กองทุนรักษา ขรก.ของอปท. พบเบิกซ้ำซ้อน
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
กองทุนรักษา ขรก.ของอปท. พบเบิกซ้ำซ้อน
สปสช.ชี้แจงความคืบหน้าผลการดำเนินงานกองทุนค่ารักษาพยาบาลให้ ขรก.ส่วนท้องถิ่น ตั้งแต่ 1 ต.ค.56 ใช้งบไปแล้ว 552 ล้านบาท รองอธิบดีกรมการปกครองส่วนท้องถิ่นชี้ยังพบปัญหาใช้สิทธิ์ไม่ได้ เบิกจ่ายซ้ำซ้อน
นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการหลัประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวในการประชุมชี้แจงผลการดำเนินงานของ สปสช.ในการทำหน้าที่บริหารกองทุนค่ารักษาพยาบาลองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) อันหมายถึงองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เทศบาล และองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ให้แก่ข้าราชการและพนักงาน อปท.ต่างๆ ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2556 พบว่ามีผู้ลงทะเบียนทั้งหมด 687,626 คน จาก อปท.7,851 แห่งทั่วประเทศ ในจำนวนนี้มีการลงทะเบียนเบิกจ่ายตรง 297,390 คน คิดเป็น 43.25% ของผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด ในจำนวนนี้ไปใช้บริการแล้ว 272,763 ครั้ง รวมค่าใช้จ่าย 552.1 ล้านบาท แต่เพิ่งได้รับเงินโอนจากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นงวดแรกเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับการใช้บริการนั้น ผู้ที่ลงทะเบียนเบิกจ่ายตรงแล้วไม่ต้องสำรองจ่าย เพียงแสดงบัตรประชาชนหรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้มีเลข 13 หลัก กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 7 ปีใช้สูติบัตร สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน หากไปใช้บริการต้องสำรองจ่ายแล้วนำใบเสร็จไปเบิกจ่ายกับต้นสังกัดภายหลัง ดังนั้นจึงขอให้ผู้มีสิทธิ์ทุกท่านไปลงทะเบียนโดยเร็วที่สุด ซึ่งข้าราชการท้องถิ่นจะได้รับสวัสดิการรักษาพยาบาลเหมือนกับข้าราชการทุกประการ
นายสมดี คชายั่งยืน รองอธิบดีกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยจัดสรรงบประมาณสำหรับใช้ในโครงการกองทุนค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการส่วนท้องถิ่น ปี 2557 จำนวน 7,000 ล้านบาท จ่ายเข้ากองทุนจริง 4,000 ล้านบาท แบ่งจ่ายเป็น 2 งวด จ่ายไปแล้วเมื่อเดือน ธ.ค. 2,000 ล้านบาท อีก 2,000 ล้านบาทที่เหลือจะจ่ายให้ภายในเดือน ก.พ.นี้ ทั้งนี้ สำหรับงบประมาณอีก 3,000 ล้านบาทจะเป็นงบสำรองเพื่อใช้จ่ายในกรณีที่ไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม หลังการดำเนินโครงการดังกล่าวไปแล้ว 4 เดือน ได้มีการหารือและประเมินผล พบว่ายังมีปัญหาอยู่ 3 เรื่องคือ 1.ข้าราชการท้องถิ่นในบางพื้นที่ไม่สามารถใช้สิทธิ์การรักษาได้ 2.ในกรณีที่ผู้ป่วยสำรองจ่ายไปก่อนแล้วมาเบิกคืนทีหลัง พบว่ามีการเบิกซ้ำซ้อนไปยังงบของ อปท. และเบิกมายัง สปสช. และ 3.มีการหักค่าธรรมเนียมในการโอนเงินคืน ซึ่งตามปกติ สปสช.ได้มีการประสานความร่วมมือกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารกรุงไทยไว้ แต่ตัวข้าราชการท้องถิ่นเองที่ไปคิดว่าสามารถโอนผ่านธนาคารใดก็ได้ จึงเป็นความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน ซึ่งเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงมหาดไทยได้มีการทำหนังสือชี้แจงไปยังทุกหน่วยงานเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันแล้ว
"โครงกองทุนค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการส่วนท้องถิ่นทำให้สามารถประหยัดงบประมาณไปได้เยอะ จากเดิมที่ท้องถิ่นจะต้องนำเงินที่ได้จากการจัดเก็บภาษีท้องถิ่นมาใช้ ซึ่งตามกฎหมายกำหนดว่างบดังกล่าวจะนำไปใช้เพื่อการพัฒนาและใช้เพื่อการทั่วไป แต่ห้ามใช้เกิน 40% ของภาษีที่จัดเก็บได้ แต่ปรากฏ อปท.บางแห่งนำไปใช้เพื่อการรักษาพยาบาลข้าราชการและเจ้าหน้าที่สูงประมาณ 15-20%".
ที่มาของข่าว : เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2557