ครูสาวได้เงินเดือน 7 พันบาทไม่พอใช้ ลาออกขายส้มตำขายได้วันละ 4 หมื่นบาท
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
ครูสาวได้เงินเดือน 7 พันบาทไม่พอใช้ ลาออกขายส้มตำขายได้วันละ 4 หมื่นบาทครูสาวอัตราจ้างวัย 30 ปี ลาออกจากครูเงินเดือน 7 พันบาท หันหน้ามาขายส้มตำสร้างรายได้งามพุ่ง 4 หมื่นบาทต่อวัน เผยแรกๆญาติก็คัดค้านการลาออก พอเห็นรายได้ทุกคนก็เข้าใจ
เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ “ร้านส้มตำครูติ่ง” ตั้งอยู่บริเวณริมถนนทางหลวงหมายเลข 24 โชคชัย-เดชอุดม บ้านเดื่อนอก ต.ตาอุด อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ หลังได้รับแจ้งจากลูกค้าที่มาใช้บริการที่ร้านว่า ร้านนี้ส้มตำอร่อย และมีอาหารหลากหลาย เมื่อไปถึงได้พบกับ น.ส.สร้อยสุดา สิทธิศร อายุ 30 ปี ชาวจ.ศรีสะเกษ เจ้าของร้าน พร้อมด้วยพนักงาน กำลังสาละวนเร่งมือตำส้มตำและเสิร์ฟอาหารอย่างคึกคัก ทั้งลูกค้าที่สั่งรับประทานในร้านและซื้อกลับบ้าน จนต้องต่อคิวยาวเหยียด
น.ส.สร้อยสุดา เล่าว่า เดิมทีตนเป็นครูอัตราจ้างเงินเดือน 7,000 บาท หลังเลิกเรียนและช่วงปิดเทอม ตนได้ใช้เวลาว่างเปิดร้านขายส้มตำที่บ้าน ขายไปขายมารสชาติติดปาก อร่อยจนเป็นที่เลื่องลือ คนรู้จักเยอะ ขายดีทั้งส้มตำและนํ้าปลาร้า จึงได้ตัดสินใจลาออกจากการเป็นครู มาเปิดร้านขายส้มตำ ปีนี้เป็นปีที่ 3 เมนูยอดฮิตของทางร้านตอนนี้ ก็จะเป็นตำทะเลรวม ตำหอยนา ตำข้าวโพด ตำปูปลาร้า ตำป่า เป็นต้น
“สาเหตุที่ลูกค้าเต็มร้านจนแน่นทุกวัน ตนคิดว่าเป็นเพราะรสชาติของปลาร้าฝีมือแม่ ที่แม่เป็นคนหมักเอง วันแรกที่ขายส้มตำ มีรายได้วันละ 1,000 บาท หลังๆมามีลูกค้าติดใจรสชาติและมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนบางวัน โดยเฉพาะช่วงเทศกาล ขายได้สูงสุดต่อวันถึง 20,000-40,000 บาท แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะได้ทุกวัน และเมื่อเทียบรายได้จากการเคยเป็นครูเงินเดือน 1 เดือน ได้ 7,000 บาท กับถ้าเราขายได้วันเดียวได้เงิน 7,000 บาท มันก็ดูต่างกันเยอะมาก จึงได้ตัดสินใจลาออก แรกๆญาติๆก็ต่อต้าน ว่าเป็นครูอยู่ดีๆ ทำไมจะต้องลาออกมาขายส้มตำ แต่พอทุกคนเห็นรายได้ทุกคนก็เข้าใจ” น.ส.สร้อยสุดา กล่าว
ด้านลูกค้ารายหนึ่ง เล่าว่า เป็นลูกค้าประจำของร้านนี้มานาน เมนูที่ชอบมากๆ ก็คือตำทะเล เพราะใช้กุ้ง หอย ปู ตัวใหญ่มาก อร่อยคุ้ม ราคาไม่แพง บางวันก็มารับประทานที่ร้าน บางวันก็จะมาสั่งซื้อกลับไปรับประทานที่บ้าน และนอกจากนี้ยังรับหิ้วไปฝากเพื่อนๆที่สั่งซื้ออีกด้วย.
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 7 ตุลาคม 2566 เวลา 1:00 น.