ผอ.โรงเรียนสมัครครูผู้ช่วยเจองานหนัก
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
ผอ.โรงเรียนสมัครครูผู้ช่วยเจองานหนัก
"จาตุรนต์" จี้สพฐ.ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีผู้อำนวยการโรงเรียนและข้าราชการครูแอบมาสมัครสอบครูผู้ช่วย ระบุหากมีมูลส่อทุจริต โดนตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยแน่
วันนี้ (21 เม.ย.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการสอบแข่งขันคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุแต่งตั้งเข้ารับราชการในตำแหน่ง ครูผู้ช่วย กรณีทั่วไป ครั้งที่ 1 พ.ศ.2557 ใน 89 เขตพื้นที่การศึกษา และ 1สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ (สศศ.)ที่ได้สอบไปแล้วระหว่างวันที่19-20 เมษายนที่ผ่านมาว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ได้รายงานว่าการสอบครูผู้ช่วยครั้งนี้มีผู้มีสิทธิ์สอบ 104,066 คน เข้าสอบ91,577 คน คิดเป็นร้อยละ 88 มีผู้ขาดสอบ 12,489 คน คิดเป็นร้อยละ 12 จากการรายงานล่าสุดยังไม่พบว่ามีการทุจริตหรือข้อพิรุธของผู้เข้าสอบเพิ่มเติม แต่สพฐ. ได้แจ้งว่ากำลังตรวจสอบข้อมูลการสอบครูผู้ช่วยภายใน 3-4 วันนี้ว่าในกรณีของผู้ที่สมัครสอบมากกว่า 1 เขตพื้นที่ฯมีจำนวนกี่รายและมีการไปสอบมากกว่า1ที่หรือไม่ หากพบว่ามีจะต้องไปดูข้อเท็จจริงว่ามีคนรู้เห็นเป็นใจหรือไม่ และมีใครไปสอบ หากตรวจพบก็ต้องดำเนินการทันที
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีนายพิทักษ์ ศุภเลิศ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองไทร ต.ลุมปุ๊ก อ.เมือง บุรีรัมย์ และน้องชายที่เป็นครูอยู่แล้วมาสอบก็จะต้องตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงเนื่องจากพฤติกรรมของผู้อำนวยการโรงเรียนถูกเชื่อมโยงกับรายชื่อผู้เข้าสอบ จากจังหวัดบุรีรัมย์ 9 คนที่ไปสมัครสอบที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) สมุทรสาครและไปมีชื่อซ้ำกับเขตพื้นที่อื่นด้วย ทั้งนี้ตนเห็นว่าการมีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแต่มาสมัครสอบครูผู้ช่วยเป็นเรื่องที่ค่อนข้างผิดปกติ ส่วนประเด็นจะให้พักราชการเอาไว้ก่อนหรือไม่นั้นต้องดูข้อเท็จจริงประกอบกันก่อน หากการสืบข้อเท็จจริงพบว่าส่อไปในทางทุจริตก็ต้องมีการสอบสวนทางวินัยอย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีของนายพิทักษ์ ไปสอบที่สพป.สมุทรสาคร โดยมีผู้สมัครจากบุรีรัมย์ไปสอบในห้องเดียวกันหลายคนจะต้องตั้งกรรมการสอบเขตพื้นที่ฯด้วยหรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า จะต้องดูผลสอบข้อท็จจริงก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง และการที่เขตพื้นที่ฯปล่อยให้ผู้เข้าสอบที่มาจากจังหวัดเดียวกันไปนั่งสอบในห้องเดียวกันจะส่อพิรุธหรือไม่ ซึ่งจากรายงานข้อมูลของสพฐ.ผู้เข้าสอบส่วนใหญ่ก็มาจากจังหวัดเดียวกันแต่เมื่อข้ามจังหวัดมาไกลจึงทำให้เกิดคำถามและเข้าใจว่ากรรมการสอบคงไม่ได้เพ่งเล็ง เพราะผู้สมัครสอบจะมาจากจังหวัดไหนก็ได้
นางภานิชา อินทร์ช้าง รองผอ.สพป.บุรีรัมย์เขต 4 รักษาการผอ.สพป.บุรีรัมย์เขต 4 กล่าวว่า ตนได้ตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงนายธนกฤต ศุภเลิศ ครูรร.บ้านหนองกระทุ่มที่ไปสอบครูผู้ช่วยโดยไม่ได้มีการขออนุญาต รวมถึงเหตุผลของการไปสอบ ซึ่งเบื้องต้นนายธนกฤษให้เหตุผลว่าต้องการดูแนวข้อสอบไว้ให้ลูกหลานเท่านั้น อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้จะต้องรอให้คณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงสรุปผลออกมาว่าจะเป็นเช่นไร
นายพิศุทธิ์ วีระจิตต์ ผอ.สพป.สมุทรสาคร กล่าวว่า ขณะนี้ได้จัดทำรายงานส่งให้นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.)โดยชี้แจงตามข้อเท็จจริงและข้อมูลส่วนตัวจากเอกสารหลักฐานที่นายพิทักษ์ และนายชุมพล นำมายื่นสมัครสอบ อาทิ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน วุฒิการศึกษา และได้ชี้แจงว่าในการสมัครสอบดังกล่าวทั้ง 2 รายระบุในใบสมัครว่าประกอบอาชีพอื่นๆ ไม่ได้แสดงตนว่าเป็นข้าราชการ ทั้งนี้ก่อนหน้าวันสอบเพียง 1 วันเพิ่งได้ข้อมูลว่าทั้ง 2 คน เป็นผอ.โรงเรียนและข้าราชการครู ดังนั้นในวันสอบภาค ก.วันที่ 20 เมษายน ซึ่งปรากฎว่า นายพิทักษ์ เดินทางมาสอบเพียงคนเดียวนั้น ทางเขตพื้นที่ฯ จึงได้สั่งให้คณะกรรมการคุมสอบนั่งประกบนายพิทักษ์ตลอดการสอบเพื่อป้องกันเหตุที่อาจจะมีการกระทำที่ส่อไปในทางทุจริตและในพื้นที่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดก็มีการเฝ้าสังเกตการณ์รวมถึงกำชับให้จับตาพฤติกรรมของผู้เข้าสอบอีก 9 คนที่มาจากจังหวัดบุรีรัมย์ด้วย ส่วน นายชุมพล แม้จะมีชื่อเข้าสอบแต่ไม่ได้มาสอบที่นี่ โดยทราบว่าไปสอบที่สพป.นนทบุรี เขต 1
“ถ้ามองมิติทางสังคมก็เป็นเรื่องที่แปลกและต้องมองว่ามีเจตนาอะไรที่จะมาสอบครูผู้ช่วยทั้งที่มีตำแหน่งเป็นผอ.โรงเรียนอยู่แล้ว ซึ่งเมื่อรู้เรื่องก็วางมาตรการให้กรรมการคุมสอบ 1 คน นั่งประกบตลอดการสอบ อีกทั้งเราใช้ข้อสอบที่ออกโดยมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (มสด.) ซึ่งจะเป็นลักษณะคู่ขนาน สลับข้อสอบ สลับคำตอบจึงเป็นไปได้ยากที่จะส่งสัญญาณ รวมทั้ง มสด.ได้พิมพ์ชื่อผู้เข้าสอบลงในกระดาษคำตอบด้วย เพราะฉะนั้นพฤติกรรมที่ว่าอาจจะสวมรอยเข้าสอบจึงไม่เกิดขึ้นแน่นอน อย่างไรก็ตามผมได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำสถิติจำแนกผู้เข้าสอบที่มาจากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะที่มาจากบุรีรัมย์ด้วยว่ามีกี่รายเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา สำหรับในส่วนของ นายพิทักษ์ จะต้องมีการดำเนินการอย่างไรเพิ่มเติมหรือไม่ต้องรอให้นายอภิชาติ สั่งการอีกครั้งหนึ่ง”นายพิศุทธิ์ กล่าว
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 21 เมษายน 2557