6อดีตบิ๊กสปช.เดินหน้าทวงสิทธิ์
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
6อดีตบิ๊กสปช.เดินหน้าทวงสิทธิ์
จากการที่ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)เพิกถอนคำสั่งลงโทษไล่ออก นายพิสิษฐ์ ศิวิลัย อดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ(กปช.) และ ดร.ชัชวาลย์ วัดอักษร อดีตหัวหน้าฝ่ายสารสนเทศ กองนโยบายและแผน สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ(สปช.) และเพิกถอนคำสั่งให้ปลดออก ดร.กมล ภู่ประเสริฐ อดีตเลขาธิการ กปช. นายเลี่ยม พูลเอี่ยม อดีตรองเลขาธิการ กปช. นายยุทธชัย อุตมา อดีตรองเลขาธิการ กปช. และนายเกียรติ์ อัมพรายน์ ผอ.สำนักนิเทศและพัฒนาวิชาการ สปช. ในกรณีการจัดซื้อห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ และการจัดซื้อโปรแกรมบริหารโรงเรียนของ สปช. เนื่องจากคำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย นั้น
วันนี้(3 มี.ค.)ดร.ชัชวาลย์ กล่าวว่า จากระยะเวลาในกระบวนการพิจารณาคดียาวนานถึง 15 ปีนับจากวันที่กระทรวงศึกษาธิการมีคำสั่งลงโทษเมื่อปี 2542 ทำให้ผู้ถูกคำสั่งลงโทษได้รับผลกระทบต่อชื่อเสียง เกียรติคุณ เสียโอกาสความเจริญก้าวหน้าในราชการ ได้รับความลำบากเดือดร้อนในการดำรงชีวิต ดังนั้นเมื่อกระบวนการยุติธรรมพิพากษาออกมาเช่นนี้ พวกตนก็ได้ดำเนินการยื่นเรื่องต่อศธ. เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อให้คืนสิทธิตามกฎหมาย เช่น ตำแหน่งหน้าที่ เงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง ค่ารักษาพยาบาล และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ อันพึงมีพึงได้ โดยมูลค่าความเสียหายที่กระทรวงศึกษาธิการจะต้องจ่ายให้ตามสิทธินี้เบื้องต้นประเมินได้มากกว่า 70 ล้านบาท ทั้งนี้ยังไม่รวมถึงค่าเสียโอกาสและความเสื่อมเสียชื่อเสียงอันเกิดจากการที่ ศธ.ละเมิดต่อพวกตนซึ่งยังประเมินค่าไม่ได้ด้วย
"สำหรับผมเป็นคนเดียวที่ยังมีอายุราชการเหลืออยู่ เพราะฉะนั้นต้องบรรจุผมเข้ารับราชการในตำแหน่งที่ไม่ต่ำกว่าเดิม แต่เนื่องจากเวลาล่วงเลยมากว่า 15 ปี ถ้าผมไม่ถูกคำสั่งลงโทษดังกล่าวเวลานี้ต้องเป็นผู้บริหารระดับสูงแล้ว เพราะคนที่มีอายุราชการรุ่นเดียวกันเป็นปลัดกระทรวงมาแล้วถึง 4 คน"ดร.ชัชวาลย์กล่าว
ด้าน ดร.สุทธศรี วงษ์สมาน ปลัด ศธ. กล่าวว่า ได้รับรายงานแล้วว่าทั้ง 6 คนได้ส่งคำร้องมายัง ศธ.แล้วแต่ตนยังไม่ทราบรายละเอียด อย่างไรก็ตามจากการหารือกับผู้แทนคณะกรรมการกฤษฏีกาอย่างไม่เป็นทางการ ศธ.จะต้องคืนสิทธิประโยชน์ ค่าตอบแทนอื่น ๆ ทั้งหมดให้ตั้งแต่มีคำสั่งไล่ออกหรือปลดออก เพราะเป็นสิทธิ์ที่ทุกคนพึงจะได้ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ก็ต้องหารือกับสำนักงานคณะกรรมการการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ด้วยเพราะตอนนี้ได้แยกเป็น สพฐ.แล้ว
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 3 มีนาคม 2557