ศธ.ฟัน “อาญา-วินัย-ยกเลิกตั๋วครู” พวกอนาจารเด็ก
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
ศธ.ฟัน “อาญา-วินัย-ยกเลิกตั๋วครู” พวกอนาจารเด็กเมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2567 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า สถานการณ์ช่วงนี้กำลังเข้าสู่กลางภาคเรียนที่ 1 ของปีการศึกษา 2567 ซึ่งในโลกออนไลน์เราจะเห็นข่าวที่ไม่เหมาะสมเกี่ยวกับความปลอดภัยออกมาเรื่อย ๆ ปัญหาความรุนแรง การอนาจาร ล่วงละเมิด ไม่ว่าจะเป็นระหว่างครูกับเด็ก เด็กด้วยกัน หรือแม้กระทั่งคู่กรณีเป็นบุคคลภายนอก ทำให้สังคมตั้งคำถามว่าโรงเรียนยังเป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับลูกหลานของเราอยู่หรือไม่
ที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดย พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ มีนโยบายที่ชัดเจนว่าสถานศึกษาจะต้องเป็นสถานที่ที่มีความปลอดภัยของเด็กนักเรียน ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ใด ๆ ก็ตามที่กระทบกับเด็ก ศธ.จะไม่ยอมเด็ดขาด โดยเฉพาะเรื่องครูกระทำอนาจารลูกศิษย์ของตัวเองแบบนี้ยิ่งไม่ควรเกิดขึ้น จึงได้กำชับให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ติดตามตรวจสอบกรณีเกี่ยวกับการทำอนาจารกับเด็กอย่างเข้มข้น
โฆษก ศธ. กล่าวอีกว่า สิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อเกิดเหตุคือ โรงเรียนต้องเข้าไปจัดการกับต้นตอของปัญหา และคลี่คลายสถานการณ์ให้เรียบร้อยทันที ภายใต้มาตรการเผชิญเหตุที่ ศธ.กำหนด แล้วรายงานผลการจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ห้ามปกปิดข่าว หากตรวจสอบพบว่าโรงเรียนจงใจไม่รายงานเหตุให้ สพท. ทราบ ผู้อำนวยการโรงเรียนจะถือว่ามีความผิดและต้องได้รับโทษทางปกครองด้วย จากนั้น สพท.จะตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง และย้ายผู้ถูกกล่าวหาออกจากพื้นที่ไปก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน และทำให้การสืบสวนฯ เป็นไปอย่างยุติธรรม โดยการสืบสวนฯ จะต้องทำให้เสร็จภายใน 7 วัน ทั้งนี้ ระหว่างที่คณะกรรมการสืบสวนฯ กำลังดำเนินงานอยู่ ในกรณีที่เป็นการทำอนาจารต่อเด็ก สามารถพักราชการผู้ก่อเหตุไว้ก่อนได้ เนื่องจากเป็นเหตุร้ายแรงที่ ศธ. ยอมรับไม่ได้เด็ดขาด สำหรับผลการสืบสวนฯ หากมีมูลความผิดจริงก็จะเข้าสู่กระบวนการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง และลงโทษทั้งทางอาญา ทางวินัยราชการ ซึ่งโทษสูงสุดคือไล่ออกจากราชการ
“ศธ.จะไม่ยอมรับความรุนแรงในทุกรูปแบบ รวมทั้งการกระทำคุกคามอนาจารต่อเด็ก ซึ่งจะมีการลงโทษผู้กระทำผิดตามระเบียบและข้อกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นบุคคลากรทางการศึกษา หรือบุคคลภายนอกโดยไม่ละเว้น พร้อมทั้งยืนยันให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟูเด็กที่ได้รับผลกระทบ คุ้มครองสิทธิของเด็ก และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิม เพื่อให้เด็กทุกคนอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย อบอุ่น และเอื้อต่อการเรียนรู้” นายสิริพงศ์ กล่าวและว่า นอกจากการลงโทษผู้กระทำผิดทางกฎหมายและวินัยราชการแล้ว สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา โดยสำนักจรรยาบรรณวิชาชีพและนิติการ จะดำเนินการเอาผิดทางด้านจรรยาบรรณของวิชาชีพด้วย ซึ่งหากหน่วยงานต้นสังกัดมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง และให้ออกจากราชการไว้ก่อนและพักราชการ คุรุสภาก็จะเสนอพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพไว้ก่อนตลอดระยะเวลาการสอบสวนด้วย และหากผลตัดสินว่ามีความผิดจริงตามข้อกล่าวหาก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดด้วยการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของผู้กระทำผิดทันที.
#At_HeaR #ข่าวจริงเข้าหู #กระทรวงศึกษาธิการ
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: เฟซบุ๊กแฟนเพจ At HeaR วันที่ 17 กรกฎาคม 2567