LASTEST NEWS

23 ธ.ค. 2567โรงเรียนบ้านหนองบัว รับสมัครครูอัตราจ้าง วุฒิปริญญาตรีทุกสาขา เงินเดือน 6,000 บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 25 ธันวาคม 2567 21 ธ.ค. 2567ปฏิทินการจ่ายเงินเดือนข้าราชการและค่าจ้างลูกจ้างประจำ ประจำปี 2568 20 ธ.ค. 2567สพป.บึงกาฬ เรียกบรรจุครูผู้ช่วย (ขอใช้บัญชี สพม.หนองคาย) จำนวน 3 อัตรา - รายงานตัว 2 มกราคม 2568 20 ธ.ค. 2567​​​​​​​กรมบัญชีกลาง เปิดสอบพนักงานราชการ 27 อัตรา ไม่ต้องผ่าน ภาค ก ตั้งแต่ 3 - 24 มกราคม 2568 19 ธ.ค. 2567สพป.บุรีรัมย์ เขต 1 ขอใช้บัญชีครูผู้ช่วย เขตอื่น ใช้บรรจุ 2 วิชาเอก 13 อัตรา รายงานตัว 26 ธันวาคม 2567 19 ธ.ค. 2567สพป.มหาสารคาม เขต 2 เผยบัญชีตำแหน่งว่างใช่บรรจุครูผู้ช่วย รอบที่ 5  19 ธ.ค. 2567สพป.อุดรธานี เขต 4 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 45 อัตรา 18 ธ.ค. 2567ผู้บริหาร สพฐ. ร่วมประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ครั้งที่ 10/2567 18 ธ.ค. 2567สพม.สงขลา สตูล เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 10 อัตรา - รายงานตัว 24 ธันวาคม 2567 18 ธ.ค. 2567กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เปิดสอบบรรจุเข้ารับราชการ 21 อัตรา สมัครทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2567 - 21 มกราคม 2568

ศธ.สั่งเร่งทำวิจัยเชิงลึกวางแผนแก้ปัญหากวดวิชา

  • 20 ส.ค. 2557 เวลา 10:40 น.
  • 1,194
ศธ.สั่งเร่งทำวิจัยเชิงลึกวางแผนแก้ปัญหากวดวิชา

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

      ศธ.สังเคราะห์งานวิจัยเกี่ยวข้องกับธุรกิจกวดวิชาตั้งแต่ปี 45-57 ระบุข้อมูลปี 55 พบไทยมี ร.ร. กวดวิชากว่า 2 พันแห่งเป็น นร. ระดับมัธยมสูงกว่า 4 แสนคนที่กวดวิชา ขณะที่มูลค่าการตลาดเติบโตเฉลี่ย 5.4 ต่อปี คาดในปี 58 จะสูงถึง 8 พันกว่าล้านบาท จากการเพิ่มค่าเรียนและจำนวน นร. ที่เข้าสู่วงจรกวดวิชา ส่วนสาเหตุที่กวดวิชาเพื่อผลการเรียนดีขึ้น โอกาสการสอบ เตรียมตัวเข้ามหา’ลัย แม้ค่าใช้จ่ายที่สูงเป็นปัญหามากที่สุด องค์กรหลัก ศธ. มอบ สนย. ไปทำวิจัยเชิงลึกโดยรวมประเด็น ร.ร. เปิดสอนกวดวิชา หรือสอนพิเศษตอนเย็นด้วยและนำมาเสนอก่อนนำไปสู่กำหนดแผนแก้ปัญหากวดวิชาในต้นเดือน ก.ย. นี้
       
       วันนี้ (19 ส.ค.) นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) เปิดเผยผลการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ที่ประชุมได้รับทราบรายงานผลการดำเนินงานศึกษาวิจัยเรื่อง “ยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาการกวดวิชา” ของสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ (สนย.) สำนักงานปลัด ศธ. โดยงานวิจัยดังกล่าวเป็นการสังเคราะห์รายงานวิจัย ปริญญานิพนธ์ และวิทยานิพนธ์ ในช่วงปี 2545 - 2557 ซึ่งเผยแพร่ในหนังสือวิชาการ บทความ สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ 27 เรื่อง ผลการสังเคราะห์ พบว่า มีผู้ประกอบการธุรกิจกวดวิชา ทั้งโรงเรียนกวดวิชา และติวเตอร์อิสระรายใหม่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2555 ประเทศไทยมีโรงเรียนกวดวิชา 2,005 แห่ง แบ่งเป็น กรุงเทพฯ 460 แห่ง และภูมิภาค 1,545 แห่ง มีนักเรียนที่เรียนกวดวิชา 453,881 คน คิดเป็น 12% ของจำนวนนักเรียนระดับมัธยมศึกษาทั้งหมด
       
       นอกจากนี้ เมื่อดูมูลค่าตลาดธุรกิจกวดวิชา พบว่า ในปี 2556 อยู่ที่ประมาณ 7,160 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ที่มีมูลค่าประมาณ 7,000 ล้านบาท และจะเติบโตไปสู่ 8,189 ล้านบาท ในปี 2558 หรือเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 5.4 ต่อปี ทั้งนี้ คาดว่ามูลค่าตลาดที่เพิ่มขึ้นมีปัจจัยมาจากการเพิ่มราคาค่าเรียน และจำนวนนักเรียนที่เรียนกวดวิชาเพิ่มขึ้น สำหรับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกวดวิชา เช่น ผู้เรียนคาดว่าจะทำให้ผลการเรียนดีขึ้น ช่วยเพิ่มโอกาสในการสอบได้ ใช้เตรียมตัวสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัย ต้องการเทคนิคการทำข้อสอบ และไม่เชื่อมั่นในคุณภาพของสถาบันอุดมศึกษา ส่วนผลกระทบจากการกวดวิชา เช่น ค่าใช้จ่ายในการเรียนกวดวิชาต่อเทอมค่อนข้างสูง ผู้เรียนต้องออกนอกบ้าน และสถาบันกวดวิชาไม่เน้นสอนแบบผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง อย่างไรก็ตาม มีข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหากวดวิชา เช่น ต้องพัฒนาศักยภาพของสถานศึกษาให้เท่าเทียมกัน สร้างแรงจูงใจให้นักเรียนตั้งใจเรียนในห้องเรียน และปรับระบบการสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัย หรือเข้าศึกษาต่อในระดับชั้นต่างๆ
       
       “จากข้อมูลที่ดังกล่าวที่ประชุมได้มอบให้ สนย. ไปศึกษาวิจัยประเด็นดังกล่าวในเชิงลึกอีกครั้ง รวมทั้งให้ไปศึกษากรณีโรงเรียนที่เปิดสอนกวดวิชา หรือสอนพิเศษในช่วงเย็น หรือเสาร์ - อาทิตย์ ให้แก่นักเรียนด้วยว่าสอนอะไร อย่างไร และครูมีการกั๊กวิชาในห้องเรียนหรือไม่ โดยให้เร่งสรุปผลเสนอในการประชุมปฏิบัติการ เพื่อระดมความคิดเห็นกำหนดยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาการกวดวิชาต้นเดือนกันยายนนี้” นายชัยพฤกษ์ กล่าว
 
 
  • 20 ส.ค. 2557 เวลา 10:40 น.
  • 1,194

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

ความคิดเห็นเกี่ยวกับ : ศธ.สั่งเร่งทำวิจัยเชิงลึกวางแผนแก้ปัญหากวดวิชา

เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^