LASTEST NEWS

21 ธ.ค. 2567ปฏิทินการจ่ายเงินเดือนข้าราชการและค่าจ้างลูกจ้างประจำ ประจำปี 2568 20 ธ.ค. 2567สพป.บึงกาฬ เรียกบรรจุครูผู้ช่วย (ขอใช้บัญชี สพม.หนองคาย) จำนวน 3 อัตรา - รายงานตัว 2 มกราคม 2568 20 ธ.ค. 2567​​​​​​​กรมบัญชีกลาง เปิดสอบพนักงานราชการ 27 อัตรา ไม่ต้องผ่าน ภาค ก ตั้งแต่ 3 - 24 มกราคม 2568 19 ธ.ค. 2567สพป.บุรีรัมย์ เขต 1 ขอใช้บัญชีครูผู้ช่วย เขตอื่น ใช้บรรจุ 2 วิชาเอก 13 อัตรา รายงานตัว 26 ธันวาคม 2567 19 ธ.ค. 2567สพป.มหาสารคาม เขต 2 เผยบัญชีตำแหน่งว่างใช่บรรจุครูผู้ช่วย รอบที่ 5  19 ธ.ค. 2567สพป.อุดรธานี เขต 4 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 45 อัตรา 18 ธ.ค. 2567ผู้บริหาร สพฐ. ร่วมประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ครั้งที่ 10/2567 18 ธ.ค. 2567สพม.สงขลา สตูล เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 10 อัตรา - รายงานตัว 24 ธันวาคม 2567 18 ธ.ค. 2567กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เปิดสอบบรรจุเข้ารับราชการ 21 อัตรา สมัครทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2567 - 21 มกราคม 2568 18 ธ.ค. 2567 โอกาสดีมาถึงแล้ว!  ทุนเรียนต่อครู สควค. ม.เกษตรศาสตร์ เปิดรับสมัครทั่วประเทศ จบแล้วบรรจุเป็นครูทันที! สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ - 10 ม.ค. 2568

เล็งปลดล็อกอจ.ทำวิจัยเอกชนเต็มตัว "สกอ."คิดตอบโจทย์พัฒนาประเทศ/ชี้ทุกวันนี้ยังหนุนเศรษฐกิจไม่เต็มที่

  • 22 ต.ค. 2557 เวลา 05:45 น.
  • 1,416
เล็งปลดล็อกอจ.ทำวิจัยเอกชนเต็มตัว "สกอ."คิดตอบโจทย์พัฒนาประเทศ/ชี้ทุกวันนี้ยังหนุนเศรษฐกิจไม่เต็มที่

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

เล็งปลดล็อกอจ.ทำวิจัยเอกชนเต็มตัว "สกอ."คิดตอบโจทย์พัฒนาประเทศ/ชี้ทุกวันนี้ยังหนุนเศรษฐกิจไม่เต็มที่
 
พญาไท สกอ.หาทางปลดล็อก นักวิจัยที่เป็นอาจารย์หรือสังกัด วท.ไปช่วยสร้างงานวิจัยในภาคอุตสาหกรรมได้เต็มเวลา เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ โดยไม่ขัดระเบียบ ก.พ.อ.ที่บังคับให้อาจารย์มหาวิทยาลัยต้องสอนควบคู่ทำวิจัย   
 
    เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม นพ.กำจร ตติยกวี เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยว่า ตนหารือร่วมกับผู้แทนจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ในประเด็นการโยกย้ายนักวิจัยทั้งในส่วนของ วท. และนักวิจัยในมหาวิทยาลัยต่างๆ ไปช่วยสร้างงานวิจัยในภาคอุตสาหกรรม เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาประเทศให้มากขึ้น ซึ่งในส่วนของนักวิจัยในมหาวิทยาลัย ขณะนี้ยังไม่สามารถไปทำงานวิจัยภาคอุตสาหกรรมได้เต็มตัว เพราะยังติดกฎระเบียบของคณะกรรมการการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ก.พ.อ.) ที่กำหนดว่าอาจารย์ต้องปฏิบัติภาระงานครบทั้ง 4 ประเภท คือ การวิจัยการสอน บริการทางวิชาการ และการทำนุศิลปวัฒนธรรม ดังนั้น ตนจึงได้หารือกับนายกฤษณพงศ์ กีรติกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) หาแนวทางปลดล็อกกฎ ก.พ.อ.ดังกล่าว ยืดหยุ่นให้อาจารย์มหาวิทยาลัยสามารถสร้างงานวิจัยในภาคอุตสาหกรรมได้เต็มเวลา โดยไม่ถือเป็นความบกพร่องในภาระงานใดภาระงานหนึ่ง ขณะเดียวกันจะเปิดโอกาสให้นำผลงานวิจัยดังกล่าวมาใช้ในการเข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการสายภาคอุตสาหกรรมได้
 
    เลขาธิการ กกอ.กล่าวอีกว่า ต่อจากนี้ สกอ.ต้องมานั่งคิดว่าจะปลดล็อกกฎ ก.พ.อ.ดังกล่าวอย่างไร เพราะไม่ได้ขึ้นอยู่กับ ก.พ.อ.เท่านั้น อาจารย์ที่เป็นนักวิจัยส่วนหนึ่งยังติดระบบสัญญาจ้างกับมหาวิทยาลัย ซึ่งต้องมีผลงานเชิงประจักษ์ ไม่เช่นนั้นก็จะไม่ผ่านการประเมิน ตรงนี้ต้องหารือกับมหาวิทยาลัยด้วยว่าจะปรับภาระงานกันอย่างไร ให้สอดคล้องและสามารถนำหลักการที่ได้ในภาคอุตสาหกรรมมาเชื่อมโยงกับการเรียนการสอนอย่างสมบูรณ์ อาทิ ให้นักศึกษาไปเรียนรู้ระหว่างที่อาจารย์ไปทำงานวิจัยกับภาคอุตสาหกรรม เป็นต้น
 
    "เบื้องต้นผมคิดว่าการนำงานวิจัยในภาคอุสาหกรรมมาใช้ในการขอเข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการนั้น ก็อาจจะต้องให้มีหน่วยงานตรวจสอบการทำงานของนักวิจัยเพิ่มเติม เพื่อยืนยันว่านักวิจัยได้ทำงานวิจัยชิ้นนั้นจริง เพราะงานวิจัยในภาคอุตสาหกรรมส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจ บางครั้งจึงไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ ต่างจากงานวิจัยทั่วไปที่ส่วนใหญ่จะตรวจสอบได้จากเอกสาร เพราะจะต้องตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติ เป็นต้น" นพ.กำจรกล่าว 
 
    ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวยังถือว่าไม่ได้ข้อสรุป ต้องหารือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอีกหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะ วท. ที่อาจต้องมีความร่วมมือ ให้นักวิจัยของ วท.เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของนักศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาเอก เพื่อพัฒนางานวิจัยในด้านดังกล่าวให้เกิดความต่อเนื่อง รวมถึงสร้างนักวิจัยรุ่นใหม่ๆ เพิ่มขึ้นด้วย.
 
 
  • 22 ต.ค. 2557 เวลา 05:45 น.
  • 1,416

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

ความคิดเห็นเกี่ยวกับ : เล็งปลดล็อกอจ.ทำวิจัยเอกชนเต็มตัว "สกอ."คิดตอบโจทย์พัฒนาประเทศ/ชี้ทุกวันนี้ยังหนุนเศรษฐกิจไม่เต็มที่

เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^