“ตรีนุช” เปิดใจอำลาตำแหน่งเก้าอี้ “เสมา1”
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
“ตรีนุช” เปิดใจอำลาตำแหน่งเก้าอี้ “เสมา1”“ตรีนุช” เปิดใจอำลาตำแหน่งเก้าอี้ “เสมา1” ผูกพันกระทรวงศึกษาธิการ มั่นใจ "เพิ่มพูน" บริหารการศึกษาได้ผลงานจะเป็นเครื่องพิสูจน์ฝีมือ ฝากช่วยสานต่อนโยบายลดความเหลื่อมล้ำ
เมื่อวันที่ 31 ส.ค.เวลา 11.30 น.ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ และคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ เดินทางสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีนายอรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของศธ.และข้าราชการร่วมมอบดอกไม้ให้กำลังใจก่อนอำลาตำแหน่งรัฐมนตรี โดยน.ส.ตรีนุช เปิดเผยว่า ตนรู้สึกผูกพันกับศธ.และข้าราชการทุกคนเพราะอยู่ในตำแหน่งรมว.ศึกษาธิการ มาเป็นเวลา 2 ปี ซึ่งขอขอบคุณผู้บริหารศธ.ทุกคนที่ช่วยกันขับเคลื่อนนโยบายต่างๆของตนจนประสบความสำเร็จไม่ว่าจะเป็นนโยบายสถานศึกษาปลอดภัย โครงการพาน้องกลับมาเรียน โครงการอาชีวะอยู่ประจำเรียนฟรีมีงานทำ และโครงการโรงเรียนคุณภาพประจำชุมชน ซึ่งโครงการทั้งหมดถือเป็นโครงการที่สร้างโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำให้แก่ผู้เรียนอย่างแท้จริง ดังนั้นตนขอฝากพล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ว่าที่รมว.ศธ.คนใหม่ได้เข้ามาช่วยสานต่อด้วย เพราะตนมองว่าเป็นนโยบายที่ดี ส่วนตัวยังไม่ได้มีการประสานพูดคุยส่งไม้ต่อการทำงานกับพล.ต.อ.เพิ่มพูน แต่ตนเชื่อมั่นว่าแม้พล.ต.อ.เพิ่มพูนจะเป็นข้าราชการตำรวจที่มาบริหารงานการศึกษาจะทำให้การปฎิรูปการศึกษาไปสู่ความสำเร็จได้ เพราะผลงานต่างๆของพล.ต.อ.เพิ่มพูน จะเป็นเครื่องมือพิสูจน์ตัวเอง
“เรื่องสำคัญที่อยากจะฝากคือการพัฒนาครูที่จะต้องปรับเปลี่ยนองค์ความรู้ให้เท่าทันกับโลกเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งศธ.เป็นกระทรวงใหญ่องคาพยพในการบริหารงานมีความหลากหลาย ดังนั้นหลักธรรมาภิบาลจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากในการบริหารงาน เพื่อทำให้เกิดระบบมาตรฐานของความโปร่งใส” น.ส.ตรีนุช กล่าว
ด้านคุณหญิงกัลยา กล่าวว่า ตนดีใจที่ได้มาทำงานร่วมกับน.ส.ตรีนุช และรู้สึกมีบุญที่ได้มาร่วมขับเคลื่อนงานการศึกษาของประเทศ ซึ่งตนรู้สึกผู้กพันกับข้าราชการทุกคน เพราะอยู่ในตำแหน่งรมช.ศธ.มาถึง 4 ปี ดังนั้นตนขอฝากรัฐบาลใหม่ช่วยขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง คือ การเรียนการสอนโค้ดดิ้ง และวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพราะเรื่องเหล่านี้จะเป็นภูมิคุ้มกันให้แก่เด็กทุกคนในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงนโยบายการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชนตามแนวพระราชดำริที่ให้วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี (วษท.) ทุกแห่งได้นำไปสร้างเป็นหลักสูตรชลกรเกิดขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ให้แก่ชุมชน เพราะจะทำให้เกษตรกรลืมตาอ้าปากได้อย่างมาก
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 31 สิงหาคม 2566 เวลา 14:24 น.