ครู...อาชีพที่เห็นแก่ตัว (อ่านให้จบ)
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
ครู...อาชีพที่เห็นแก่ตัวเรียบเรียงโดยครูวันดีดอทคอม
Credit เฟซบุ๊กแฟนเพจ จากปลายปากกาครูพอล
ก่อนหน้านี้ครูวันดีเคยนำมาลงในเพจ แล้วครับ และก็มีหลายๆ ท่านได้แสดงความคิดเห็นต่างๆ มากมาย จริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่าง ครอบครัวของคนที่เป็นครูครับ ซึ่งไม่ได้แบ่งเวลางาน กับ เวลาของครอบครัว ให้มีความพอดี จริงๆ แล้วก็นานาจิตตังครับ เรื่องนี้ ละเอียดอ่อนมาก
ท่านลองอ่านดูครับ โดนใจแค่ไหน ก็ลองพิจารณากันครับ แต่สำหรับครูวันดีแล้ว โดนมากๆ ครับ
ครู...อาชีพที่เห็นแก่ตัว
1. เพราะไม่เห็นแก่ลูก ครูบางคนทำงานโรงเรียนเอาเป็นเอาตาย เจ้านายไหว้วานอะไรทำหมด แต่เคยรู้ไหมว่า ลูกรอที่โรงเรียน กลับเกือบคนสุดท้ายของโรงเรียน ฟ้าค่อยๆมืด กลัวก็กลัว ทำไมพ่อแม่ยังไม่มารับซักที ดีกับลูกชาวบ้านได้มากมาย แต่ลูกตัวเองแท้ๆ กลับปล่อยปละละเลย คนเป็นพ่อแม่ควรไปรับลูกก่อน ถ้างานมันหนักจริงๆ กลับมาโรงเรียนอีกครั้งก็ได้ ป้อนข้าวลูก สอนการบ้านลูกที่โรงเรียนก็ได้ อย่าปล่อยให้รอจนมืดที่โรงเรียน
2. เพราะไม่เห็นแก่ครอบครัว ความสุขใจของพ่อแม่ บางทีไม่ใช่เงินเดือนที่เราให้เขาหรอก แต่เป็นเวลาต่างหาก บางครั้งเขางอแง จริงๆแล้วแค่ต้องการแสดงให้รู้ว่า อยากไปทะเลพาไปเที่ยวหน่อย อยากมีเสื้อผ้าสวยสวย พาไปชอปปิ้งหน่อย อาหารมื้อที่ทำให้หัวเราะและมีความสุขของคนเป็นพ่อแม่ ก็คือ ได้ทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตานี่แหละ ...บางคนตีความหมายผิด เหนื่อยที่โรงเรียนมากมาย พ่อแม่ถามว่าทำไมกลับดึก พูดด้วยน้ำเสียงเหวี่ยง ก็งานประเมินของโรงเรียนน่ะสิ ไม่เสร็จซักที เอกสาร make เป็นภูเขา จริงๆ เขาแค่จะบอกว่า ห่วงลูกจัง ทานข้าวรึยัง แต่พ่อแม่บางคนพูดไม่เป็น ก็เลยถามอ้อมๆว่าทำไมกลับบ้านดึก ...ทีพูดกับผอ. เสียงอ่อนเสียงหวาน ทีพูดกับพ่อแม่ จะกินหัวทุกครั้งไป มันถูกรึ???
3. เพราะไม่เห็นแก่คนรัก ยุ่งตลอดเวลา เดี๋ยวงานลูกเสือ เด๋วงานอบรม ไปจังหวัดโน่นจังหวัดนี้ เมื่อเราพาใครคนหนึ่งมาเป็นคู่ชีวิตเราแล้ว อย่าปล่อยให้ทุกอย่างมันดำเนินไปแบบลักษณะเห็นเขาเป็นของตาย คนเราถ้าสิ่งๆนั้นมีความสำคัญต่อชีวิตเราจริงๆ ยังไงเราก็สามารถจะแบ่งเวลาให้เขาได้ หรือถ้าคิดว่าเขาไม่สำคัญ ก็ปล่อยไปซะ ทำลายอนาคตเขาเปล่าๆ ให้เขาไปเจอคนดีดี มีเวลาให้
3 เหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ได้มีเจตนาจะกล่าวหาครูทุกคนหรอกครับ เพียงแต่ฟังจากเพื่อนๆหลายๆคนที่บ่น และ ปรับทุกข์ให้ฟัง ทำงานได้ แต่ต้องทำให้เหลือพลังงานแก่บุคคลรอบตัวเราด้วย สำคัญที่สุดคือครอบครัว ความสำเร็จต่างๆจะเกิดขึ้นได้อย่างไร หากลูกไม่ค่อยได้เห็นหน้าพ่อแม่ซึ่งเป็นครู ความสำเร็จนั้นจะยิ่งใหญ่ไปได้อย่างไร ในเมื่อพ่อแม่ของเราชะเง้อมองลูก ลูกไม่กลับบ้านซะที ความสำเร็จนั้นจะสวยงามได้อย่างไร เมื่อเราไม่มีคนรักที่คอยเติมน้ำทิพย์ชโลมใจเรา ให้เรายิ้ม ให้เราหัวเราะ ผอ.เขามา เดี๋ยวเขาก็ไป แต่พ่อแม่ลูกคนรักของเราต่างหากที่จะเคียงข้างเราไปอีก 20 ปี 30 ปี ข้างหน้า....ทำงานในหน้าที่ ในเวลาให้เต็มที่ เมื่อสิ้นเวลางาน เป็นหน้าที่ของเราอีกเช่นกัน ที่ต้องให้เวลาแก่ลูก แก่พ่อแม่ แก่คนรัก