สพฐ. วางมาตรการเข้มสอบครูผู้ช่วยรอบใหม่
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
สพฐ.วางมาตรการเข้มสอบครูผู้ช่วยรอบใหม่ "ชินภัทร" เผยได้รับรายงานพบในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี มีการจัดติวข้อสอบ จี้เขตพื้นที่ฯ รีบตรวจสอบข้อเท็จจริง
วันนี้(13มิ.ย.) ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) เปิดเผยความคืบหน้าการสอบแข่งขันเพื่อคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการในตำแหน่งครูผู้ช่วยกรณีทั่วไป ประจำปี 2556 ใน 79 เขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งมีผู้สมัครกว่า 84,000 คนว่า การสอบจะจัดระหว่างวันที่ 22-24 มิถุนายน ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ได้มีการประชุมคณะกรรมการติดตามสถานการณ์การสอบแข่งขันครูผู้ช่วยทั้ง 79 คณะเพื่อซักซ้อมแนวปฏิบัติต่างๆ ตั้งแต่การประสานงานกับสถาบันอุดมศึกษาว่ามีความชัดเจนในการออกข้อสอบหรือไม่ การรักษาความปลอดภัยของข้อสอบ การวางมาตรการป้องกันการทุจริตและความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น การจัดเตรียมสถานที่สอบ การวางมาตรการความปลอดภัยของสนามสอบ รวมทั้งการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการรักษาความปลอดภัย การประชาสัมพันธ์การสอบให้ผู้เข้าสอบรับทราบถึงกฎกติกาในการสอบ หรือการจัดเตรียมห้องมั่นคงสำหรับเก็บกระดาษคำตอบ เป็นต้น
ดร.ชินภัทร กล่าวต่อไปว่า สำหรับสถานการณ์ในขณะนี้ยังไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ก็ต้องอาศัยทุกฝ่ายช่วยให้ข้อมูลเบาะแสต่างๆ ซึ่งเท่าที่ได้รับรายงานมามีข้อมูลว่าที่จังหวัดอุดรธานีมีการจัดติว จึงได้มอบให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 20 ไปตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว ส่วนกรณีที่นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ให้ข้อมูลว่าการทุจริตรูปแบบใหม่อาจจะมีการใช้วิธีเปลี่ยนกระดาษคำตอบของผู้สอบนั้น ตนได้แจ้งสำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ สพฐ.ทำหนังสือแจ้งข้อควรปฏิบัติไปแล้วว่ากระดาษคำตอบต้องมีลายเซ็นของกรรมการคุมสอบ รวมทั้งจะให้ผู้เข้าสอบเซ็นชื่อไว้ด้วย ทั้งนี้ในการประชุมทางไกลกับเขตพื้นที่การศึกษา วันที่ 19 มิ.ย.นี้ ตนจะเน้นย้ำเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง
เลขาธิการกพฐ. กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีปัญหาทุจริตสอบครูผู้ช่วยที่ผ่านมา ซึ่งสพฐ.ได้เคยแจ้งให้เขตพื้นที่การศึกษาชะลอการสรรหาครูอัตราจ้าง หรือลูกจ้างชั่วคราวจากเงินงบประมาณหรือเงินรายได้ของสถานศึกษา เพื่อทดแทนผู้สอบผ่านการคัดเลือกและได้รับการแต่งตั้งเป็นครูผู้ช่วยไว้ก่อนนั้น ขณะนี้สพฐ.ได้ทำหนังสือแจ้งยกเลิกเรื่องดังกล่าวแล้ว เฉพาะในเขตพื้นที่ฯที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วไม่พบการทุจริต และไม่อยู่ในรายชื่อ 509 ราย ของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของศธ.รวมทั้งไม่อยู่ในรายชื่อ 344 รายที่คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.)ได้แจ้งไว้ด้วย ซึ่งการสั่งยกเลิกการชะลอดังกล่าว ได้รับอนุญาตจากนายเสริมศักดิ์แล้วและสพฐ.ก็เห็นว่าสถานศึกษามีความจำเป็นต้องมีครูเพื่อจัดการเรียนการสอนในภาคเรียนใหม่
ขอบคุณข้อมูลจาก --> เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 13 มิถุนายน 2556