ก.พ.อ.ทุ่ม6.8หมื่นล. พัฒนา52อุดมฯใหม่ รองรับเปิด"เออีซี"
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
ก.พ.อ.ทุ่ม6.8หมื่นล. พัฒนา52อุดมฯใหม่ รองรับเปิด"เออีซี"
ก.พ.อ.ตั้งงบ 68,000 ล้านบาท พัฒนาสถาบันอุดมศึกษาใหม่ 52 แห่ง เตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน เพราะจำนวนพนักงานมหาวิทยาลัยเพิ่มขึ้น หลังลดอัตราคนภาครัฐในปี 2542 ตั้งคณะอนุกรรมการวิเคราะห์ผล กำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำจัดสรรสวัสดิการให้เป็นธรรมแก่พนักงาน และจะเสนอเป็นมติ ครม.ต่อไป
นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ก.พ.อ.) เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบขอรับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม เพื่อพัฒนาสถาบันอุดมศึกษากลุ่มใหม่จำนวน 52 แห่งให้ได้มาตรฐานการอุดมศึกษา และเตรียมความพร้อมสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ใช้งบประมาณทั้งหมด 68,000 ล้านบาท โดยเป็นงบผูกพัน 5 ปี (พ.ศ.2558-2562) ทั้งนี้ จะต้องรอเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่เพื่อเห็นชอบต่อไป ขณะเดียวกัน ที่ประชุมได้หารือแนวทางโดยกำหนดตัวชี้วัดที่สะท้อนในเรื่องผลงานการพัฒนาชุมชนและท้องถิ่นมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาคุณหญิงสุมณฑา พรหมบุญ ประธานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ได้หารือกับมหาวิทยาลัยกลุ่มใหม่และกำหนดตัวชี้วัดไปแล้ว 5 ด้าน ได้แก่ 1.บุคลากรสายสอน 2.นักศึกษา 3.งานวิชาการ 4.หลักสูตร 5.การพัฒนาท้องถิ่นชุมชน ซึ่งจะพิจารณางบประมาณตามผลงานของอาจารย์
นอกจากนี้ ที่ประชุมมีการพิจารณาเรื่องโครงสร้างอายุในปัจจุบันของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งขณะนี้กำลังคนที่เป็นพนักงานมหาวิทยาลัยในสถาบันอุดมศึกษามีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยมีข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาจำนวน 32,547 คน และพนักงานมหาวิทยาลัยจำนวน 80,056 คน จากมหาวิทยาลัยทั้งหมด 61 แห่ง ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการที่คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังพลภาครัฐ (คปร.) มีมติลดอัตรากำลังคนภาครัฐ เมื่อ พ.ศ.2542 และที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยต่างก็พยายามจะดูแลสวัสดิการและสวัสดิภาพในด้านต่างๆ ของพนักงาน ซึ่งบางแห่งก็สามารถดูได้อย่างสมบูรณ์ บางแห่งก็ไม่สมบูรณ์ ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบให้คณะอนุกรรมการบริหารบุคคลของ ก.พ.อ. ไปวิเคราะห์ผลจากการที่ลดจำนวนข้าราชการ มหาวิทยาลัยมีความก้าวหน้าตามเจตนารมณ์หรือไม่ รวมทั้งดูระบบการบริหารงานบุคลากร ทั้งเรื่องสวัสดิการต่างๆ ทั้งเงินเดือน การรักษาพยาบาล รวมถึงเรื่องอุทธรณ์ร้องทุกข์ เพื่อจะได้นำมากำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำในการดูแลพนักงานมหาวิทยาลัยเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและเหมาะสม
“หลังจากที่เกณฑ์ขั้นต่ำในการดูแลพนักงานมหาวิทยาลัยแล้ว ก็จะส่งเป็นข้อมูลให้มหาวิทยาต่างๆ ใช้ในการตัดสินใจ และหากมหาวิทยาลัยเห็นด้วย ก็อาจจะเสนอเป็นมติ ครม.เพื่อให้มีผลในทางปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ หากมีข้อเสนอดังกล่าวแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะยกเลิกการผลักดันร่าง พ.ร.บ.บริหารงานบุคคล สถาบันอุดมศึกษา พ.ศ... แต่ร่างดังกล่าวต้องใช้เวลานาน ดังนั้นระหว่างที่รอร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัย ก็สามารถใช้เกณฑ์ต่ำไปพิจารณาจัดสรรสวัสดิการได้ หรืออาจจะนำข้อมูลนี้ไปบรรจุไว้ในร่าง พ.ร.บ.ด้วยก็ได้” นายทศพรกล่าว
ที่มาของข่าว : เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 16 ธันวาคม 2556