LASTEST NEWS

05 ก.ค. 2567สพป.ยโสธร เขต 1 เปิดสอบพนักงานราชการ ตำแหน่งครูผู้สอน และพนักงานพี่เลี้ยง  เงินเดือน 10,430 - 18,000.- บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 16 ก.ค.2567 05 ก.ค. 2567โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 23 จังหวัดพิษณุโลก รับสมัครพนักงานราชการครู 3 อัตรา เงินเดือน 18,000.- บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 10 กรกฎาคม 2567 (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) 05 ก.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศตำแหน่งว่างรับย้ายครู รอบที่ 2 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 05 ก.ค. 2567ก.ค.ศ.อนุมัติ ให้ข้าราชการครูฯ มีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ 30 ราย 05 ก.ค. 2567สพป.อุบลราชธานี เขต 5 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย รอบที่ 2 จำนวน 100 อัตรา - รายงานตัว 11 ก.ค.2567 05 ก.ค. 2567ข่าวดี !!! สพป.เลย เขต 2 เตรียมเรียกบรรจุครูผู้ช่วย ปี 2567 รอบที่ 3 เร็ว ๆ นี้ 04 ก.ค. 2567สพป.นครราชสีมา เขต 5 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย ปี 2566 และ ปี 2567 จำนวน 21 อัตรา - รายงานตัว 16 ก.ค.2567 04 ก.ค. 2567สพป.ระยอง เขต 1 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย รอบ 2 จำนวน 39 อัตรา - รายงานตัว 16 ก.ค.2567 04 ก.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศตำแหน่งว่างรับย้ายครู รอบที่ 2 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 04 ก.ค. 2567เพื่อนขับรถตู้ทึบรับ 3 หมื่น! โถ..ชีวิต “ครูอัตราจ้าง” เรือจ้างโลกลืม เงินเดือนแค่ 7 พัน-ต้องห่อข้าวมากินโรงเรียน

มติ ครม. วันที่ 24ก.ย.2556 ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา

  • 25 ก.ย. 2556 เวลา 01:27 น.
  • 16,797
มติ ครม.  วันที่ 24ก.ย.2556 ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 315/2556 มติ ครม. 24 กันยายน 2556
ครม.เห็นชอบการได้รับเงินเดือนของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา
 
 ศึกษาธิการ - นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2556 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ
 
อนุมัติการได้รับเงินเดือนของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา
 
 ครม.มีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 (ฝ่ายสังคมและกฎหมาย) ในคราวประชุม ครั้งที่ 5/2556 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน 2556 ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา) ประธานกรรมการ เสนอดังนี้

1. รับทราบผลการประชุมหารือเรื่อง การได้รับเงินเดือนของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ (สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา) กระทรวงการคลัง สำนักงาน ก.พ. สำนักงบประมาณ และฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
 2. อนุมัติหลักการร่างกฎ ก.พ.อ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาได้รับเงินเดือน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาปรับแก้ไขถ้อยคำ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการเห็นชอบด้วยแล้ว และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
 3. มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการต่อไปได้
 สาระสำคัญของร่างกฎ ก.พ.อ.
 
 1. กำหนดให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาตำแหน่งวิชาการ ซึ่งได้รับเงินเดือนถึงขั้นสูงของอันดับเงินเดือนของตำแหน่งที่ดำรงอยู่ ให้ได้รับเงินเดือนสูงกว่าขั้นสูง ของอันดับเงินเดือนเดิม โดยให้ไปอาศัยรับเงินเดือนในตำแหน่งถัดไปอีกหนึ่งตำแหน่ง
 2. กำหนดให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาตำแหน่งวิชาการ ซึ่งจะได้รับเงินเดือนสูงขึ้น และต้องพ้นจากราชการเพราะเหตุเกษียณอายุ ให้ได้รับเงินเดือนในตำแหน่งที่สูงขึ้นในวันที่ 30 กันยายนของปีสุดท้ายก่อนพ้นจากราชการ




อนุมัติการดำเนินงานโครงการศูนย์การเรียนสำหรับเด็กเจ็บป่วยเรื้อรังในโรงพยาบาล
 
ครม.มีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 (ฝ่ายสังคมและกฎหมาย) ในคราวประชุม ครั้งที่ 4/2556 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม 2556 ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา) ประธานกรรมการ เสนอดังนี้
 
1. อนุมัติให้ดำเนินงานโครงการศูนย์การเรียนสำหรับเด็กเจ็บป่วยเรื้อรังในโรงพยาบาล ในช่วงที่ 2 ต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 5 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2557-2561)
2. งบประมาณดำเนินโครงการศูนย์การเรียนสำหรับเด็กเจ็บป่วยเรื้อรังในโรงพยาบาลให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
3. กรอบบุคลากรตามผลการอนุมัติข้อ 1. และ 2. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ. และฝ่ายเลขานุการร่วมคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐไปพิจารณาดำเนินการ
4. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับข้อสังเกตของกระทรวงการคลัง กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
สรุปสาระสำคัญ
 
1. วัตถุประสงค์
 
- เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาให้แก่เด็กเจ็บป่วยเรื้อรังได้รับโอกาสพัฒนาได้อย่างทั่วถึงครอบคลุมทั่วประเทศ โดยควรมีศูนย์การเรียนอย่างน้อยจังหวัดละ 1 แห่ง
- เพื่อยกระดับมาตรฐานการดำเนินงานโดยจัดบุคลากรเพิ่มให้แก่ศูนย์การเรียนที่ยังไม่ได้รับจัดสรร และจัดสรรเพิ่มในศูนย์การเรียนที่เปิดขยายระหว่างปี 2557-2561 สามารถให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีมาตรฐานในระดับเดียวกันทั่วประเทศ 
- เพื่อจัดการสอนให้เด็กเจ็บป่วยเรื้อรังในโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง สามารถกลับไปเรียนต่อในโรงเรียนและมีสิทธิสอบเลื่อนชั้นหรือไม่ต้องออกกลางคัน
- เพื่อช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกาย จิตใจ การเรียนรู้ พัฒนาการด้านต่าง ๆ ให้แก่เด็กเจ็บป่วยเรื้อรังในโรงพยาบาล โดยมีกิจกรรมนันทนาการที่ให้ความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ผ่อนคลายจิตใจ และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์เป็นการเปิดโลกทัศน์ของเด็กให้กว้างขึ้น 
- เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ ให้แก่ครูศูนย์การเรียนสำหรับเด็กเจ็บป่วยเรื้อรังในโรงพยาบาลกับเครือข่าย 
- เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เผยแพร่ผลงาน และยกย่องเชิดชูเกียรติศูนย์การเรียนที่เป็น Best practice
 
2. เป้าหมาย กลุ่มเด็กที่อยู่ในระบบโรงเรียน และกลุ่มเด็กที่ออกจากโรงเรียนแล้ว ที่มีอายุอยู่ในเกณฑ์การศึกษาขั้นพื้นฐาน รวมทั้งกลุ่มเด็กที่ไม่เคยเข้าโรงเรียนซึ่งเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังต้องเข้ารับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน มีโอกาสเข้ารับการศึกษาได้อย่างกว้างขวางทั่วถึงมากยิ่งขึ้น และศูนย์การเรียนสำหรับเด็กเจ็บป่วยเรื้อรังในโรงพยาบาล 77 จังหวัด (ระหว่างปี พ.ศ. 2552-2561)
 
3. ระยะเวลาดำเนินการ  
 
- พ.ศ. 2557 จำนวน 56 ศูนย์การเรียน (49 ศูนย์เดิม+7 ศูนย์ใหม่)
- พ.ศ. 2558 จำนวน 63 ศูนย์การเรียน (56 ศูนย์เดิม+7 ศูนย์ใหม่) 
- พ.ศ. 2559 จำนวน 70 ศูนย์การเรียน (63 ศูนย์เดิม+7 ศูนย์ใหม่) 
- พ.ศ. 2560 จำนวน 78 ศูนย์การเรียน (70 ศูนย์เดิม+ 8 ศูนย์ใหม่) 
- พ.ศ. 2561 จำนวน 86 ศูนย์การเรียน (78 ศูนย์เดิม+ 8 ศูนย์ใหม่)
 
4. กิจกรรมดำเนินงาน  เป็นค่าจ้างครูศูนย์การเรียน (อัตราจ้าง) การประชุมสัมมนาบุคลากรศูนย์การเรียนและผู้ที่เกี่ยวข้อง  การพัฒนาครูประจำศูนย์การเรียน  การสนับสนุนการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์และครุภัณฑ์ การนิเทศ กำกับ ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงาน และการประชุมเพื่อนำผลงาน/รูปแบบที่เป็น Best Practice แลกเปลี่ยน เรียนรู้ เผยแพร่ และยกย่องเชิดชูเกียรติ


เห็นชอบในหลักการปรับค่าใช้จ่ายต่อหัวในการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
 
รมว.ศธ.กล่าวว่า ครม.ได้เห็นชอบในหลักการตามที่ ศธ.เสนอให้ปรับค่าใช้จ่ายต่อหัวในการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ปรับเพิ่มจาก 2,300 บาทต่อหัวต่อปี เป็น 3,500 บาทต่อหัวต่อปี และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เดิม 2,300 บาทต่อหัวต่อปี เพิ่มเป็น 3,800 บาทต่อหัวต่อปี
 
อย่างไรก็ตาม สำนักงบประมาณมีความเห็นว่าอัตราที่เสนอดังกล่าวจะเป็นภาระงบประมาณจำนวน 1,550 ล้านบาทต่อปี ซึ่งอัตราการขอเพิ่มเงินอุดหนุนดังกล่าวอ้างอิงจากการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งเป็นการจัดการศึกษาที่แตกต่างจากการศึกษานอกระบบ ดังนั้น จึงได้เสนอให้ ศธ.ตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาค่าใช้จ่ายรายหัวการศึกษานอกระบบของสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เพื่อให้สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายที่สะท้อนกับคุณภาพการศึกษา ซึ่งสำนักงบประมาณเห็นว่า อัตราค่าใช้จ่ายต่อหัวของผู้เรียน กศน. ควรจะต่ำกว่าอัตราที่เสนอมา ซึ่ง ครม.ได้อบหมายให้ ศธ.หารือกับสำนักงบประมาณ โดยมีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และเสนอให้ ครม.เพื่อทราบต่อไป
 
 
  • 25 ก.ย. 2556 เวลา 01:27 น.
  • 16,797

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

ความคิดเห็นเกี่ยวกับ : มติ ครม. วันที่ 24ก.ย.2556 ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา

เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^