KRUWANDEE

บ.ไฮเออร์ฯชนะประมูลแท็บเล็ตโซน1 ส่วนโซน2บ.ไทยทรานสมิชชั่นฯได้ "จาตุรนต์"หวั่นราคาประมูลต่ำกว่าวงเงินงบฯมาก ทำประวัติศาสตร์ซ้ำรอย จ่อฟ้องเรียกค่าเสียหายผลต่างการประมูล เซิ่นเจิ้นฯ 25 ล้านบาท

 

วันนี้(26มี.ค.) ที่บริษัท สวนกุหลาบ เซอรารี่ซีล จำกัด ได้มีการประกวดราคาจัดซื้อคอมพิวเตอร์พกพา(แท็บเล็ต) ตามโครงการแท็บเล็ตพีซีเพื่อการศึกษาไทย (One Tablet Per Child) ปีการศึกษา 2556 โซนที่ 1 (ภาคกลางภาคใต้) และโซนที่ 2 (ภาคเหนือและภาคตะวันเฉียงเหนือ )ใหม่ หลังจากกระทรวงศึกษาธิการได้ยกเลิกสัญญาการจัดซื้อแท็บเล็ตทั้ง 2โซน กับบริษัทเซิ่นเจิ้น อิงถัง อินเทลลิเจ้นท์ คอนโทรล จำกัด เนื่องจากทำผิดสัญญาจัดซื้อ ซึ่ง นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ตนได้รับรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ว่า จากการประกวดราคาจัดซื้อโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรืออีอ๊อกชั่น สำหรับโซนที่ 1 วงเงิน 1,172,605,600 บาท และโซนที่ 2 วงเงิน 1,016,292,640 บาท นั้นผลการประมูลปรากฏว่า โซนที่ 1 บริษัทที่เสนอราคาต่ำสุด คือบริษัท ไฮเออร์อิเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ จำกัด วงเงิน 867 ล้านบาท ต่ำกว่าวงเงินงบประมาณถึง 305,605,600 ล้านบาท และโซนที่ 2 บริษัทที่เสนอราคาต่ำสุดคือ บริษัท ไทยทรานสมิชชั่นอินดัสตรี จำกัด วงเงิน 700 ล้านบาท ต่ำกว่าวงเงินถึง 316,292,640 ล้านบาท ทั้งนี้ โซนที่ 1 มี 2 บริษัทเข้าเสนอราคา ได้แก่บริษัท สุพรีมดิสทิบิวชั่น(ไทยแลนด์)จำกัด และบริษัท ไฮเออร์อิเลคทริคอลฯ ส่วนโซนที่ 2 มี 3 บริษัทเข้าเสนอราคาได้แก่ บริษัท ไทยทรานสมิชชั่นอินดัสตรีฯ บริษัทสุพรีมฯ และบริษัทไฮเออร์อิเลคทริคอลฯ

 

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ขั้นตอนต่อไปทางคณะกรรมการประกวดราคาซื้อแท็บเล็ตต้องเสนอให้นายอภิชาต จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) อนุมัติหรือเห็นชอบ จากนั้นก็ทำรายงานเสนอรมว.ศึกษาธิการทราบอย่างเป็นทางการ และรายงานต่อคณะกรรมการบริหารนโยบายแท็บเล็ตต่อไป อย่างไรก็ตามเท่าที่ดูเห็นว่าราคาประมูลที่เสนอมานั้นต่ำกว่าวงเงินงบประมาณมากพอสมควร ดังนั้นคณะกรรมการจัดซื้อฯและสพฐ.ต้องไปดูให้ดีว่าจะมีปัญหาเรื่องขีดความสามารถ โดยเฉพาะความเป็นไปได้และศักยภาพที่จะดำเนินการหรือไม่ รวมถึงสำรวจราคาที่น่าจะเป็น และชิ้นส่วนต่างๆว่านำมาจากไหน หรือที่ประมูลต่ำเช่นนี้เป็นเพราะวัสดุอุปกรณ์การผลิตถูกลงคงต้องให้ผู้ที่ มีความรู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์แท็บเล็ตช่วยดูอีกที เพื่อประกอบการพิจารณาเท่าที่ระเบียบอนุญาตให้ทำได้ ซึ่งเวลานี้ในระบบและระเบียบการประกวดราคาไม่มีกติกาที่บังคับว่าห้ามประมูลต่ำมาก เน้นแค่ว่าใครราคาต่ำสุดก็ได้ไป แต่ที่เป็นห่วงคือที่ผ่านมาเมื่อประมูลต่ำมากก็ทำไม่ได้ ก็ได้แต่หวังว่าจะไม่เกิดปัญหาซ้ำเดิมอีก

 

“การประมูลได้ราคาต่ำสุดก็เป็นไปตามระเบียบ แต่ขอให้นำเอาบทเรียนจากครั้งที่แล้วมาอุดช่องว่าง โดยเอาปัญหาอุปสรรคต่างๆมาพิจารณาประกอบในการดำเนินงาน หากมีข้อสงสัยเรื่องการเสนอราคาต่ำกว่าทุนของตลาดก็ให้ดูให้ดี “นายจาตุรนต์กล่าวและว่า ราคาที่ได้ไม่แน่ใจว่าสูงกว่าที่บริษัทเซิ่นเจิ้นฯเคยประมูลไว้หรือไม่หากสูงกว่า สพฐ.ต้องไปดำเนินการเรียกส่วนต่างจากบริษัทเชิ่นเจิ้นฯต่อไป ส่วนการประกวดราคาโซนที่ 4 ไม่น่าซับซ้อนเพราะปฏิทินที่ชัดเจนอยู่แล้ว

 

ด้านนายอภิชาติ กล่าวว่า คณะกรรมการประกวดราคาได้รายงานมาให้ตนเห็นชอบตามมติของคณะกรรมการจัดซื้อแล้วว่าบริษัทไหนชนะการประกวดราคา ซึ่งทั้ง 2 บริษัทเสนอราคารวมกันแล้วอยู่ 1,567,000,000 บาท ซึ่งราคารวมต่ำกว่าวงเงินงบประมาณที่มีอยู่ นั่นก็หมายความหากเราดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยก็ไม่ต้องของบประมาณเพิ่มจากรัฐบาล ซึ่งส่วนนี้ก็ไม่ต้องเรียกเงินเพิ่มจากบริษัทเซิ่นเจิ้นฯ เพราะยังอยู่ในวงเงินงบประมาณ แต่ส่วนที่บริษัทเซิ่นเจิ้นฯ ผิดสัญญานั้นสพฐ.จะดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อไป สำหรับขั้นตอนต่อไปสพฐ.จะออกหนังสือเรียกทั้ง 2 บริษัทที่ประมูลได้มาทำสัญญาภายใน 7 วัน อย่างช้าที่สุดต้องมาทำสัญญาวันที่ 2 เมษายน และต้องดำเนินการเกี่ยวกับสัญญาทุกอย่างให้เรียบร้อยภายใน 31 มีนาคมนี้ เพราะข้ามปีงบประมาณมาช้ามากแล้ว

 

รายงานข่าวแจ้งว่า เดิม บริษัทเซิ่นเจิ้นฯ ประมูลโซนที่ 1 จำนวน 431,105เครื่อง ได้วงเงิน 842 ล้านบาท ราคาต่อเครื่อง 1,953 บาท โซน2 จำนวน 373၊,637,786 ါเครื่อง วงเงิน 786 ล้านบาท ราคาต่อเครื่อง 2,103 บาท แต่การประมูลครั้งใหม่นี้บริษัทไฮเออร์ฯประมูลโซน 1 ได้ในวงเงิน 867 ล้านบาท ราคาต่อเครื่อง 2,011 ဟบาท และโซน2บริษัทไทยทรานสมิทชั่นฯประมูลได้ในวงเงิน 700 ล้านบาท ราคาต่อเครื่อง 1,873 บาท ขณะที่ราคากลางคอมพิวเตอร์ตั้งไว้ที่ 2,720ဟบาทต่อเครื่อง ดังนั้นในโซนที่ 1 ศธ.จะมอบให้สำนักงานอัยการสูงสุดฟ้องร้องบริษัทเซิ่นเจิ้นฯเรียกค่าเสียหายส่วนต่างจากการประมูลครั้งที่แล้วกับครั้งนี้ จำนวน 25 ล้านบาท

 

ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 26 มีนาคม 2557