รมว.ศึกษาธิการ ตรวจเยี่ยมสพฐ.พอใจนโยบายลดภาระครู ปรับการประเมินรูปแบบใหม่
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
“บิ๊กอุ้ม” ตรวจเยี่ยมสพฐ.พอใจนโยบายลดภาระครู ปรับการประเมินรูปแบบใหม่รมว.ศึกษาธิการ ตรวจเยี่ยมสพฐ.มอบนโยบายเขตพื้นที่ทั่วประเทศ พอใจนโยบายลดภาระครู พร้อมปรับการประเมินรูปแบบใหม่ เน้นตามบริบทของพื้นที่
เมื่อวันที่ 15 ม.ค. พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้แก่ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทั่วประเทศว่า การประชุมมอบนโยบายครั้งนี้ตนได้จัดทำแบบสอบถาม เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้ดำเนินการจัดทำแบบสอบถามหลังมอบนโยบาย ซึ่งสพฐ.ได้นำเสนอผลงานต่างๆ ที่ผ่านมา โดยเป็นการดำเนินการตามนโยบายของรมว.ศธ.เป็นที่น่าชื่นชมหลายเรื่อง เช่น การลดภาระครู การประเมินวิทยฐานะครู การบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กที่นำงานธุรการมอบให้เขตพื้นที่ทำแทน เป็นต้น โดยตนถือว่านโยบายที่ตนมอบให้สพฐ.ไปดำเนินการ โดยเฉพาะเรื่องการลดภาระครูนั้นเป็นที่น่าพอใจและทำได้ดี รวมถึงได้ติดตามการดำเนินการโครงการการเรียนการสอนผ่านมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่สร้าง 183 โรงเรียนต้นแบบดีแอลทีวีให้เป็นเครือข่ายโรงเรียนพี่โรงเรียนน้อง เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาในโรงเรียนพื้นที่ห่างไกลได้
รมว.ศธ.กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ยังกำชับเรื่องการทุจริตต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องอาหารกลางวันนักเรียนของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 21 แม่ฮ่องสอนที่เมนูอาหารกลางวันของเด็กเป็นเมนูไข่ต้มกับน้ำปลา ซึ่งตนมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว โดยให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งโรงเรียนราชประชานุเคราะห์เป็นโรงเรียนเพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาของสังคม และครูในกลุ่มโรงเรียนนี้สละเวลาและอุทิศตนทำงานอย่างหนัก ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ ตนไม่อยากให้เหมารวมทั้งหมด เพราะโรงเรียนราชประชานุเคราะห์อีกหลายแห่งบริหารจัดการสถานศึกษาของตัวเองได้ดีเยี่ยม ส่วนประเด็นการจัดทำการประเมินผู้บริหารเขตพื้นที่และผู้บริหารสถานศึกษาด้วยรูปแบบใหม่นั้น ตนต้องการให้ผู้รับการประเมินเป็นผู้บอกเองว่าทำอะไรได้แบบไหน เพราะต้องยอมรับว่าทรัพยากรด้านงบประมาณและงานบุคคลต่างๆ แต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน ดังนั้นผู้รับการประเมินจะรู้ตัวเองดีว่ามีศักยภาพทำได้มากน้อยแค่ไหน เช่น บางเขตพื้นที่บอกว่าไม่มีทรัพยากรอะไรเลยติดศูนย์แต่สามารถดำเนินการให้เพิ่มเป็น 3 ได้ ซึ่งเท่ากับว่าการประเมินจะให้คะแนนเพิ่มอีก 3 แต้ม เป็นต้น ดังนั้นการประเมินรูปแบบใหม่จะประเมินตามบริบทของพื้นที่
“ผมขอฝากผู้บริหารทุกคนให้ยึดแนวทางการทำงานของผมคือ ทำดีทำได้ทำทันที อะไรที่ดีมีประโยชน์ก็ขอให้แนะนำมาได้ เพราะแนวคิดของทุกคนจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการศึกษา ขอให้ช่วยเดินหน้านโยบายเรียนดีมีความสุขด้วย ผมเชื่อว่าหากครูทุกคนมีความสุขจะทำให้ผลการเรียนของเด็กดีขึ้น โดยเฉพาะการลดภาระของครู นักเรียนและผู้ปกครอง อย่างไรก็ตาม หลังการประชุมเสร็จสิ้นได้ฝากให้ผู้บริหารทำแบบสอบถามและนำข้อแนะนำกลับมาให้ผมพิจารณา เพื่อวางแนวทางแก้ปัญหาร่วมกัน การทำงานผมยึดความถูกต้องเป็นหลักและต้องรวดเร็วทันเวลา” พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าว
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์เดลินิวส วันที่ 15 มกราคม 2567 15:31 น.