กระทรวงศึกษาธิการ มอบ 7 ของขวัญปีใหม่ 2566 "ความรู้" สู่ประชาชน
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
ของขวัญปีใหม่ 2566กระทรวงศึกษาธิการมอบ "ความรู้" สู่ประชาชน
(เผยแพร่ นสพ.ไทยรัฐ หน้า 12 ฉบับวันที่ 3 ม.ค. 66)
ก้าวสู่ศักราชใหม่ ปี พุทธศักราช 2566 หรือ ปีกระต่ายทอง กระทรวงศึกษาธิการ ภายใต้การกำกับดูแล ของ น.ส. ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดกล่องของขวัญปีใหม่ เพื่อส่งมอบความรู้ สร้างความสุขสู่ผู้เรียน ผู้ปกครอง ประชาชน รวมทั้งครู และบุคลากรทางการศึกษา
น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ ขอเป็นส่วนหนึ่งในการมอบความรู้ ส่งต่อความสุขให้กับคนไทย มุ่งยกระดับคุณภาพการศึกษา สร้างโอกาส ความเสมอภาค และความเท่าเทียมทางการศึกษา ให้ผู้เรียนทุกช่วงวัย พร้อมพัฒนาทักษะอาชีพ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ยกระดับศักยภาพครู เร่งสร้างความปลอดภัยในสถานศึกษาเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นของสังคมต่อระบบการศึกษาไทย โดยไม่ทิ้งใคร .. ไว้ข้างหลัง”
โดยในปี 2566 ได้ส่งมอบของขวัญจากใจ ในรูปแบบ การมอบ “ความรู้” สู่ประชาชน จำนวน 7 ชิ้น ประกอบด้วย
1. ปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายอุดหนุนรายหัว ระดับอนุบาล - ม.ปลาย และ ปวช. ทั้งในและนอกระบบ ต่อเนื่อง 4 ปี ตั้งแต่ปี 2566-2569 ครอบคลุมค่าจัดการเรียนการสอน ปีสุดท้ายเพิ่มขึ้น 20% ค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ปีสุดท้ายเพิ่มขึ้น 30% ค่าอุปกรณ์การเรียน เพิ่มขึ้น 15% ค่าเครื่องแบบนักเรียน เพิ่มให้ครบ 1 ชุด และเพิ่มอีก 1 ชุด หากถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นการปรับเพิ่มครั้งใหญ่ในรอบ 10 ปี ช่วยแบ่งเบาภาระรายจ่ายผู้ปกครองกว่า 11.5 ล้านคน
2. โครงการโรงเรียนคุณภาพ ด้วยหลัก SQS คือ “S : Safety ปลอดภัย Q : Quality คุณภาพ S : Sharing แบ่งปันทรัพยากรการศึกษาร่วมกัน” โดยใช้ทรัพยากรร่วมกัน ครูครบชั้น ครบวิชา ห้องเรียนปฏิบัติการที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัย มีสื่อ นวัตกรรม และเทคโนโลยีการศึกษาที่ทันสมัย เพื่อสร้างนักเรียนคุณภาพให้กับประเทศ สร้างครูคุณภาพให้กับห้องเรียน สร้างผู้บริหารคุณภาพให้กับโรงเรียน และสร้างโรงเรียนคุณภาพดีๆ ให้กับชุมชนทั่วประเทศ
3. Active Learning เพื่อให้เด็กไทยได้ “ฝึกคิด เรียนรู้ ลงมือทำจริง” เลือกเรียนรู้ได้ตามความสนใจและความถนัด สามารถพึ่งพาตนเองได้ในการเรียนรู้ มีอิสระที่จะค้นคว้าหัวข้อที่อยากรู้ ครูเปลี่ยนบทบาทไปเป็นพี่เลี้ยง สร้างบรรยากาศการมีส่วนร่วม จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ท้าทายด้วยวิธีหลากหลาย กระตุ้นให้ผู้เรียนประสบความสำเร็จในการเรียนรู้
4. MOE Safety Center “สถานศึกษาปลอดภัย” ปีที่ผ่านมามีนักเรียนกว่า 6,000 เคส ที่ได้รับการช่วยเหลือผ่านโครงการ ด้วยแนวคิดสร้างความปลอดภัย คือ 3 ป. “ป้องกัน” 4 กลุ่มภัยใกล้ตัว, “ปลูกฝัง” ให้เด็กมีภูมิคุ้มกันและทักษะชีวิต, “ปราบปราม” หมดปัญหาเดิม ไม่เพิ่มปัญหาใหม่ ผ่าน 4 ช่องทาง คือ แอป MOE Safety Center, เว็บไซต์ MOESafetyCenter.com, ไลน์ @MOESafetyCenter และ โทร. 02-126-6565
5. ปรับเพิ่มค่าอาหารกลางวัน จัดสรรมื้อคุณภาพส่งตรงจาก ศธ. โดยใช้งบประมาณเพิ่มขึ้น 3,500 ล้านบาท เพื่อให้นักเรียนชั้นเด็กเล็ก - ป.6 ทุกสังกัด ได้ทานอาหารครบ 5 หมู่ ปรับตามขนาดของโรงเรียน คือ นักเรียน 1-40 คน อัตรา 36 บาท/คน/วัน, นักเรียน 41-100 คน อัตรา 27 บาท/คน/วัน, นักเรียน 101-120 คน อัตรา 24 บาท/คน/วัน และนักเรียน 121 คน ขึ้นไป อัตรา 22 บาท/คน/วัน
6. หลักสูตร EV ยานยนต์สมัยใหม่ พร้อมเปิดหลักสูตร EV ปั้นเด็กไทยเข้าอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการเดินหน้า ตอบรับการเติบโตของอุตสาหกรรม EV กับรถที่ปลดปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ระดับ ปวช./ปวส. ในสถานศึกษาอาชีวะ 51 แห่ง เริ่มภาคเรียนที่ 1/2566 เพื่อผลิตบุคลากรของไทยให้พร้อมเป็นศูนย์กลางการผลิตรายใหญ่ที่สุดของอาเซียน ด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ภายใน 5 ปี
7. การแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ศธ.จัดงานมหกรรมการเงินเพื่อครูไทย “Unlock a Better Life” สร้างโอกาสใหม่ เพื่อชีวิตครูไทยที่ดีกว่า ช่วยครูสามารถปลดหนี้ ผ่านบริการไกล่เกลี่ยและปรับโครงสร้างหนี้จาก 7 สถาบันการเงินชั้นนำ ให้คำปรึกษาด้านการเงินรายบุคคล ให้ความรู้ด้านการเงิน ช่วยปลดล็อกอิสรภาพทางการเงินแก่ครูและบุคลากรกว่า 1.5 หมื่นราย มูลค่าหนี้รวมกว่า 6 พันล้านบาท ให้ครูมีสุขภาพทางการเงินที่ดี มีความสุขในชีวิตและการสอน
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: เฟซบุ๊กแฟนเพจ ศธ.360 องศา