ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 5/2567
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 5/2567ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 5/2567 วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 โดยมี พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุม และมี รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการ ก.ค.ศ. เป็นเลขานุการการประชุมซึ่งที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและมีมติที่สำคัญ ดังนี้
1. เห็นชอบ แนวปฏิบัติการตรวจสอบความซ้ำซ้อนหรือความคล้ายคลึงของผลงานทางวิชาการที่ขอมีวิทยฐานะและเลื่อนเป็นวิทยฐานะ เชี่ยวชาญ และเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ
จากการดำเนินการประเมินผลงานทางวิชาการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่ขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ และวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ ของ อ.ก.ค.ศ.วิสามัญเฉพาะกิจฯ คณะต่าง ๆ ที่ผ่านมา ได้มีการตรวจสอบพบว่า ผลงานทางวิชาการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา มีความซ้ำซ้อนหรือลอกเลียนผลงานทางวิชาการของผู้อื่นอยู่บ่อยครั้ง โดยมีหลายกรณีที่ ก.ค.ศ. ได้มีมติให้ส่วนราชการต้นสังกัด ดำเนินการตามมาตรา 91 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547
ดังนั้น เพื่อให้การประเมินผลงานทางวิชาการเป็นไปด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น จึงให้นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เป็นเครื่องมือในการตรวจสอบความซ้ำซ้อนหรือความคล้ายคลึงของผลงานทางวิชาการโดยที่ประชุม ก.ค.ศ. มีมติเห็นชอบแนวปฏิบัติการตรวจสอบความซ้ำซ้อนหรือความคล้ายคลึงของผลงานทางวิชาการที่ขอมีวิทยฐานะและเลื่อนเป็นวิทยฐานะ เชี่ยวชาญและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ เพื่อเป็นการกลั่นกรองผลงานทางวิชาการเบื้องต้นก่อนส่งให้คณะกรรมการประเมินและเพื่อให้กระบวนการตรวจสอบมีความชัดเจน เป็นไปตามเจตนารมณ์ของการประเมินวิทยฐานะและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเป็นการรักษาจรรยาบรรณทางวิชาการให้เหมาะสมกับการที่วิชาชีพครูได้รับการยกย่องให้เป็นวิชาชีพชั้นสูง ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่สำนักงาน ก.ค.ศ. มีหนังสือแจ้งมติ ก.ค.ศ.
2.เห็นชอบการกำหนดขนาดสถานศึกษาและรายละเอียดตัวชี้วัดและคะแนนในการประเมินตามองค์ประกอบการประเมินศักยภาพของผู้ประสงค์ขอย้าย (กรณีปกติ) ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปี พ.ศ. 2567
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เสนอ ก.ค.ศ. พิจารณาเห็นชอบการกำหนดขนาดสถานศึกษาและรายละเอียดตัวชี้วัดและคะแนนในการประเมินตามองค์ประกอบการประเมินศักยภาพของผู้ประสงค์ขอย้าย (กรณีปกติ) ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปี พ.ศ. 2567 เพื่อให้เป็นไปหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ (ว 9/2567) ที่กำหนดให้ สพฐ. และส่วนราชการอื่นแจ้งการกำหนดขนาดสถานศึกษาและการกำหนดตัวชี้วัดฯ ดังกล่าว ให้สำนักงาน ก.ค.ศ. ภายในวันที่ 15 พฤษภาคม ของทุกปี เพื่อเสนอ ก.ค.ศ. พิจารณาให้ความเห็นชอบ นั้น ที่ประชุม ก.ค.ศ. ได้พิจารณาเห็นชอบการกำหนดขนาดสถานศึกษาตามจำนวนนักเรียน เป็น 4 ขนาด ดังนี้
สถานศึกษาขนาดเล็ก จำนวนนักเรียน ตั้งแต่ 119 คนลงมา
สถานศึกษาขนาดกลาง จำนวนนักเรียน ตั้งแต่ 120 – 719 คน
สถานศึกษาขนาดใหญ่ จำนวนนักเรียน ตั้งแต่ 720 – 1,679 คน
สถานศึกษาขนาดใหญ่พิเศษ จำนวนนักเรียน ตั้งแต่ 1,680 คนขึ้นไป
และเห็นชอบรายละเอียดตัวชี้วัดและคะแนนในการประเมินตามองค์ประกอบการประเมินศักยภาพของผู้ประสงค์ขอย้าย (กรณีปกติ) ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปี พ.ศ. 2567
3. อนุมัติ แต่งตั้งอนุกรรมการ ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา แทนตำแหน่งที่ว่าง จำนวน 17 เขต
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: สำนักงาน ก.ค.ศ. วันที่ 30 พฤษภาคม 2567