ปฎิรูปการศึกษาต้องปลอดการเมือง
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
นักวิชาการ แนะ ปฎิรูปการศึกษาต้องปลอดจากการเมือง ระบุ ทางออกต้องมี พ.ร.บ.ปฎิรูปการเรียนรู้คุณภาพการศึกษา บริหารโดยองค์กรอิสระ เชื่อจะทำให้เกิดความต่อเนื่อง
วันนี้(12พ.ค.)รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ปัญหาความขัดแย้งในสังคมขณะนี้เกิดจากระบบการศึกษาที่สุดโต่งขึ้นทุกวัน และไม่มีใครคิดที่จะแก้ไขปัญหาจริงจัง เพราะระบบนโยบายการศึกษาไทยมองแต่เรื่องบวกมาโดยตลอด และเป็นแบบลู่เดียว คือ เป็นการศึกษาของครอบครัวคนชั้นกลางเท่านั้น แต่ลืมไปว่ายังมีอีกด้าน คือ กลุ่มเด็กยากจน เด็กด้อยโอกาสประมาณ 4-5 ล้านคน ที่ไม่มีพื้นที่ และมีโอกาสทางการศึกษาน้อยมาก และขณะที่รัฐบาลยังไม่นิ่งน่าจะเป็นโอกาสดีที่หน่วยงาน องค์กร ชุมชน ท้องถิ่นจะร่วมกันปฏิรูปการศึกษา เพราะการศึกษาจะปล่อยให้กระทรวงศึกษาธิการ หรือผู้ใหญ่บางคนจัดการตามลำพังต่อไปไม่ได้แล้ว ต้องเปิดให้ทุกคนร่วมแสดงความคิด โดยเฉพาะการรับฟังเสียงจากเด็ก เพราะเด็กเป็นผู้ถูกกระทำ เป็นกลุ่มที่ถูกผลกระทบมากที่สุด
“การปฏิรูปการศึกษาที่พูดกันมาเป็นสิบปี โดยคำสัญญาของนักการเมืองนั้น เวลานี้ได้พิสูจน์แล้วว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริง และยังทำให้ความแรงของการปฏิรูปการศึกษาลดความสำคัญลงทุกวัน เพราะคนเบื่อหน่าย เคยชิน ไม่มีความหวัง เพราะรัฐมนตรีมาแล้วก็ไป หรือทำได้ไม่นานก็ทิ้ง เพราะฉะนั้นการปฏิรูปการศึกษาที่จะเกิดขึ้นครั้งใหญ่จะหวังนักการเมืองไม่ ได้ ต้องรวมพลังความคิดของคนที่ปลอดการเมือง ไม่คอยความขัดแย้งและความไม่ชัดเจน สังคมต้องพร้อมที่จะระเบิดทำการศึกษาด้วยตัวเอง ไม่ใช่ปฏิวัติ แต่ภาคประชาชน หน่วยงาน องค์กร ชุมชน ท้องถิ่น ต้องกล้ากบฏ ปลดแอก และเชื่อมั่นในศักยภาพตนเองว่า สามารถเปลี่ยนแปลงปฏิรูปการศึกษาได้”รศ.ดร.สมพงษ์กล่าวและว่า เวลานี้ถึงจุดที่บอกได้ว่าการศึกษาไทยย่ำแย่ทุกระดับ แม้แต่ระดับอุดมศึกษาที่เคยเป็นจุดแข็งก็มีปัญหามาก สังเกตได้จากผลการทดสอบทั้งในและต่างประเทศที่ชี้ว่าการศึกษาไทยอยู่ใน อันดับรั้งท้าย เพราะฉะนั้นสิ่งที่เป็นทางออกคือการมี พ.ร.บ.ปฎิรูปการเรียนรู้คุณภาพการศึกษา บริหารโดยองค์กรอิสระ ที่จัดการเรื่องการเรียนรู้ ทรัพยากร หลักสูตรให้เกิดความต่อเนื่อง
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 12 พฤษภาคม 2557