ตัดสิทธิ์ครุ-ศึกษาศาสตร์ได้ตั๋วครูอัตโนมัติ คุรุสภาปรับเกณฑ์ใหม่ทุกคนต้องผ่านการทดสอบ/สภาคณบดีชี้ควรวัดสมรรถนะ
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
ตัดสิทธิ์ครุ-ศึกษาศาสตร์ได้ตั๋วครูอัตโนมัติ คุรุสภาปรับเกณฑ์ใหม่ทุกคนต้องผ่านการทดสอบ/สภาคณบดีชี้ควรวัดสมรรถนะ
"คุรุสภา" เห็นชอบปรับเกณฑ์รับรองปริญญาและประกาศนียบัตรทางการศึกษาเพื่อการประกอบวิชาชีพ ชี้บัณฑิตครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ยังไม่ได้รับใบประกอบวิชาชีพอัตโนมัติ ต้องผ่านการทดสอบก่อน ระดมผู้เกี่ยวข้องเตรียมการจัดสอบอย่างเข้มข้น กำหนดสอบปี 2562 สภาคณบดีคณะครุศาสตร์ฯ กังวลประสิทธิภาพของการสอบ โดยต้องวัดในเรื่องสมรรถนะการเป็นครูมากกว่าจะวัดความรู้
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ที่ประชุมคณะกรรมการคุรุสภา โดยมีนายไพฑูรย์ สินลารัตน์ ประธานคณะกรรมการคุรุสภา เป็นประธานได้เห็นชอบร่างประกาศคุรุสภา เรื่องการรับรองปริญญาและประกาศนียบัตรทางการศึกษาเพื่อการประกอบวิชาชีพ พ.ศ. ... โดยมีสาระสำคัญคือ คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ในสถาบันอุดมศึกษาต้องมีการดำเนินปรับหลักเกณฑ์การรับรองปริญญารูปแบบใหม่ คือนิสิตนักศึกษาที่จบหลักสูตรจะยังไม่ได้รับใบประกอบวิชาชีพโดยอัตโนมัติเหมือนที่ผ่านมา แต่ต้องผ่านการทดสอบเพื่อรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการวิชาชีพครู ที่ต้องมีการตรวจสอบและดูแลคุณภาพวิชาชีพอย่างเข้มข้น อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อกังวลของผู้ที่ต้องการจะเข้าสู่วิชาชีพครู ซึ่งจะต้องมีความสนใจ ตั้งใจ และเตรียมตัวมากกว่าที่เป็นอยู่
นายไพฑูรย์กล่าวต่อว่า แนวทางการสอบใบประกอบวิชาชีพครูดังกล่าวจะใช้กับนิสิตนักศึกษาสาขาครุศาสตร์และศึกษาศาสตร์ที่เข้าศึกษาในปีการศึกษา 2557 เป็นต้นไป และจะเริ่มสอบเมื่อนิสิตนักศึกษากลุ่มนี้จบการศึกษาประมาณปี พ.ศ2562 ฉะนั้นคุรุสภา คณะครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ ต้องร่วมกันเตรียมการจัดสอบให้เหมาะสมและมีคุณภาพให้ตรงกับความต้องการของหน่วยงาน อย่างไรก็ตาม การสอบรับใบอนุญาตดังกล่าวสามารถสอบได้หลายครั้ง ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่หากสอบไม่ได้ก็ไม่สามารถเข้าสอนในสถาบันการศึกษาใดๆ ได้ เพราะคุรุสภาจะไม่รับรองการสอนชั่วคราวให้ได้ไม่ว่ากรณีใดๆ ส่วนผู้ที่เรียนจบสาขาอื่นมาและต้องการจะมาเป็นครูนั้น ไม่ได้กำหนดให้มาสอบ แต่จะมีกระบวนการที่ดำเนินการกันอยู่ โดยกำหนดให้เรียนปริญญาโทสาขาการศึกษาแล้วมาขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
“การพัฒนาวิชาชีพครูควรจะต้องทำเพื่อให้วิชาชีพครูได้รับการดูแลและพัฒนาคุณภาพอย่างจริงจัง และให้สังคมเชื่อมั่นว่าเป็นวิชาชีพที่ได้รับการตรวจสอบประเมินมากขึ้น และสุดท้ายจะเกิดประโยชน์กับสังคม ฉะนั้นการกำหนดให้มีการทดสอบเพื่อให้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพถือเป็นสิ่งที่ดี ขั้นตอนจากนี้ไปผมจะต้องเป็นผู้ลงนามในร่างประกาศดังกล่าว” นายไพฑูรย์กล่าว
นายสุรวาท ทองบุ กรรมการคุรุสภาและในฐานะประธานสภาคณบดีคณะครุศาสตร์และศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ร่างประกาศคุรุสภาเรื่องการรับรองปริญญาฯ ที่ออกมานั้น จะเป็นการยกระดับวิชาชีพครูเช่นเดียวกับวิชาชีพอื่นๆ เช่น วิชาชีพแพทย์ ที่จะต้องมีการสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ซึ่งสภาคณบดีคณะครุศาสตร์ฯ กังวลเพียงว่าประสิทธิภาพของการสอบจะต้องวัดในเรื่องสมรรถนะการเป็นครูมากกว่าจะวัดความรู้การเป็นครู อย่างไรก็ตาม ในร่างประกาศคุรุสภาดังกล่าวจะมีข้อกำหนดในมาตรฐานด้วยว่า ห้องเรียนหนึ่งของครุศาสตร์และศึกษาศาสตร์จะต้องมีนักศึกษาไม่เกิน 30 คน และอาจารย์ 1 คนจะต้องดูแลนักศึกษาสัดส่วนไม่เกิน 10 คน สิ่งนี้จะเป็นข้อกำหนดในคุณภาพ ไม่ใช่รับนักศึกษามากเกินไป นอกจากนี้ สถาบันการผลิตที่จะขอรับการประเมินเพื่อรับรองปริญญาหรือประกาศนียบัตร จะต้องยื่นขอต่อคุรุสภาก่อนเปิดสอนไม่น้อยกว่า 60 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรรมการคุรุสภาบางส่วนมองว่าผลการประชุมที่ออกมาไม่ได้กำหนดให้นิสิตนักศึกษาครุศาสตร์และศึกษาศาสตร์จะต้องผ่านการทดสอบ แต่จะให้ทดสอบเฉพาะนิสิตนักศึกษาในสถาบันที่ไม่ปฏิบัติตามเกณฑ์การรับรอง แต่เมื่อสอบถามไปยังนายไพฑูรย์อีกครั้ง ยืนยันว่าร่างประกาศคุรุสภาฯ กำหนดให้นิสิตนักศึกษาทุกคนจะต้องผ่านการทดสอบเพื่อรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ซึ่งเรื่องนี้ในที่ประชุมมีความเห็นสองฝ่าย บางฝ่ายไม่เห็นด้วยที่จะกำหนดให้สอบทุกคน.
ที่มาของข่าว : เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 20 ธันวาคม 2556