ลูกน้องไม่ได้ดั่งใจ ทำไงดี?
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
เวลาที่ครูเคททำ executive coaching ให้กับผู้บริหาร มักจะได้ยินคำบ่นอยู่บ่อยๆ ว่า ลูกน้องสมัยนี้ไม่ค่อยได้ดั่งใจ แล้วก็ไปโทษลักษณะของคน Gen X, Gen Y อะไรกันไปโน่นเจ้านายส่วนใหญ่จะสั่งงานโดยมีภาพความต้องการอยู่ในหัว หากใครมีภาพชัดเจน ก็มักจะสั่งงานและลูกน้องทำออกมาได้ดั่งใจ หากภาพในหัวคนสั่งยังเบลอๆ พอสั่งงานไป ลูกน้องก็มักจะทำมาไม่ได้ดั่งใจ หรือ พอลูกน้องทำมาส่งแล้ว เจ้านายก็เปลี่ยนใจไปมา นี่เป็นเพราะเจ้านายเองมองภาพงานนั้นไม่ชัดเจน (แต่ไม่รู้สึกตัว เลยโทษว่าลูกน้องทำไม่ได้ดั่งใจ)
ปัญหาโลกแตกนี้ เกิดขึ้นทุกยุคทุกสมัย ก่อนที่เราจะไปโทษความแตกต่างของคนแต่ละรุ่น ซึ่งถูกเลี้ยงดูและเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน คนรุ่นเดียวกันหรือแม้แต่พี่น้องเติบโตในครอบครัวและสภาพแวดล้อมเดียวกันก็ใช่ว่าจะเหมือนกัน ดังนั้น ปัญหาไม่ได้เกิดจากความแตกต่าง แต่เกิดจากตัวของเราเอง ที่มีความเข้าใจไปเอง มีความคาดหวังไปเองว่าคนนั้นควรเป็นอย่างนี้ คนนี้ควรเป็นอย่างนั้น เมื่อเขาไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวัง เราก็มานั่งหงุดหงิดในหัวใจ เมื่อสะสมความหงุดหงิดนานวันเข้าก็อาจเกิดความขัดแย้งกัน หรืออาจเกิดความเบื่อหน่ายซึ่งกันและกัน
จุดอ่อนของคนไทย ซึ่งเติบโตในสังคมกลุ่ม หรือที่ฝรั่งเรียกว่า collectivist คือเป็นสังคมที่อยู่รวมกัน ช่วยเหลือกัน ทำอะไรทำตามกัน ทำให้คนไทยมีมุมมองว่าคนเราควรจะเหมือนๆ กัน โดยลืมเข้าใจกฎธรรมชาติพื้นฐานว่าในโลกนี้ไม่มีสองสิ่งใดที่เหมือนกัน ฝาแฝดที่มาจากไข่ฟองเดียวกัน ยังมีรูปร่างหน้าตานิสัยใจคอที่ไม่เหมือนกัน ใบไม้บนต้นไม้ทั้งต้น ไม่มีใบใดเหมือนกันเป๊ะ คนที่เดินเข้าไปในห้องปรับอากาศพร้อมๆ กัน สัมผัสอุณหภูมิเดียวกัน ยังรู้สึกร้อนเย็นต่างกัน แล้วทำไมคนไทยเราถึงยังชอบคิดว่า ถ้าฉันทำสิ่งใดแล้วมันได้ผลดี คนอื่นทำอย่างเดียวกันก็ควรได้ผลลัพธ์เหมือนกัน ถ้าฉันกินอาหารร้านนี้แล้วรู้สึกอร่อย คนอื่นก็ควรจะอร่อยเหมือนกัน ถ้าฉันทำงานด้วยวิธีการนี้แล้วดี ลูกน้องฉันก็ควรจะต้องทำงานด้วยวิธีการเดียวกัน เป็นต้น
ความคาดหวังว่าคนอื่นควรคิดและทำอะไรเหมือนเรา เป็นการสร้างกรอบความคิดที่บิดเบือนไปจากความเป็นจริง เมื่อผลลัพธ์ไม่ออกมาตามที่เราต้องการ เราก็จะหงุดหงิด ผิดหวัง เครียด หรืออาจระเบิดความเครียดใส่ผู้อื่นตามมา ดังนั้น การแก้ปัญหาที่ถูกจุดคือต้องแก้ที่ความคาดหวังของตัวเราเอง จะคาดหวังตั้งเป้าอะไรควรอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงที่สามารถทำให้สำเร็จได้จริง และต้องให้ความเคารพความคิดของผู้อื่น ด้วยความเข้าใจว่าคนทุกคนมีวิธีการเรียนรู้และวิธีการทำงานที่แตกต่างกัน เราอาจแนะนำเขาได้ แต่คนตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรเป็นเรื่องของคนๆ นั้น เจ้านายมีหน้าที่บอกความต้องการให้ชัดเจน ให้อิสระแก่ลูกน้องในการทำงาน อย่ากลัวหากจะเกิดปัญหา เพราะหน้าที่ของเจ้านายก็คือการแก้ไขปัญหา ให้มองปัญหาที่เกิดขึ้นว่าเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้ฝึกฝนทักษะการบริหารจัดการ และเป็นโอกาสที่เราและลูกน้องจะได้เรียนรู้ไปด้วยกัน เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน
เทคนิคการสั่งงานที่ดี นอกจากเจ้านายจะบอกความต้องการที่ชัดเจนแล้ว ควรเปิดโอกาสให้ลูกน้องได้อธิบายความเข้าใจของเขา รวมทั้งกระตุ้นให้ลูกน้องได้วางแผนการทำงานด้วยตัวของเขาเอง และทำให้ลูกน้องรู้ หากมีปัญหาใดเกิดขึ้น ลูกพี่จะอยู่เคียงข้างลูกน้องและจะช่วยแก้ไขปัญหาให้ เจ้านายที่เคยบ่นว่าลูกน้องไม่ได้ดั่งใจ ลองฝึกการยอมรับความแตกต่างของคน เคารพในความคิด เหตุผลและการกระทำของคน แล้วจะเห็นว่าลูกน้องคนเดิมนั้นเปลี่ยนไปในทางที่ดีค่ะ
ท่านใดมีปัญหาเรื่องการบริหารงานบริหารคน เข้ามาทำ executive coaching กับครูเคทได้นะคะ ที่ KruKate Counseling Center นัดคิวรับคำปรึกษา โทร. 0814581165 หรือเข้าไปสอบถามปัญหาพูดคุยกันได้ในแฟนเพจ www.facebook.com/kateinspirer
ครูเคท
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 3 พฤษภาคม 2558