มรภ.ร้องผู้บริหารลุอำนาจ มทร.ก็ไม่น้อยหน้าสภามหา'ลัยผู้บริหารฮั้วเอื้อประโยชน์กัน
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
มรภ.ร้องผู้บริหารลุอำนาจ มทร.ก็ไม่น้อยหน้าสภามหา'ลัยผู้บริหารฮั้วเอื้อประโยชน์กัน
“ประกอบ” เผย มรภ.เป็นมหาวิทยาลัยที่มีเรื่องร้องเรียนมากสุด โดยเฉพาะกรณีผู้บริหารลุแก่อำนาจ ส่วนกลุ่ม มทร.ไม่น้อยหน้าโดนร้องเรียนกรณีสภามหาวิทยาลัยและผู้บริหารเอื้อประโยชน์กัน งงช่วงหลังระดับอุดมศึกษาแซงได้แชมป์เรื่องร้องเรียนมากสุด รายงานให้ รมว.ศธ.รับทราบแก้ปัญหาแล้ว พร้อมตั้งอนุ กมธ.การศึกษาทำร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษาฉบับ กมธ.ฯ ประกบคู่รัฐบาลเสนอเข้าสภาฯ
นายประกอบ รัตนพันธ์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศึกษา สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงปัญหาความขัดแย้งภายในสถาบันอุดมศึกษาที่เกิดขึ้นหลายแห่งว่า ทาง กมธ.การศึกษาทราบเรื่องดังกล่าวเช่นกัน และที่ผ่านมาก็มีเรื่องร้องเรียนเข้ามามาก ทั้งปัญหาความขัดแย้งระหว่างฝ่ายบริหารกับสภามหาวิทยาลัยจนงานเดินหน้าไม่ได้ ส่วนอีกหลายแห่งไม่มีปัญหาขัดแย้งกัน แต่มีกรณีร่วมกันทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ทุจริต คอรัปชั่น ทำให้ประชาคมร้องเรียนเข้ามา เช่น กรรมการสภาฯ ฝากลูกหลานเข้าทำงานในมหาวิทยาลัย พออธิการบดีร้องขอเรื่องใดก็ต้องทำเป็นการตอบแทน รวมทั้งเรื่องการกลั่นแกล้ง ความไม่ยุติธรรม ปัญหาคุณภาพ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีมหาวิทยาลัยส่งเรื่องร้องเรียนต่อกรรมาธิการฯ รวมแล้วกว่า 20 เรื่อง หรือประมาณ 10 สถาบัน โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏมีการร้องเรียนมากที่สุด ซึ่งตนเข้าใจว่าอาจเพราะปรับตัวให้เป็นสถาบันอุดมศึกษาไม่ทัน ทางผู้บริหารถึงยังคงเหลิงอำนาจ ติดนิสัยสั่งการคนเดียวโดยไม่ฟังเสียงผู้อื่น โดยเฉพาะนักวิชาการในสถาบัน เมื่อเกิดข้อขัดแย้งก็ปลดออก เลิกจ้าง ทั้งที่ความจริงแล้วอุดมศึกษาต้องใจกว้างรับฟังผู้อื่น ส่วนเรื่องร้องเรียนกรณีสภามหาวิทยาลัยกับผู้บริหารเป็นเนื้อเดียวกัน จะทำอะไรต้องเอื้อประโยชน์กัน เกิดขึ้นมากในกลุ่มมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
"เป็นที่น่าแปลกใจมากคือ ขณะนี้ปัญหาอุดมศึกษามีการร้องเรียนมากขึ้น ต่างจากเมื่อก่อนที่ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานจะมีการร้องเรียนมาก แต่ขณะนี้ลดน้อยลง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะการกระจายอำนาจหรือไม่ที่ทำให้มีปัญหาอย่างนี้ หรืออาจเป็นเรื่องผลประโยชน์ส่วนบุคคลมากกว่าสถาบัน การเล่นพรรคเล่นพวก" นายประกอบกล่าว และว่า อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมา กมธ.การศึกษาได้สะท้อนปัญหาเหล่านี้ไปยัง รมว.ศึกษาธิการ เพื่อพิจารณาสั่งการแก้ปัญหาแล้ว ส่วน กมธ.การศึกษาไม่มีอำนาจ เป็นเพียงฝ่ายนิติบัญญัติ แต่เราก็จะคอยนำข้อมูลมาเผยต่อสาธารณะในฐานะของผู้แทนราษฎร เพราะเมื่อเราพูดแล้วเสียงดัง ก็ถือเป็นอำนาจแฝงที่ใช้ในการติดตามตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหารได้
นายประกอบกล่าวต่ออีกว่า ส่วนร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษา พ.ศ..... ที่ กมธ.การศึกษาสนับสนุนมาแก้ปัญหาอุดมศึกษานั้น ขณะนี้ กมธ.การศึกษาเพิ่งได้รับต่างกฎหมายดังกล่าว โดยในเร็วๆ นี้จะประชุมกรรมาธิการฯ ทั้ง 15 คน และคิดว่าจะตั้งคณะอนุกรรมาธิการฯ เพื่อมาทำประชาพิจารณ์ย่อย โดยจะเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อคิดเห็น จากนั้นจะยกร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษาฯ ในนามกรรมาธิการฯ อีกชุด เพื่อประกบกับร่างของรัฐบาลให้มีน้ำหนักมากขึ้น เป็นการยืนยันว่าเป็นกฎหมายสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อการศึกษา และถึงวันนั้นเนื้อหาอาจจะเหมือนหรือเพิ่มเติมบางประการก็ได้.
ที่มาของข่าว : เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 5 สิงหาคม 2556