LASTEST NEWS

25 พ.ย. 2567ล 1932/2567 หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู และที่แก้ไขเพิ่มเติม 25 พ.ย. 2567สพป.ฉะเชิงเทรา เขต 2 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย จำนวน 81 อัตรา - รายงานตัว 28 พ.ย. 2567 25 พ.ย. 2567สพป.สมุทรสาคร เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 14 อัตรา รายงานตัว 3 ธันวาคม 2567 24 พ.ย. 2567โรงเรียนเมืองสุรินทร์ รับสมัครครูอัตราจ้าง 2 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 25-27 พฤศจิกายน 2567 24 พ.ย. 2567โรงเรียนบ้านระไซร์(เด่นพัฒนา) รับสมัครครูอัตราจ้าง วุฒิปริญญาตรี เงินเดือน 7,000.- บาท  24 พ.ย. 2567สพป.เพชรบุรี เขต 2 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 11 อัตรา - รายงานตัว 4 ธันวาคม 2567 24 พ.ย. 2567โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา รับสมัครครูอัตราจ้างงานแนะแนว จำนวน 1 อัตรา เงินเดือน 15,000.- บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 29 พ.ย.2567 23 พ.ย. 2567วิทยาลัยอาชีวศึกษาชลบุรี รับสมัครครูอัตราจ้าง 3 อัตรา ตั้งแต่บัดนี้ - 29 พ.ย.2567 23 พ.ย. 2567โรงเรียนตากพิทยาคม รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาเอกวิทยาศาสตร์ จำนวน 1 อัตรา ตั้งแต่ 23 พ.ย.-16 ธ.ค.2567 23 พ.ย. 2567สพป.อำนาจเจริญ รับสมัครพนักงานราชการ ตำแหน่งพี่เลี้ยง 5 อัตรา วุฒิม.3-ปวส.ทุกสาขา เงินเดือน 10,430-13,800 บาท สมัครระหว่างวันที่ 2-12 ธันวาคม 2567

“นายกฯ” ยาหอม ลดภาระงานครู - หนุนปฏิรูปศึกษา-ส่งเสริมการอ่าน- แก้เหลื่อมล้ำ – เรียนอย่างสุข

  • 11 ก.ย. 2566 เวลา 21:28 น.
  • 2,364
“นายกฯ” ยาหอม ลดภาระงานครู - หนุนปฏิรูปศึกษา-ส่งเสริมการอ่าน- แก้เหลื่อมล้ำ – เรียนอย่างสุข

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

“นายกฯ”ยาหอม ลดภาระงานครู - หนุนปฏิรูปศึกษา-ส่งเสริมการอ่าน- แก้เหลื่อมล้ำ – เรียนอย่างสุข “ปลัดศธ.” คุย! งบปี 67 พร้อมเสนอ รมว.ศธ.

สรุปนโยบายของคณะรัฐมนตรี “นายเศรษฐา ทวีสิน ” แถลงต่อรัฐสภา เมื่อวันจันทร์ที่ 11 กันยายน 2566 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ได้กำหนดแนวทางดำเนินการนโยบายด้านการศึกษา ไว้ในกรอบนโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศ ระยะกลางและระยะยาว เพื่อเสริมขีดความสามารถให้กับประชาชน ผ่านการสร้างรายได้ ลดรายจ่าย สร้างโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับประชาชนทุกคน ดังนี้

จากหลักการและเหตุผล ประเทศไทย กำลังเผชิญกับการเข้าสู่สังคมสูงวัยแบบสมบูรณ์ (Aged Society) โดยมีคนสูงวัยมากกว่าร้อยละ 20 ของจำนวนประชากร ซึ่งจะส่งผลต่อศักยภาพทางเศรษฐกิจ จากการลดลงของสัดส่วนประชากรช่วงวัยทำงาน และมีแนวโน้มที่รัฐจะต้องให้การดูแลช่วยเหลือเพิ่มขึ้น สัดส่วนของผู้สูงวัยที่มากขึ้น เป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อฐานะทางการคลังของรัฐบาล ทั้งในเรื่องของสวัสดิการและงบประมาณด้านสาธารณสุข ขณะที่การสร้างทรัพยากรมนุษย์เพื่อมาทดแทน กลายเป็นความท้าทายจากการที่จำนวนเด็กเกิดใหม่ในแต่ละปี มีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง

นอกจากความท้าทายเชิงปริมาณแล้ว การศึกษาของประเทศไทย ยังมีความท้าทายเชิงคุณภาพ ที่ยังไม่สามารถผลิตบุคลากร ให้ตอบสนองต่อความต้องการของเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ นักเรียน นักศึกษาที่เรียนจบใหม่ ไม่สามารถหางานทำที่ตรงกับสายงาน หรือจำเป็นต้องทำงานในสายงานที่มีรายได้ต่ำกว่าความสามารถทางวิชาชีพ

ในด้านการศึกษา รัฐบาลจะดำเนินนโยบายปฏิรูปการศึกษา และสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต มุ่งส่งเสริมให้เป็นคนดี มีวินัย ภูมิใจในชาติ รวมทั้งเสริมสร้างศักยภาพของผู้เรียนตามความถนัด ส่งเสริมการอ่าน เพื่อสร้างอนาคต สร้างรายได้ กระจายอำนาจการศึกษาให้ผู้เรียนได้เข้าถึงการเรียนรู้อย่างทั่วถึง

 มีอุปกรณ์การเรียนที่เหมาะสมต่อผู้เรียนแต่ละวัย และใช้ระบบเทคโนโลยีการศึกษาสมัยใหม่ จัดทำหลักสูตรและให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับความรู้ความสนใจของผู้เรียน
 
ส่งเสริมงานวิจัย และ พัฒนาทั้งในด้านสังคม ด้านวิทยาศาสตร์ประยุกต์ (Applied Science) และการวิจัยขั้นแนวหน้า (Frontier Research) เพื่อต่อยอดให้เกิดการพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยไม่ละเลยการศึกษาประวัติศาสตร์ความเป็นมาของประเทศ และการปลูกฝังความรักในสถาบันหลักของชาติ เพื่อให้มีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองของโลกสมัยใหม่อย่างมีคุณธรรมและจริยธรรม

 
รัฐบาลจะให้ความสำคัญต่อความมีคุณภาพของครู ทั้งประเทศ รวมไปถึงครูแนะแนว เพื่อช่วยให้นักเรียนได้รับคำแนะนำด้านเนื้อหาของวิชาการและการเข้าถึงข้อมูล ที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจเลือกเรียนและประกอบอาชีพ รวมไปถึงการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจของนักเรียนทุกคน


นอกจากนี้ รัฐบาลจะส่งเสริมการสร้างรายได้ให้แก่นักเรียน นักศึกษา ทั้งสายวิชาการและสายอาชีพให้มีรายได้จากวิชาที่เรียน โอกาสฝึกงานระหว่างเรียน เพื่อสร้างบุคลากรที่มีทักษะและความสามารถตรงต่อความต้องการของการจ้างงาน

และที่สำคัญที่สุด รัฐบาลจะดำเนินการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ที่เป็นรากฐานสำคัญของความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในสังคมไทย


เมื่อวันที่ 11 ก.ย.นายอรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ตามที่พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ได้เดินทางเข้ากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพร้อมมอบนโยบายให้แก่ผู้บริหารระดับสูงของศธ.และข้าราชการอย่างไม่เป็นทางการนั้น

พล.ต.อ.เพิ่มพูน ต้องการให้มีการแถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภา ในวันที่ 11 ก.ย.ก่อน จากนั้นจะประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ในวันที่ 12 ก.ย.และ วันที่ 14 ก.ย.นี้ จะแถลงนโยบายการศึกษาอย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนท์ เพื่อให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) และศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) และผู้บริหารโรงเรียนได้รับฟังนโยบายพร้อมกันทั่วประเทศ ทั้งนี้สำนักงานปลัดศธ.จะสร้างเครือข่ายระบบสารสนเทศในการยิงไลฟ์สด ให้รับชมร่วมกัน เพื่อนำไปสู่การปฎิบัติและยกระดับผู้เรียนที่มีคุณภาพต่อไป

ปลัดศธ.กล่าวต่อไปว่า พล.ต.อ.เพิ่มพูน ได้ให้ความสำคัญกับเส้นทางวิชาชีพข้าราชการ โดยเฉพาะการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงจะมีแนวทางอย่างไรให้นักเรียนได้เรียนอย่างมีความสุขและมีคุณภาพ และการลดภาระงานครู
 
ซึ่ง พล.ต.อ.เพิ่มพูน ขอให้ทุกคนทำงานกันอย่างเต็มที่ เพราะชอบการลงพื้นที่โดยที่ไม่แจ้งล่วงหน้า  ขณะเดียวกันตนได้นำแผนงบประมาณปี 67 ไปรายงานให้ได้รับทราบถึงรายละเอียดการจัดทำแผนงบดังกล่าวแล้ว ต้องรอว่าจะมีนโยบายใดอะไรเพิ่มเติมจาก พล.ต.อ.เพิ่มพูนอีกหรือไม่


อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้ผู้บริหารองค์กรหลักฯ เตรียมฟังการแถลงนโยบายต่อที่ประชุมด้วย เพื่อนำมาปรับใส่ในการจัดทำแผนงบประมาณปี 67 ของศธ. 
 
หลังจากนั้นตนจะเสนอแผน งบ 67 ให้พล.ต.อ.เพิ่มพูน พิจารณาอีกครั้ง จะปรับหรือเพิ่มเติมแผนดังกล่าวหรือไม่

ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: สำนักข่าว EDUNEWSSIAM ONLINE วันที่ 11 กันยายน 2566 เวลา 18:14 น.
 
  • 11 ก.ย. 2566 เวลา 21:28 น.
  • 2,364

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

^