นายกฯ เศรษฐา สั่งด่วน งบปี 68 ลดบรรจุข้าราชการใหม่ ลดงบพีอาร์-ดูงานตปท
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
เศรษฐา สั่งด่วน งบปี 68 ลดบรรจุข้าราชการใหม่ ลดงบพีอาร์-ดูงานตปทนายกฯ เศรษฐา สั่งด่วน ปีงบประมาณ 2568 ทุกหน่วยงานราชการ ลดรายจ่ายไม่จำเป็น-ซับซ้อน ลดบรรจุอัตรากำลังใหม่ ลดงบพีอาร์ ฝึกอบรม ดูงาน เดินทางต่างประเทศ เช่ารถยนต์ ให้ส่งเอกสาร-ประชุมทางออนไลน์แทน
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ขณะนี้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ทำหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 6 มีนาคม 2566 ถึงรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และทุกหน่วยงานราชการ โดยระบุถึงข้อสั่งการของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แจ้งในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ที่ผ่านมา ขอให้ทุกส่วนราชการลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น และซับซ้อนในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568
สำหรับรายละเอียดสำคัญของข้อสั่งการ ระบุว่า ในคราวประชุมครม. เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2567 นายกรัฐมนตรี เสนอว่าได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 และคณะอนุกรรมาธิการด้านต่าง ๆ ว่า
ยังมีการตั้งงบประมาณซ้ำซ้อนกันในหลายหน่วยงาน เนื่องจากขาดการบูรณาการระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งงบประมาณรายจ่ายประจำยังคงมีสัดส่วนค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับงบประมาณรายจ่ายลงทุน
ดังนั้น ในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ในส่วนของงบประมาณรายจ่ายบูรณาการขอให้รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลแผนงานบูรณาการต่าง ให้ความสำคัญกับการจัดทำงบประมาณรายจ่ายให้มีประสิทธิภาพ เกิดความคุ้มค่า ไม่ซ้ำช้อน และมีการบูรณาการกันอย่างจริงจัง
สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำ นายกฯ ขอให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐพิจารณาปรับลดงบประมาณรายจ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น งบประมาณด้านการประชาสัมพันธ์ งบประมาณด้านการฝึกอบรมและดูงาน ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปต่างประเทศ ค่าใช้จ่ายในการเช่ายานพาหนะ โดยให้ใช้การส่งเอกสารทางอิเล็กทรอนิกส์หรือการจัดประชุมผ่านระบบออนไลน์ ให้มากขึ้น
รวมทั้งการลดการบรรจุอัตรากำลังใหม่ โดยให้มีเฉพาะที่จำเป็นตามกรอบอัตรากำลัง ระเบียบและหลักเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.พ. กำหนดไว้เท่านั้น เพื่อจะได้นำงบประมาณในส่วนที่ปรับลดลงนี้ไปจัดสรรเป็นงบประมาณรายจ่ายลงทุน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป