สภา นร.ชง ศธ.ออก กม.ป้องกันบลูลี่-ใช้มือถือในห้องเรียน
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
สภา นร.ชง ศธ.ออก กม.ป้องกันบลูลี่-ใช้มือถือในห้องเรียน
เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ที่ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้มีการจัดงานวันเด็กแห่งชาติแห่งชาติ ประจำปี 2567 ซึ่งภายในงาน พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ได้เปิดโอกาสให้สภานักเรียนโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เข้ารับฟังโอวาทพร้อมนำเสนอข้อคิดเห็นจากการประชุมสภานักเรียน โดยตัวแทนสภานักเรียนได้นำเสนอข้อคิดเห็นใน 4 ประเด็น ดังนี้ ประเด็นที่ 1. การมีส่วนร่วมของสภานักเรียนในบทบาทคณะกรรมการสถานศึกษา สภานักเรียนควรมีส่วนร่วมคิด วางแผนและร่วมปฏิบัติในการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพสูงสุด มีส่วนร่วมออกแบบและวางแผนจัดการศึกษาเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการและศักยภาพของนักเรียนแต่ละบุคคล และมีส่วนร่วมในการวัดผลและประเมินผลการจัดการศึกษา ประเด็นที่ 2.การรู้จักประวัติศาสตร์ในท้องถิ่นของตนเองให้ลึกซึ้ง ประเด็นที่ 3. การรักษามารยาทการใช้โทรศัพท์ในห้องเรียน ศธ.ควรส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกโรงเรียนเห็นความสำคัญของการลดปัญหาการใช้โทรศัพท์มือถือในห้องเรียน มีการนิเทศติดตามผลการดำเนินงานเพื่อลดปัญหาอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง และประเด็นที่ 4.ส่งเสริมแนวทางการป้องกันความรุนแรงจากการบูลลี่ (Bully) โดยขอให้ ศธ.นำประเด็นปัญหานี้เข้าสู่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อกำหนดวิธีการในการให้ความคุ้มครองเด็กที่ถูก (Bully) มีการแก้ไขหรือบัญญัติเพิ่มเติมในข้อกฎหมายที่มีการบังคับใช้อยู่แล้วในปัจจุบัน เพื่อให้ทันกับสถานการณ์ของโลกให้มีความชัดเจนและเฉพาะตัวมากขึ้น ศธ.ควรจัดหานักจิตวิทยาประจำโรงเรียนหรืออบรมบุคลากรทางการศึกษาที่มีอยู่เพื่อเพิ่มศักยภาพทางด้านจิตวิทยา ทั้งสั่งการให้ สถานศึกษา กำหนดมาตรการ การป้องกันและแก้ไขปัญหา Bully ในสถานศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม
โดย พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวให้โอวาทสภานักเรียนตอนหนึ่ง ว่า ทั้ง 4 เรื่องที่สภานักเรียนเสนอมานี้ ตนรับไว้พิจารณาทุกเรื่อง เพราะถือเป็นหลักคิดที่มีประโยชน์ และเป็นสิ่งที่ดีงามตามระบอบประชาธิปไตย แต่สิ่งที่อยากฝากสภานักเรียนก็คือ อยากให้มองอะไรเป็นมุมกว้าง ๆ โดยเฉพาะข้อเสนอการขอเข้าไปมีส่วนร่วมในการวัดผลและประเมินผลการจัดการศึกษานั้น หากมองตามหลักการแล้วถ้านักเรียนมีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนั้น ๆ ก็ไม่ควรเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น ส่วนเรื่องที่จะให้มีการออกกฎระเบียบหรือข้อบังคับมาบังคับห้ามไม่ให้มีการใช้โทรศัพท์มือถือในห้องเรียน หรือออกกฎหมายเพื่อดูแลป้องกันไม่ให้เกิดการบลูลี่นั้น ตนเห็นว่าการออกกฎหมายมาบังคับนั้น ถือเป็นเผด็จการ ขณะนี้ประเทศหลุดพ้นจากระบอบเผด็จการมาแล้วเราจึงไม่ควรย้อนกลับไปสู่วังวนนั้นอีก แต่ตนเห็นว่าสภานักเรียนควรเริ่มต้นแก้ปัญหาจากตัวนักเรียนด้วยกันก่อน เช่น นักเรียนพูดคุยและบอกต่อกันเองว่าไม่ควรใช้มือถือในห้องเรียน หรือไม่ควรไปบลูลี่กัน รุ่นพี่ควรช่วยดูแลรุ่นน้อง หากช่วยกันจริง ๆ จัง ๆ การออกระเบียบหรือกฎหมายมาบังคับก็คงไม่มีความจำเป็นอะไร เราควรใช้แนวทางตามหลักประชาธิปไตยกันก่อน แต่ถ้าลองทำไปแล้วไม่เป็นผลก็เสนอกลับมาให้ตนออกกฎหมายเพื่อบังคับกันก็ได้ ทั้งนี้ฝากให้ผู้บริหารองค์กรหลัก ศธ.ทุกแท่ง นำข้อเสนอของสภานักเรียนไปพิจารณา เรื่องไหนสนับสนุนส่งเสริมได้ก็ขอให้ช่วยผลักดัน.
#At_HeaR #ข่าวจริงเข้าหู #กระทรวงศึกษาธิการ #สภานักเรียน #สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: เฟซบุ๊กบุ๊กแฟนเพจ At HeaR วันที่ 13 มกราคม 2567