เครือข่ายวิชาชีพครูไทยวอน “ตรีนุช” ทบทวนร่างพ.ร.บ.การศึกษาฯ หวั่นส่งผลกระทบปมค่าตอบแทนบุคลากรการศึกษาอื่น
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
เครือข่ายวิชาชีพครูไทยวอน “ตรีนุช” ทบทวนร่างพ.ร.บ.การศึกษาฯ หวั่นส่งผลกระทบปมค่าตอบแทนบุคลากรการศึกษาอื่นเมื่อวันที่ 7 พ.ย.นายธนชน มุทาพร ที่ปรึกษาชมรมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทย ในฐานะรักษาการประธานเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูไทย ( ค.อ.ท. ) เปิดเผยว่า ตนได้ยื่นหนังสือถึงน.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ เรื่องร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ..ที่ได้ผ่านการพิจารณาของ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ซึ่งมีวาระหนึ่งส่งผลกระทบต่อบุคลกรทางการศึกษาอื่นที่เกี่ยวกับการจัดการศึกษา โดยมีนายสมใจ วิเศษทักษิณ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นผู้มารับเรื่องดังกล่าว โดยนายสมใจพร้อมนำข้อเสนอแนะในประเด็นนี้รายงานให้รมว.ศึกษาธิการรับทราบต่อไป สำหรับประเด็นของร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ..ที่ส่งผลกระทบคือ มาตรการ 41 วรรคสอง บุคลากรทางการศึกษาอื่นที่เกี่ยวกับการจัดการศึกษา คือ บุคลากรวิชาชีพที่รับผิดชอบการบริหารการศึกษานอกสถานศึกษา ประกอบด้วย ผู้บริหารการศึกษา ในปัจจุบัน คือ ผู้อำนวยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ผู้อำนวยการสำนักงานก.ศ.น.จังหวัด รองผู้อำนวยการสำนักงานก.ศ.น.จังหวัด ผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนอำเภอ ผู้อำนวยการสำงักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด รองผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด ศึกษาธิการจังหวัด รองศึกษาธิการจังหวัด และข้าราชการที่ปฏิบัติงานในสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
นายธนชน กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ให้ศึกษาธิการจังหวัดดำรงตำแหน่งเทียบกับข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทอำนวยการสูง ซึ่งความหมายในวรรคสองจึงเป็นบุคลากรทางการศึกษาอื่นที่เกี่ยวกับการจัดการศึกษา ตามวรรคสองของมาตรา 41 เช่นเดียวกัน และถึงแม้ตำแหน่งศึกษาธิการจังหวัดให้ดำรงตำแหน่งเทียบกับข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทอำนวยการสูง แต่ศึกษาธิการจังหวัดและรองศึกษาธิการจังหวัดเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจึงได้รับแต่เงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง ความหมายคือถ้าได้เงินประจำตำแหน่งก็จะไม่ได้รับเงินค่าตอบแทน หรือถ้าไม่ได้เงินประจำตำแหน่ง ก็จะได้แต่เงินค่าตอบแทน จะไม่ได้เงินวิทยฐานะดังนั้นถ้าไม่ได้รับการแก้ไขในจุดนี้ก็อาจทำให้พ.ร.บ.ฉบับนี้ มีผลบังคับให้เกิดการลิดรอนสิทธิประโยชน์ขั้นพื้นฐานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาอื่น
“เพื่อให้การพิจารณาร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของรัฐสภา เป็นพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติที่ดีที่สุด ไม่สร้างความเหลื่อมล้ำ ทำลายขวัญและกำลังใจ สร้างความแบ่งแยกและปกครองต่อข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูไทยจึงขอให้รมว.ศึกษาธิการ ได้มีการทบทวนและชี้แจงไปยังคณะกรรมาธิการวิสามัญฯได้รับทราบและแก้ไขโดยด่วน” นายธนชน กล่าว
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 เวลา 12:32 น.