LASTEST NEWS

27 ธ.ค. 2567คำขวัญเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 “ทุกโอกาสคือการเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี 27 ธ.ค. 2567สพป.ระยอง เขต 1 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 18 อัตรา - รายงานตัว 6 มกราคม 2568 27 ธ.ค. 2567สำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เปิดสอบบรรจุเป็นพนักงาน 7 อัตรา วุฒิปริญญาตรี เงินเดือน 18,000 - 22,840 บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 10 ม.ค.2568 26 ธ.ค. 2567(( ลิงก์เว็บไซต์ )) รับสมัคร สอบ ก.พ. ภาค ก e-Exam ประจำปี 2568 จำนวน 181,170 ที่นั่งสอบ เปิดระบบรับสมัครตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป - 28 มกราคม 2568 26 ธ.ค. 2567ก.ค.ศ.อนุมัติเลื่อนวิทยฐานะ "เชี่ยวชาญ" ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 8 ราย 26 ธ.ค. 2567สพม.ฉะเชิงเทรา ให้เขตอื่นขอใช้บัญชีฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย 24 อัตรา เช็กรายละเอียดที่นี่ 25 ธ.ค. 2567ประกาศ สพฐ. เรื่อง รายชื่อผู้ผ่านการประเมินสมรรถนะ ครั้งที่ 1 และมีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ (ครั้งที่ 2) เพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป (ส่วนกลาง) 25 ธ.ค. 2567สพป.บุรีรัมย์ เขต 1 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 14 อัตรา รายงานตัว 26 ธันวาคม 2567 25 ธ.ค. 2567สพป.เชียงใหม่ เขต 3 ขอใช้บัญชีครูผู้ช่วย สพป.เชียงใหม่ เขต 2 จำนวน 10 อัตรา รายงานตัว 6 มกราคม 2568 25 ธ.ค. 2567โรงเรียนพรตพิทยพยัต เปิดสอบครูอัตราจ้าง และลูกจ้างชั่วคราว 4 อัตรา เงินเดือน 15,000.-บาท สมัครตั้งแต่บัดนี้ - 27 ธันวาคม 2567

ผลการประชุมองค์กรหลัก 5/2557

  • 04 ก.พ. 2557 เวลา 10:03 น.
  • 2,872
ผลการประชุมองค์กรหลัก 5/2557

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 30/2557
ผลการประชุมองค์กรหลัก 5/2557
 
ศึกษาธิการ - นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ภาวิช ทองโรจน์ และ ดร.กิตติ ลิ่มสกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมประชุมผู้บริหารองค์กรหลัก ครั้งที่ 5/2557 เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ห้องประชุมสำนักพัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรอาชีวศึกษา
 
>> เร่งดำเนินการในช่วงสภาวะวิกฤตทางการเมือง
 
รมว.ศธ.แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า มีเรื่องที่จะต้องเร่งดำเนินการในช่วงสภาวะวิกฤตทางการเมือง 3 เรื่องหลัก ได้แก่
 
- การดำเนินงานของ ศธ.  คาดว่าปัญหาความขัดแย้งน่าจะยืดเยื้อต่อไปอีก แต่ควรให้หน่วยงานต่างๆ ในสังกัดสามารถทำงานได้ตามปกติ และสถานศึกษาต่างๆ สามารถเปิดเรียนได้ เพราะขณะนี้ทางศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) ได้ขอความร่วมมือให้ทุกหน่วยงานแจ้งแผนการกลับเข้าทำงานตามปกติระหว่างวันที่ 3-5 กุมภาพันธ์นี้ จึงขอให้หารือร่วมกันเพื่อประเมินสถานการณ์และกำหนดวันที่จะกลับเข้าปฏิบัติงานในกระทรวงต่อไป
 
- การเลือกตั้ง ซึ่งมีบุคลากรของ ศธ. จำนวนมาก เข้าไปมีส่วนร่วมในการเป็นกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งการเลือกตั้งก็จะยืดเยื้อออกไปอีกเช่นกัน โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้แจ้งแล้วว่า หากนับคะแนนไม่ครบทุกหน่วยในประเทศ ก็จะนับคะแนนบัญชีรายชื่อไม่ได้
 
 ทั้งนี้ รมช.ศธ. ได้กล่าวแสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่และบุคลากรของ ศธ.ที่มีส่วนร่วมในการจัดการเลือกตั้งที่ผ่านมา ทั้งการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้ง และการเป็นกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ที่กำหนดจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2557 และเลือกตั้งทั่วไปนั้น เจ้าหน้าที่และบุคลากรของ ศธ.ก็จะต้องเข้าไปมีส่วนร่วมเช่นเดิม ทั้งในการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้ง หรือเป็นกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง นอกจากนี้ ศธ.ได้มีการหารือร่วมกับ กกต. เพื่อหาแนวทางรองรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น เช่น การตั้งกรรมการสำรองประจำหน่วยเลือกตั้ง และการขยายเวลาในการตั้งกรรมการสำรองประจำหน่วยเลือกตั้งดำเนินการได้
 
- การดำเนินงานเรื่องการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งเป็นภารกิจหลักที่ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามงบประประมาณ ขอให้นำเสนอในที่ประชุมองค์กรหลัก โดยสรุปเสนอความก้าวหน้าในแต่ละหัวข้อแบบสั้นๆ ส่วนหัวข้อที่จำเป็นต้องคุยในรายละเอียดมากๆ ก็ให้ดึงเรื่องนั้นขึ้นมาหารือแบบยาวๆ ได้ ทั้งนี้ รมว.ศธ.ได้มอบหมายให้สำนักงานรัฐมนตรี (สร.) รวบรวมรายชื่อคณะกรรมการต่างๆ ที่ รมว.ศธ.เป็นประธานหรือมีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมทั้งรายงานสถิติการประชุมของคณะกรรมการเหล่านั้นด้วย

 
>> รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานในช่วงสภาวะวิกฤตขององค์การค้าของ สกสค.
 
นายสมมาตร์ มีศิลป์ ผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. ได้รายงานผลกระทบจากการปิดล้อมโรงพิมพ์องค์การค้าของ สกสค.ของกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมือง ซึ่งทำให้องค์การค้าของ สกสค. ไม่สามารถดำเนินการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งที่โรงพิมพ์ได้ จึงได้ย้ายไปผลิตบัตรเลือกตั้งต่อที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 จนสามารถจัดพิมพ์และทยอยส่งบัตรเลือกตั้งได้ทันการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมีประมาณการค่าใช้จ่ายเบื้องต้นเป็นเงินทั้งสิ้น 156,096,000 บาท
 
ทั้งนี้ องค์การค้าของ สกสค.ได้รับความร่วมมือจากพนักงาน เจ้าหน้าที่ และลูกจ้างของ องค์การค้าของ สกสค. กว่า 800 คน เป็นอย่างดี และได้รับความอนุเคราะห์และอำนวยความสะดวกในการขนย้ายและจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งในหน่วยงานส่วนกลางและระดับภูมิภาค จากกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 ศอ.รส. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นอย่างดียิ่งด้วย
 
รมว.ศธ.ขอให้องค์การค้าของ สกสค. เร่งดำเนินการจัดพิมพ์หนังสือเรียนให้ทันตามแผนการปฏิบัติงานด้วย โดยอาจจะจัดประชุมหารือเพื่อวางแผนจัดพิมพ์หนังสือ เพราะการพิมพ์หนังสือเรียนเป็นหน้าที่หลักขององค์การค้าของ สกสค. และการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งก็เป็นเรื่องสำคัญของประเทศชาติ แต่จะจัดแบ่งคนและงานอย่างไรให้ทุกอย่างเดินหน้าไปได้ ทั้งนี้ หากเกิดผลกระทบหรือติดขัดอย่างใด ขอให้รายงานทันที เพื่อที่จะได้สื่อสารไปยังผู้เกี่ยวข้องทั้งหลาย เช่น ผู้ปกครอง ผู้ค้าปลีก สถานศึกษา สื่อมวลชน หรือแม้กระทั่งอาจจะต้องสื่อสารไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อให้ลดระดับความรุนแรงในการสร้างความเสียหายด้วย
 
  1) สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.)
 
- หน่วยงานในสังกัด สป. มีศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังสภาวะวิกฤตทางการเมืองทำหน้าที่อยู่ภายใน ศธ. และมีการประชุมทุกวัน มีเพียงวันที่ 28 – 29 มกราคมเท่านั้น ที่ไม่สามารถประชุมได้ สำหรับหน่วยงานต่างๆ ของ สป. ขณะนี้สามารถปฏิบัติงานได้ตามปกติแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานที่ตั้งอยู่ในบริเวณ ศธ. ซึ่งมีกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองปิดประตูเข้าออก ตัดไฟ และไม่ให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่เข้าไปทำงานนั้น สป.ได้ดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ เช่น จัดเวรยามเฝ้าระวังภายใน ศธ.ตลอดเวลากลางคืน ประสานงานไปยังการไฟฟ้านครหลวงเพื่อต่อไฟให้กับ ศธ. และแจ้งความเหตุการณ์ที่ผู้ชุมนุมสร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินของทางราชการแล้ว
 
- สถานศึกษา ได้รับผลกระทบสูงสุดจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง คือในวันที่ 13 มกราคม 2557 โดยมีนักเรียนทั่วประเทศได้รับผลกระทบจำนวน 666,814 คน และโดยส่วนใหญ่สถานศึกษาจะพยายามเปิดเรียนให้ได้มากที่สุด รวมทั้งได้มีการสอนชดเชย เพิ่มชั่วโมงเรียนจากเวลาปกติมากขึ้น และบางแห่งอาจะมีสอนเพิ่มเติมในวันหยุด
 
2) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)  มีโรงเรียนได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง ข้อมูล ณ วันที่ 31 มกราคม 2557 พบว่ามีสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ได้รับผลกระทบจำนวน 1 เขต รวม 5 โรงเรียน  ครูและนักเรียน จำนวน 750 คน ส่วนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ได้รับผลกระทบจำนวน 1 เขต รวม 6 โรงเรียน ครูและนักเรียน จำนวน 12,683 คน ทั้งนี้ มีเรื่องน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง คือ การจัดโครงการติวเข้มให้แก่นักเรียนบางอำเภอของจังหวัดสงขลา ได้ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมขัดขวาง ทำให้นักเรียนเสียโอกาสทางการศึกษา
 
3) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)  สถานศึกษาในสังกัด สอศ.ทุกแห่งสามารถเปิดเรียนได้ตามปกติแล้ว
 
4) สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)  ขณะนี้ สกอ.ได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอดเวลาและจัดให้มีฝ่ายเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ข้าราชการและเจ้าหน้าที่สามารถทำงานเข้าไปทำงานได้ตามปกติโดยไม่ถูกตัดน้ำตัดไฟแต่อย่างใด  ในส่วนของมหาวิทยาลัยพบว่า ทุกมหาวิทยาลัยเปิดการเรียนการสอนตามปกติ อาจจะมีบางมหาวิทยาลัยที่ได้รับผลกระทบบ้าง แต่ไม่มากนัก ซึ่งต่อจากนี้ไปจะหารือร่วมกับ สพฐ. เกี่ยวกับการออกใบรับรองการศึกษา เพื่อให้นักเรียนใช้ในการสอบเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย รวมทั้งเรื่องการสอบตรง การกวดวิชาต่างๆ
 
  ทั้งนี้ ผู้แทน สกอ. ได้เสนอวิธีการเจรจากับผู้ชุมนุมทางการเมืองว่า ควรบอกกล่าวกับผู้ชุมนุม ถึงสิ่งที่ควรหรือต้องทำ หรือผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับการศึกษาของเด็กและเยาวชนไทย มากกว่าการห้ามปราบหรือใช้มาตรการบังคับ เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายไปได้
 
รมว.ศธ.กล่าวว่า เหตุการณ์มีแนวโน้มว่าจะยืดเยื้อต่อไป เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมต้องการขัดขวางการทำงานของข้าราชการและโรงเรียน เพื่อต้องการไม่ให้การเลือกตั้งสำเร็จเป็นผลสมบูรณ์ ฉะนั้นเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต ควรจะต้องมีหนังสืออย่างเป็นทางการไปยังหน่วยงานต่างๆ ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค เพื่อรายงานสถานการณ์ เช่น การเปิดปิดสถานศึกษา ควรนำระเบียบทางราชการมาบังคับใช้ เพื่อป้องกันความเสียหายให้กับทางราชการ เพราะไม่ใช่เรื่องของการเมือง เป็นเรื่องของการศึกษาของเด็กและเยาวชนของชาติ หากปล่อยปละละเลย ปล่อยให้มีการปิดสถานศึกษา หรือไม่รายงานสถานการณ์ต่างๆ มายังส่วนกลาง ก็เท่ากับไม่ให้ความร่วมมือ ซึ่งส่งผลเสียต่อเด็กและเยาวชน ทำให้เสียโอกาสทางการศึกษา อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องการใช้มาตรการให้เกิดการต่อต้านกลับมายัง ศธ. หรือใช้มาตรการจนเกิดความไม่พอใจและไม่ให้ความร่วมมือ เพราะที่ผ่านมา ศธ.ทำงานด้วยความเป็นเอกภาพอย่างมาก
 
>> กองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา
 
- ความเป็นมา เมื่อปี พ.ศ.2530 ได้กำหนดนโยบายให้มีโครงการอาหารกลางวัน โดยรัฐบาลสนับสนุนงบประมาณ ต่อมาในปี พ.ศ.2535 มีพระราชบัญญัติกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษาด้วยวงเงิน 6,000 ล้านบาท และในปี พ.ศ.2544 ศธ.ได้ถ่ายโอนงบประมาณค่าอาหารกลางวันไปให้กระทรวงมหาดไทยและกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เพื่อจัดตั้งและจัดสรรงบประมาณ ตั้งแต่ปี 2546 จนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2556 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้ปรับเงินค่าอาหารกลางวันจาก 13 บาท (ตั้งแต่ปี พ.ศ.2542) เป็น 20 บาท โดยขอให้ ศธ.หารือร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อคิดรายการอาหารพร้อมระบุตัวชี้วัดที่แสดงให้เห็นถึงคุณค่าทางโภชนาการที่เพิ่มขึ้น และสอดคล้องกับจำนวนเงินที่เพิ่มขึ้นด้วย
 
- งบประมาณ การดำเนินงานโครงการอาหารกลางวัน ใช้งบประมาณจาก 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 เงินอุดหนุนจากรัฐบาลตามรายหัวนักเรียน ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 5.8 ล้านคน และส่วนที่ 2 กองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา ที่กำหนดให้กองทุนนำดอกผลของวงเงินเริ่มต้น 6,000 ล้านบาท มาใช้ในการส่งเสริมผลผลิตโครงการอาหารกลางวัน ช่วยเหลือนักเรียนที่มีภาวะทุพโภชนาการ ซึ่งในปี 2557 มีดอกผลจำนวน 2,435 ล้านบาท
 
- แผนการดำเนินงาน กองทุนโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา กำหนดจัด 9 กิจกรรมในปี 2557 วงเงินงบประมาณ 761 ล้านบาท เช่น การแก้ไขพระราชบัญญัติกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา พ.ศ.2535 และระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อขยายการให้บริการอาหารกลางวันจากนักเรียน ป.1-6 เป็นนักเรียนชั้นอนุบาลถึง ม.3 พร้อมทั้งจัดประชาพิจารณ์ผู้เกี่ยวข้องใน 4 ภูมิภาค จัดทำฐานข้อมูลสารสนเทศ การประชาสัมพันธ์ เป็นต้น
 
 รมว.ศธ.กล่าวว่า เจตนารมณ์ของการจัดตั้งกองทุนก็เพื่อให้เกิดการดำเนินงานในส่วนที่ในระบบไม่สามารถทำได้คล่องตัว ดังนั้น กองทุนต้องหาองค์ความรู้จากการดำเนินงาน เพื่อมาทำการวิเคราะห์ และรายงานหรือส่งต่อไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการดำเนินงานต่อไป เช่น จำนวนเด็กที่มีภาวะทุพโภชนาการ ทั้งที่ได้รับการช่วยเหลือแล้ว และยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ สรุปการใช้งบประมาณว่าส่งเสริมและแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดหรือไม่ การวิเคราะห์มาตรฐานทางโภชนาการที่จะต้องมีแนวคิดมารองรับ ทั้งความยากจน ภาวะทุพโภชนาการ หรืออาจจะอ้างอิงมาตรฐานสากล
 
จึงได้มอบหมายให้กองทุนวิเคราะห์และรายงานข้อมูลการดำเนินงานย้อนหลังเป็นเวลา 5 ปี ได้แก่ งบประมาณที่ใช้ ผลลัพธ์หรือจำนวนเด็กที่ได้รับประโยชน์ จำนวนเด็กที่มีภาวะทุพโภชนาการทั้งประเทศ และขอให้จัดระดับความรุนแรงของภาวะทุพโภชนาการในโรงเรียน โดยใช้สีเป็นสัญลักษณ์ในแต่ละระดับ พร้อมทั้งมีหนังสือแจ้งไปยังโรงเรียนเหล่านั้นด้วย นอกจากนี้ การดำเนินงานของกองทุนควรเร่งให้ทันตามปฏิทินปีงบประมาณ เพื่อให้การใช้งบประมาณมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยขอให้ยึดหลักช่วยเหลือโรงเรียนที่มีปัญหาจริงๆ คือ โรงเรียนที่มีนักเรียนภาวะทุพโภชนาการจำนวนมาก ห่างไกล หรือโรงเรียนที่ไม่เคยเข้าร่วมโครงการอาหารกลางวัน
 
นอกจากนี้ รมว.ศธ.ได้มอบแนวทางในการตรวจเยี่ยมโรงเรียนพื้นที่สูง พื้นที่พิเศษ ว่าการเดินทางเพื่อไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนเหล่านี้ จะต้องนำเสนอให้ได้ข้อมูล ข้อสรุป หรือแนวทางที่จะสะท้อนภาพรวมของ ศธ. มีการนำตัวอย่างโรงเรียนในโครงการของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นแบบอย่างหรือต่อยอดกับการดำเนินงานในโรงเรียนอื่นๆ รวมทั้งแนวปฏิบัติระดับเขตพื้นที่การศึกษา และการถอดบทเรียน เพื่อให้การเดินทางไปตรวจเยี่ยมเกิดประโยชน์ต่อการยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม

 
 
  • 04 ก.พ. 2557 เวลา 10:03 น.
  • 2,872

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

ความคิดเห็นเกี่ยวกับ : ผลการประชุมองค์กรหลัก 5/2557

เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^