“บัญชีรายจ่ายเพื่อการศึกษาแห่งชาติ”ระบบที่ต้องเร่งพัฒนา
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
บอร์ดสสค.ผ่านร่างพ.ร.บ.กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมคุณภาพการเรียนรู้ พร้อมผลักดันการพัฒนาระบบบัญชีรายจ่ายเพื่อการศึกษาแห่งชาติ เผยรายจ่ายเพื่อการศึกษาของไทยสูงถึง 25% ของงบประมาณ แต่ถูกใช้เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กแค่น้อยนิด
วันนี้(2ส.ค.)ที่ทำเนียบรัฐบาล ได้มีการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน(สสค.) โดยมีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานสสค.เป็นประธาน พร้อมด้วยนายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ เป็นรองประธาน ซึ่งดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร รองประธานสสค.คนที่ 2 เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบกับร่างพ.ร.บ.กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมคุณภาพการเรียนรู้ รวมทั้งมีการนำเสนอผลการวิจัยเพื่อพัฒนาระบบบัญชีรายจ่ายเพื่อการศึกษาแห่งชาติ โดยดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้เชี่ยวชาญนโยบายด้านเศรษฐศาสตร์การศึกษาของสสค.
ดร.ไกรยส กล่าวว่า 10 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2546-2555 งบประมาณรายจ่ายทางการศึกษาเพิ่มขึ้นถึง 90% คิดเป็น 25% ของงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั่วโลกที่จะอยู่ที่ 20% และเมื่อจำแนกรายจ่ายด้านการศึกษาขั้นพื้นฐานจะพบว่า มีรายจ่ายเฉลี่ยคนละ 35,142 บาท หากคิดเป็น 100 บาทต่อคนต่อวันจะเป็นรายจ่ายประจำประเภทเงินเดือนครูถึง 60 บาท ค่าเครื่องแบบ ตำรา อาหารและนม 10 บาท ค่าบริหารจัดการส่วนกลางและเขตพื้นที่การศึกษา 9 บาท ขณะที่มีงบประมาณสำหรับกิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนเพียง 2 บาทเท่านั้น
“ ระบบบัญชีรายจ่ายเพื่อการศึกษาแห่งชาติจะมีความสำคัญต่อการสร้างระบบตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานของหน่วยบริการ ซึ่งจะช่วยให้การผลิตบริการทางการศึกษาได้คุณภาพ เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยชี้สภาพความขาดแคลนของการจัดการศึกษา รวมถึงการจัดสรรงบประมาณตามสภาพความแตกต่างทางสภาพเศรษฐกิจ สังคม ขนาดของสถานศึกษา และยังเป็นระบบที่องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก สนับสนุนให้ทุกประเทศพัฒนาระบบบัญชีรายจ่ายเพื่อการศึกษาแห่งชาติขึ้นมาด้วย” ดร.ไกรยส กล่าว
ที่มาของข่าว : เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 2 สิงหาคม 2556