ผอ.สพม.2 เซ็นสั่งย้าย ผอ.สว.2 ช่วยราชการ สพฐ.แล้ว
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
กรุงเทพฯ 9 เม.ย.- นายสัจจา ศรีเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 2 (สพม.2) เปิดห้องรับหนังสือร้องทุกข์จากศิษย์เก่าโรงเรียนสตรีวิทยา 2 เพื่อขอให้มีการเปลี่ยนตัวและสอบสวนจริยธรรม นายพชรพงศ์ ตรีเทพา ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีวิทยา 2 จากกรณีวงโยธวาทิตของโรงเรียนไปรวมตัวขอเงิน 3.1 ล้านบาทจากนักธุรกิจชื่อดัง รวมถึงปัญหาคลิปเสียงการร่วมวางแผนหาทุนดังกล่าว
นายสัจจา กล่าวตอบศิษย์เก่าและเปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 70 ของ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ออกคำสั่งย้ายนายพชรพงศ์ ให้มาช่วยราชการเป็นการภายในที่เขตพื้นที่การศึกษา โดยให้มารายงานตัวภายในวันศุกร์ที่ 11 เมษายนนี้ และจากนั้นจะเสนอให้ไปช่วยราชการที่ สพฐ.ในระหว่างที่มีการสอบสวนข้อเท็จจริงต่าง ๆ โดยจะรายงานต่อนายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ในเย็นวันนี้ และต้องแสดงการขอโทษต่อสังคม รวมทั้งกลุ่มองค์กรต่าง ๆ ที่ไม่สามารถบริหารจัดการจนทำให้โรงเรียนที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ และเป็นหน้าเป็นตาของ สพม.2 ได้รับผลกระทบเช่นที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ การออกคำสั่งย้ายมาช่วยราชการ ยังไม่ถือว่านายพชรพงศ์ มีความผิด หากผลสอบออกมาแล้วไม่ผิด ก็สามารถย้ายกลับคืนได้ จากนี้ไม่อยากให้สังคมซ้ำเติมโรงเรียน หรือตัวนายพชรพงศ์
นายสัจจา กล่าวว่า การตัดสินใจในวันนี้มาจากการตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบด้าน จากการติดตามข่าว ได้ฟังคลิปเสียงที่เป็นปัญหา มีหลายองค์กรมายื่นหนังสือ รวมทั้งเมื่อวานนี้มีศิษย์ปัจจุบันชั้น ม.6 จำนวน 7 คน มาเปิดใจถึงความรู้สึกต่อปัญหาภายในโรงเรียน ทำให้ตนต้องตัดสินใจใช้อำนาจครั้งนี้
"ขณะนี้ยังคงให้มีการดำเนินการสืบหาข้อมูลข้อเท็จจริงต่อไป แต่ถ้ารอผลดังกล่าวคงจะไม่ทันการณ์ อาจจะเกิดความวุ่นวายมากขึ้นภายในโรงเรียนสตรีวิทยา 2 อาจเกิดความขัดแย้งที่รุนแรงจึงได้ตัดสินใจออกคำสั่งครั้งนี้ตามอำนาจที่มี" นายสัจจา กล่าวและว่า จะยังไม่นำประเด็นนี้เข้าที่ประชุม อ.ก.ค.ศ.เขตในวันนี้แต่อย่างใด โดยจะรอกรณีที่ต้องดำเนินการทางวินัยก่อน เพราะหากนำเข้าที่ประชุมโดยที่มีความคิดหลากหลาย อาจทำให้การตัดสินใจล่าช้า
นายสัจจา กล่าวว่า จากนี้ตนจะเข้าไปในโรงเรียนสตรีวิทยา 2 เชิญชวน 4 องค์กรหลักของโรงเรียนมาคุยกันเพื่อหาทางออก ได้แก่คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สมาคมผู้ปกครองและครู สมาคมศิษย์เก่า และเครือข่ายผู้ปกครอง ซึ่งทราบว่ากำลังมีความแตกแยกในระดับสูงมาก อย่างไรก็ตาม การสอบสวนอาจจะใช้เวลานานเป็นเดือน
ภายหลังกลุ่มศิษย์เก่าได้รับฟังคำชี้แจงดังกล่าวต่างตบมือและบอกว่ามีความสบายใจในระดับหนึ่ง โดยยังกำชับขอให้นายสัจจา ดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของโรงเรียนกลับมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมาตรา 70 ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 นั้นระบุว่า ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษามีอำนาจสั่งให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ประจำสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเป็นการชั่วคราว โดยพ้นตำแหน่งหน้าที่เดิมได้
ที่มาของข่าว : สำนักข่าวไทย วันที่ 9 เมษายน 2557