๆ ส่วนกลางเอง ก็ได้จัดทําระบบ TMS มีการจับคู่ย้ายได้อย่างโปร่งใส
ในเรื่องของการยกเลิกครูเวร ซึ่งตรงนี้ ท่านนายกฯเศรษฐาแล้วก็ครม.มีมติในการยกเลิกคุณครูที่จะต้องอยู่เวร ความสําคัญของชีวิตและร่างกายสําคัญกว่าทรัพย์สิน ก็ทําให้ลดภาระคุณครู คุณครูมีเวลาที่จัดการเรียนการสอน มีเวลาให้เด็กมากขึ้นในการดําเนินการ ประโยชน์ก็ตกกับที่เด็ก
ส่วนอีกเรื่องหนึ่งในเรื่องที่เราเพิ่มเติมมาก็คือการจัดหานักการภารโรงให้กับสถานศึกษาต่างๆ
และอีกเรื่องที่กําลังดําเนินการอยู่ ได้ให้นโยบายไปแล้ว ในเรื่องการจัดทําแอปพลิเคชันหรือแพลตฟอร์มต่างๆนะครับ ก็มีการดําเนินการขับเคลื่อน โดยเฉพาะเรื่อง Anywhere Anytime ตรงนี้ก็รัฐบาลการอนุมัติงบประมาณแล้วอยู่ในระหว่างดําเนินการจัดหา คาดว่าจะได้รับผู้รับจ้าง ก็ประมาณภาคการศึกษาที่ 2 นี้น่าจะได้เริ่มใช้ระบบ
นอกจากนี้แล้ว ก็ในเรื่องระบบการสอบเทียบ ก็ได้มอบหมายสกร. ซึ่งตอนนี้สกร.ก็อยู่ในระหว่างกระบวนการประสานกับสจส. ในการจัดซื้อจัดจ้างกัน จัดทำระบบเพื่อจัดสอบเทียบเด็กต่างๆ ในการดำเนินการ
เครดิตแบงก์ก็ได้ออกประกาศกระทรวงศึกษาธิการแล้ว หน่วยงานต่างๆก็กําลังไปดําเนินการขับเคลื่อนกันต่อในการดําเนินการ เรื่อง Certificate ก็มีการขับเคลื่อน
ส่วนเรื่องระหว่างเรียนมีรายได้ ก็มีการขับเคลื่อนโดยเฉพาะโรงเรียนขยายโอกาส มีการดําเนินการทํา ในส่วนอาชีวะก็มีการดําเนินการทวิภาคีคือร่วมกับสถานประกอบการในการให้นักเรียนไปฝึกงานที่สถานศึกษา ก็จะมีรายได้ด้วย
ส่วนอีกมิติหนึ่ง ในเรื่องของลดภาระนักเรียนที่ได้ดำเนินการเพิ่มเติม ก็คือ สุขาดี มีความสุข จากการที่เราไปสอบถามเด็กนักเรียนต่างๆ ว่าสิ่งใดที่ต้องการมากที่สุด เด็กประมาณ 500,000 กว่าคน เขาก็ตอบมาว่าต้องการสุขาดี เราก็เลยมีนโยบายในเรื่องของสุขาดี มีความสุข ซึ่งโดยเบื้องต้น เราได้ดําเนินการจัดสรรให้กับโรงเรียนที่มีนักเรียนต่ำกว่า 80 คน ถือว่าเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ที่เราจัดสรรไปให้โรงเรียนละ 10,000 บาทในการสนับสนุนในการปรับปรุงสุขา ให้น้องๆสามารถใช้ได้โดยเรามีมิติของสุขาที่มีความสุขก็คือ 5 ส ก็คือ สะอาด สะดวก สบาย สวยงาม สุขลักษณะ
11 เดือนที่ผ่านมานี้มีหลายโครงการที่ช่วยขับเคลื่อนนโยบายการศึกษา ตามนโยบายเรียนดีมีความสุข แล้วก็มีผลเป็นรูปธรรมทั้งภาระครูแล้วก็ลดภาระนักเรียน ในอนาคต ท่านพูดถึงเรื่องของการปฏิวัติการศึกษา โครงการต่างๆที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้เป็นอย่างไร
คือปฏิวัติการศึกษา เราต้องยอมรับว่าการศึกษาของเรามีการพัฒนา แต่ทําไมดูว่าประเทศอื่น เหมือนแซงเรา ก็คงเป็นเพราะว่าประเทศอื่นพัฒนาได้รวดเร็วกว่าเรา เราพัฒนาอาจจะช้านิดนึง ผมก็เลยมาชวน ทุกๆคนนะครับ มาร่วมกันในการปฏิวัติการศึกษาก็คือการที่ทําอย่างไรก็ตามที่มีประโยชน์ อีกส่วนหนึ่งก็คงเป็นเรื่องของการที่จะนําระบบ AIเข้ามาสู่ในสถานศึกษา ไม่ว่าจะเป็นครูผู้สอน และนักเรียนต่างๆ ต้องเรียนรู้ ซึ่งช่วงที่ผ่านมา ก็ได้มีการทําความร่วมมือลงนาม MOU กับอว. ในการดําเนินการ เดี๋ยวเราจะในการดำเนินการ แต่นอกจากที่ทําความร่วมมือ MOU กับอว.แล้ว เราก็จะจะทําในมิติของการนําเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาสนับสนุนในการเรียนการศึกษาขึ้นมากขึ้น
อีกเรื่องหนึ่ง สําหรับโครงการใหญ่ของกระทรวงศึกษาธิการ ในการเตรียมเป็นเจ้าภาพการประชุมรัฐมนตรีด้านการศึกษาอาเซียน อยากให้ท่านมองภาพตรงนี้ว่า ความคาดหวังสําหรับการเป็นเจ้าภาพของกระทรวงศึกษาของประเทศไทยนี้เป็นอย่างไร
รัฐมนตรีเชื่อว่ามีความพร้อมเต็มที่ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เดี๋ยววันที่ 9 เราจะประชุมกันอีกครั้ง ซึ่งในเรื่องที่เราจะได้ ก็เป็น หัวข้อของเรา ก็คือเรื่องเทคโนโลยีเกี่ยวข้องกับการศึกษา แล้วก็กําหนดเป็นในการดําเนินการ เพราะฉะนั้นเราก็จะเชิญรัฐมนตรีศึกษาอาเซียนแล้วก็พันธมิตรต่างๆ ที่เข้ามาก็จะมาร่วมกัน ก็จะมาดูในมิติของการศึกษาของจังหวัดบุรีรัมย์ของเราด้วยส่วนหนึ่ง ว่ายังมีการทําอย่างไร แล้วก็อาจจะมีข้อแนะนําต่างๆ ก็จะมีการแลกเปลี่ยนกัน การประชุมครั้งนี้ น่าจะเกิดประโยชน์กับประเทศไทยและก็ภูมิภาคอาเซียนเราเป็นอย่างยิ่ง ก็เชิญชวนพี่น้องชาวไทย ร่วมกับเป็นเจ้าภาพในการประชุมรัฐมนตรีศึกษาอาเซียนครั้งนี้
เป็นโอกาสดีที่จะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และผลักดันความร่วมมือเกี่ยวกับเรื่องของการขับเคลื่อนการศึกษากันต่อไป
นี่คือส่วนหนึ่งที่กระทรวงศึกษาธิการยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนการศึกษาในยุคดิจิทัล เพื่อพัฒนาผู้เรียนในทุกมิติ
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: Ch3Plus.com