ปักธงปี 58 ผล PISA เด็กไทยทะยาน
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
ปักธงปี 58 ผล PISA เด็กไทยทะยาน
สพฐ.ใช้ "ยาแรง" คะแนนดีมีผลเลื่อนวิทยะฐานะครู-ผอ.
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยถึงนโยบายขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาไทย โดยตั้งเป้ายกระดับผลสัมฤทธิ์การสอบประเมินผลนักเรียนนานาชาติ หรือปีซ่า (PISA) ของไทยให้อยู่อันดับที่สูงขึ้น ภายในปี 2558 นั้น ถือเป็นเรื่องใหญ่และต้องขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกันทั่วทั้งประเทศ เพราะที่ผ่านมาหลายหน่วยงานมีการดำเนินการต่างๆ เพื่อให้อันดับของไทยดีขึ้น แต่เป็นลักษณะต่างคนต่างทำ จึงจำเป็นต้องมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาขับเคลื่อนเรื่องนี้โดยเฉพาะ
ซึ่งคณะทำงานชุดนี้ จะมาจาก 5 องค์กรหลักต้นสังกัดของสถานศึกษาโดยตรง คือ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สสวท.) และต้องดึงผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษา ด้านการสอน นักการศึกษามาร่วมเป็นคณะทำงานด้วย
อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายให้ สพฐ.เป็นแม่งานไปยกร่างแผนการทำงาน รวมถึงการตั้งคณะทำงาน และได้ฝากให้สภาการศึกษา (สกศ.) เข้าไปช่วย สพฐ.จัดทำแผนขับเคลื่อนด้วย
"ต้องมีการรณรงค์ในวงกว้าง ทั้งโรงเรียน ครู นักเรียน และผู้ปกครอง เพราะการสอบ PISA นั้นไม่มีผลต่อการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ก็อาจไม่ได้รับความร่วมมือ จึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจ เพื่อให้ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย อย่างไรก็ดี จะรอการประกาศผล PISA ล่าสุดช่วงปลายปีก่อนเพื่อดูว่าไทยอยู่ในอันดับใด จากนั้นจะตั้งเป้าหมายได้ว่าต้องการขับเคลื่อนให้ไทยเลื่อนขึ้นมาอยู่ในอันดับที่เท่าไหร่"นายจาตุรนต์ กล่าว
ด้านนายกมล รอดคล้าย รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า สพฐ.ได้เตรียมดำเนินการยกผลสัมฤทธิ์ PISAของปี 2558 ใน 3 แนวทาง โดยมอบให้ สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) และสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ไปร่างแนวพัฒนาผล PISA ทั้งการวิเคราะห์ข้อสอบ และจุดอ่อนของเด็กไทย จากนั้นก็ถึงขั้นตอนการพัฒนา ตั้งแต่ครูให้รู้จักสอนเด็กให้คิดวิเคราะห์เป็น พัฒนาสื่อการเรียนการสอน และพัฒนาเด็กให้ฝึกทำข้อสอบ PISAเริ่มจากง่ายไปหายาก
และสุดท้าย คือมาตรการการบังคับโรงเรียน และเขตพื้นที่ฯ ให้สนใจการสอบ PISA ด้วยการเชื่อมโยงผลสัมฤทธิ์ กับการก้าวหน้าทางอาชีพของครู และ ผอ.โรงเรียน ซึ่งกำหนดในกฎของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เช่น หากผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนที่รับผิดชอบสูงขึ้น ครู และผอ.โรงเรียน อาจได้รับพิจารณาการเลื่อนระดับราชการ เช่นเดียวกับการใช้ผล O-NET มาประเมินเลื่อนวิทยฐานะ
"เราไม่ได้ยกเลิกผลงานเชิงประจักษ์ (ว 5) แต่จะเป็นเกณฑ์การให้น้ำหนัก หากโรงเรียนใดที่ครู และผู้บริหาร สามารถทำให้เด็กมีคะแนนสอบสูง ก็ได้ผลประโยชน์ไปเลย ทั้งนี้ ในวันที่ 31 ก.ค.56 นี้ จะประชุมคณะกรรมการยกร่างขับเคลื่อนการยกผลสัมฤทธิ์ PISA ซึ่งจะมีการหารือถึงร่างแนวพัฒนาฯ พร้อมกำหนดแนวทางขับเคลื่อนที่ชัดเจนต่อไป"นายกมล กล่าว
ที่มาของข่าว : เว็บไซต์หนังสือพิมพ์สยามรัฐ วันที่ 25 กรกฎาคม 2556