"ปลัดพนิตา"แจงคำสั่งย้ายฟ้าผ่า ชี้ ขรก.งานบกพร่อง-ไม่ห่วงฟ้อง ก.พ.ค.
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
"ปลัดพนิตา"แจงคำสั่งย้ายฟ้าผ่า ชี้ ขรก.งานบกพร่อง-ไม่ห่วงฟ้อง ก.พ.ค.
วันที่ 26 มิ.ย.56 นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงกรณีคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 7-9 ในสำนักงานปลัดฯ ส่งผลให้ข้าราชการระดับ 9 เกิดความคับข้องใจลาออกจาก ราชการว่า มีคนขอให้ดำเนินการโยกย้าย ตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา แต่ตนต้องการให้ข้าราชการได้ทำงานไปก่อน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ก่อนที่ตนจะเดินทางไปราชการต่างประเทศ ได้ขอให้สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์(สนย.) สำนักงานปลัด ศธ.ส่งเอกสารเพื่อชี้แจงเรื่องงบฯ ปี 2557 เพราะต้องมีการเตรียมตัวก่อนที่จะเข้าชี้แจงในวันที่ 19 มิ.ย. จนกระทั่งในวันที่ 9 มิ.ย. ก่อนจะขึ้นเครื่องตนได้รับเอกสาร 10 หน้า ซึ่งก็รู้สึกสงสัยว่างบฯ 50,000 กว่าล้านบาท แต่เหตุใดมีเอกสารชี้แจงแค่ 10 หน้า เพราะในสมัยที่ตนเป็น ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ต้องชี้แจงงบฯ 13,000 ล้านบาท นั้นมีเอกสารที่มากกว่านี้ และได้เอกสารเพื่อให้เตรียมตัวชี้แจงล่วงหน้า 1 เดือนก่อนด้วย
"เจ้าหน้าที่ของ สนย.ทำงานมากว่า 30 ปี แต่ทำงานให้ดิชั้นได้แค่นี้ ดังนั้นก็จะขอไม่ใช้งานคนกลุ่มนี้อีก 3 เดือนแต่หากหลังจากนี้มีปลัด ศธ.คนใหม่เข้ามา และคิดว่าคนเหล่านี้มีประสบการณ์มาก และอยากให้กลับมาทำงานให้อีก ก็เป็นเรื่องของปลัด ศธ.คนใหม่"
นางพนิตา กล่าวและว่า นอกจากสาเหตุเรื่องประสิทธิภาพในการทำงานแล้ว ยังเห็นว่าแต่ละคนอยู่ในตำแหน่งเดิมมานานและได้ยินมาว่าคนใน สนย.เป็นเจ้าพ่อเจ้าแม่กันเยอะ เพราะเป็นหน่วยงานที่จัดสรรงบฯ ให้แก่สำนักอื่นๆ ส่วนการโยกย้ายในสำนักอื่นๆ นั้น ส่วนใหญ่จะอยู่ในตำแหน่งเดิมค่อนข้างนาน จึงอยากให้มีการเปลี่ยนที่ทำงานเพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์
ปลัด ศธ.กล่าวต่อไปว่า การโยกย้ายทุกตำแหน่งถือว่าเป็นประโยชน์แก่ทุกคน เพราะการทำงานเพียงที่เดียวประสบการณ์จะน้อย ส่วนกรณีนายเบญจรงค์ ศรีเนตร ซึ่งย้ายไปดำรงตำแหน่ง ผอ.สำนักประสานงานและบูรณาการการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และระบุว่าเป็นคนหน้าใหม่ และไม่รู้จักใครในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ขอชี้แจงว่าตนก็เป็นคนหน้าใหม่ ไม่รู้จักใครและที่ผ่านมาก็ลงพื้นที่ตลอด ก็ไม่เห็นมีเหตุการณ์อะไรที่น่ากลัว อีกทั้ง ผอ.สำนักประสานฯ คนเก่าที่เคยลงพื้นที่กับตน ก็ได้เลื่อนขึ้นเป็นข้าราชการระดับ 9 แล้ว ซึ่งตนมองว่าหากใครได้ย้ายมาอยู่ตำแหน่งนี้ก็น่าจะก้าวหน้าได้เช่นเดียวกับ ผอ.สำนักประสานฯ คนเก่า อีกทั้งคนที่ทำงานในพื้นที่เสี่ยงก็จะเป็นทางลัดให้ก้าวหน้าได้เร็วด้วย
"อย่าคิดว่าการย้ายมาอยู่สำนักประสานงานฯ แล้วจะลำบาก หรือมีความเสี่ยง เพราะไม่ได้ให้ไปอยู่ประจำในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอด จะลงพื้นที่เพียงแค่เดือนละ 1-2 ครั้งเท่านั้น ส่วนกรณีที่ข้าราชการบางคนระบุว่ามีครอบครัวและมีลูกเล็ก แต่ต้องย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดนั้น ในครั้งนี้ได้มีการย้ายไปชลบุรี 2 คน และปทุมธานี 1 คน และเมื่อครั้งที่ดิชั้นมีลูกเล็กก็ต้องย้ายไปทำงานที่สมุทรสงคราม อีกทั้งดิชั้นไม่เคยนำเรื่องครอบครัวมาเป็นเงื่อนไข หรือขัดขวางกับงาน เพราะเราจะต้องบริหารจัดการตนเองให้ได้ว่าจะทำอย่างไรให้ครอบครัวอบอุ่น ซึ่งเป็นข้าราชการจะให้ย้ายไปที่ไหนก็ต้องไป และตนก็ไม่เคยคัดค้านคำสั่งนายเวลาที่มีการโยกย้าย"
ปลัด ศธ.กล่าวอีกว่า กรณีที่ข้าราชการบางคนจะไปฟ้องต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.)ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมนั้น ก็ยินดีให้ไปฟ้องและเตรียมเอกสารชี้แจงไว้แล้ว อีกทั้งก่อนจะย้ายก็ได้มีการไตร่ตรองดีแล้วด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก --> เว็บไซต์หนังสือพิมพ์สยามรัฐ วันที่ 27 มิถุนายน 2556