จวกรบ.ละเลยค่านิยมโกงผิดสังเกต ทั้งที่โพลนิด้าออกมาโต้งๆ"สมพงษ์"ระบุอันตรายชี้เป็นสังคมกัดกินตัวเอง/ต้องเริ่มใหม่อนุบาล
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
จวกรบ.ละเลยค่านิยมโกงผิดสังเกต ทั้งที่โพลนิด้าออกมาโต้งๆ"สมพงษ์"ระบุอันตรายชี้เป็นสังคมกัดกินตัวเอง/ต้องเริ่มใหม่อนุบาล
สืบเนื่องจากผลโพลนิด้าระบุนิสิต-นศ.ไทยทุจริตสอบ ไม่ซื่อสัตย์ต่อการเรียน แต่ 'รมว.ศธ.' กลับไม่ได้เน้นย้ำเรื่องจริยธรรม จี้มหา'ลัยผลิตบัณฑิตคำนึงถึงคุณภาพอย่างเดียว ขณะที่ 'สมพงษ์' ห่วงค่านิยมเด็กมองเรื่องทุจริตป็นเรื่องปกติ ระบุอันตรายเป็นสังคมกัดกินตัวเอง โกงสนั่นเพิ่มเป็น 30% แล้ว จวกรัฐบาลรักษาการละเลยอย่างน่าผิดสังเกต ชี้ต้องปลูกฝังจรรยาบรรณตั้งแต่อนุบาล แนะรัฐบาลชุดใหม่เร่งแก้ไขด่วน
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงตามที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้าโพล สำรวจนิสิตนักศึกษาจำนวน 5,654 คน จาก 23 มหาวิทยาลัย ผลปรากฏว่านิสิตนักศึกษา 16% เคยทุจริตการสอบและที่ทำไม่รู้ไม่เห็น ทั้งนี้ ผู้เคยทุจริตคิดว่าการทุจริตในการสอบหรือการช่วยเพื่อนทุจริตเป็นความผิด ร้ายแรง แต่ยังทำ อีกทั้งนิสิตนักศึกษาให้คนอื่นทำงานให้มีมากกว่า 60% และคิดว่ามีความผิดเล็กน้อยเท่านั้น ว่า ปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาใหญ่ซึ่งเกิดมาหลายปีแล้ว เริ่มตั้งแต่ปัญหาการให้เกรดง่ายๆ และมีหลักสูตรเปิดสอนค่อนข้างง่าย เน้นปริมาณเด็กที่เข้ามาเรียนโดยไม่คำนึงถึงคุณภาพ ซึ่งปัจจุบันมีการสร้างค่านิยมเพื่อให้ตนเองสามารถจบการศึกษาง่ายคือการ ทุจริตการสอบ ทำให้ค่านิยมในการเรียนเพื่อความรู้ลดลงไปมาก
นายจาตุรนต์กล่าวต่อว่า การผลิตบัณฑิตควรกำหนดคุณลักษณะบัณฑิต ในระดับมหาวิทยาลัยถูกล็อกด้วยหลักสูตร ก็ต้องไปดูว่าหลักสูตรนั้นๆ กำหนดคุณลักษณะอันพึงประสงค์อย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่อีกเรื่องหนึ่ง ยิ่งสภาพสังคมไทยปัจจุบันแม้แต่ปริญญาโทหรือปริญญาเอกก็ได้มาอย่างง่ายๆ รวมถึงการให้เกียรตินิยมที่เน้นเพียงเกรดที่สูงเท่านั้น อีกทั้งไม่ปลูกฝังเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตเท่าที่ควร ยกตัวอย่างตัวประเทศที่ประสบความสำเร็จทางด้านการศึกษานั้น มีการกำหนดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ที่เป็นลักษณะของผู้ที่ได้เกียรตินิยมโดยไม่ได้มุ่งเน้นต่อเกรดอย่างเดียว แต่คำนึงถึงการปฏิบัติตนให้มีความรับผิดชอบ สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ หรือมีความเป็นผู้นำ เป็นต้น ซึ่งหากเราจะผลิตบัณฑิตให้มีคุณภาพ เราต้องปลูกฝังคุณลักษณะที่ดีและจำเป็น ซึ่งต่อไปมหาวิทยาลัยควรที่จะพิจารณาไม่เพียงแค่เกรดเท่านั้น แต่ต้องพิจารณาไปถึงคุณลักษณะอันพึงประสงค์ไปด้วย ไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการบัณฑิตต่อสังคมไทยแต่ต้องคำนึงถึงสังคมโลก ด้วย
ด้าน รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์ประจำคณะคุรุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า จากผลสำรวจดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าขณะนี้ประเทศไทยนั้นน่าเป็นห่วงในเรื่องของ การทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งการทุจริตถูกละเลยและไม่ได้แก้ไขมาตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา โดยคนที่ศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษาออกมายอมรับเรื่องการทุจริตต่างๆ ทั้งทำเองหรือช่วยเพื่อน แม้กระทั่งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น และที่สำคัญผู้ใหญ่ในบ้านเมืองนั้นเป็นตัวอย่างในการทุจริตคอร์รัปชันต่างๆ ซึ่งส่งผลต่อวิธีการคิด ค่านิยมของเด็กในยุคนี้ ถือว่าเป็นความเสียหายของภาคพลเมืองอย่างมาก
รศ.ดร.สมพงษ์กล่าวต่อว่า ขณะนี้เราก็ยังไม่เห็นว่ารัฐบาล หน่วยงานการศึกษา จะมีวิธีแก้ไขอย่างไร อีกทั้งมีการเคลื่อนไหวในเรื่องนี้น้อยมาก ซึ่งเป็นที่น่าผิดสังเกตทั้งที่มีการทุจริตในหลายจุด เช่น การเบี้ยวหนี้กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เป็นต้น แม้ว่าจะมีหน่วยงานเล็กๆ เข้ามามีบทบาทในการรณรงค์แก้ไขการคอร์รัปชัน แต่แค่ฉาบฉวยเท่านั้น ไม่ลงมือปฏิบัติหรือฝึกฝนเด็กอย่างจริงจัง ส่วนหนึ่งที่จะสามารถแก้ไขได้นั้นคือ ครู อาจารย์ ต้องมีความเข้มงวด ไม่ใช่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แม้ว่าในหลักสูตรมีการกำหนดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ แต่สิ่งที่ไม่ถูกสอนคือจรรยาบรรณ
“สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นคือวิธีการคิด ทัศนคติ ค่านิยมของคนรุ่นใหม่เป็นอันตรายต่ออนาคต การที่เด็กออกมายอมรับและคิดว่าเป็นเรื่องปกติของสังคมไทย ทั้งที่เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย และเป็นความบกพร่องของสังคมไทย ภาพของการทุจริตคอร์รัปชันเป็นสังคมที่กัดกินตัวเอง ขณะนี้มีอัตราเพิ่มขึ้นเป็น 30% แล้ว ต่อจากนี้ต้องปลูกฝังความซื่อสัตย์ตั้งแต่อนุบาล ซึ่งเป็นไฮไลต์ในรัฐบาลในสมัยหน้าที่จะต้องเข้ามาดูอย่างจริงจัง” รศ.ดร.สมพงษ์กล่าว.
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 17 มีนาคม 2557