"กมล"สั่งผู้บริหารเฝ้าพื้นที่
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
"กมล"ย้ำให้ความสำคัญสวัสดิภาพชีวิตครูและบุคลากรก่อน คุณภาพการศึกษา เพราะเทคโนโลยีช่วยได้ พร้อมกระตุกผู้บริหารอยู่ประจำจุด ถ้าเกิดเหตุจะแกปัญหาได้ทันท่วงทีวันนี้ (5 ส.ค.) ดร.กมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวในการประชุมผู้บริหารสถานศึกษา ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เซาท์เทิร์นวิว จังหวัดปัตตานี ว่า นโยบายหลักในการจัดการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะต้องเน้นการดูแลความปลอดภัยในชีวิตของครู และบุคลากรทางการศึกษาเป็นหลัก จากนั้นจึงจะดูแลเรื่องคุณภาพการศึกษา เนื่องจากการพัฒนาคุณภาพการศึกษานั้น เรามีเทคโนโลยีกระบวนการจัดการเรียนการสอน รวมถึงสื่ออุปกรณ์การเรียนต่าง ๆ ที่สามารถช่วยได้ แต่ชีวิตของครูหากเกิดอะไรขึ้นไม่มีอะไรสามารถทดแทนได้ ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่เกิดสถานการณ์ไม่ปลอดภัยก็ให้ครูและบุคลากรทางการ ศึกษาประเมินสถานการณ์ และสามารถหยุดการเรียนการสอนได้ เพราะเราต้องเอาชีวิตของครูและบุคลากรไว้ก่อน
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อไปว่า สำหรับวิสัยทัศน์ในการจัดการศึกษาในปีงบประมาณ 2558 ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะเน้นการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานให้มีคุณภาพ และมาตรฐานสากลบนพื้นฐานของความเป็นไทย คือ ต้องสร้างคนไทยในศตวรรษที่ 21 ที่มีความพร้อมที่จะออกไปแข่งขันในเวทีโลก โดยมีจุดเน้นที่สำคัญ 3 เรื่อง คือ เด็ก ครู และผู้บริหาร โดยในส่วนของเด็กนั้น จะต้องสอนให้เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ มีทั้งความเก่งด้านวิชาการ คิดเป็น เก่งเทคโนโลยี โดยต้องสามารถทั้งใช้เทคโนโลยีเป็นและป้องกันเทคโนโลยีที่ไม่เหมาะสมได้ ขณะเดียวกันต้องเป็นคนดีที่รักชาติเคารพสถาบันศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมถึงสามารถดำเนินตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงได้ นอกจากนี้ในกรณีของเด็กที่มีความต้องการพิเศษก็ต้องได้รับการดูแลเติมเต็มใน ส่วนที่ขาด เพื่อให้สามารถอยู่รอดได้ในสังคม ขณะที่เด็กเก่งก็ต้องได้รับการดูแลส่งเสริมเป็นพิเศษเช่นกัน
"ส่วนครู ก็ต้องได้รับการดูแลและพัฒนาอย่างเหมาะสม การเข้าสู่ตำแหน่งต้องเป็นไปด้วยความยุติธรรมไม่ซื้อตำแหน่ง ไม่มีเส้นสาย เล่นพรรค เล่นพวก และครูต้องมีความพร้อมทั้งความสามารถในการเรียนการสอนเป็นครูที่ดี ซึ่งสพฐ.ก็พร้อมที่จะดูแล สำหรับผู้บริหารทั้งผู้บริหารสถานศึกษาและเขตพื้นที่การศึกษาจะต้องร่วมรับ ผิดชอบต่อผลผลิต คือ นักเรียน โดยอาศัยความร่วมมือจากสังคมต้องช่วยกันผลักดันโรงเรียน และเขตพื้นที่การศึกษาให้มีมาตรฐานสากลให้สามารถแข่งขันกับคนอื่นได้ ที่สำคัญต้องไม่โกง นอกจากนี้ขอให้ผู้บริหารอยู่ประจำโรงเรียน และผอ.เขตพื้นที่ก็ต้องอยู่ที่เขตพื้นที่ให้เข้ากระทรวงน้อยที่สุด เพราะที่ผ่านมามีผู้บริหารเข้าพบผมเป็นจำนวนมาก แต่ประเมินได้ว่า 90%ไม่ได้นำเสนอปัญหาด้านการศึกษา แต่เป็นเรื่องส่วนตัว เพื่อตัวเองแทบทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นหากผู้บริหารอยู่ประจำจุดทั้งโรงเรียนและเขตพื้นที่ ผมมั่นใจว่าจะสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่และในโรงเรียนได้อย่างทันท่วงที" เลขาธิการ กพฐ.กล่าว.
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 5 สิงหาคม 2557