พงศ์เทพ โยน เสริมศักดิ์ แจงจัดซื้อรถตู้
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
พงศ์เทพ โยน เสริมศักดิ์ แจงจัดซื้อรถตู้ เผยส่วนใหญ่จัดซื้อให้เขตพื้นที่การศึกษาใช้งาน ในขณะที่จัดซื้อเพื่อรับส่งนักเรียนแค่จำนวนเล็กน้อย
วันนี้(2มิ.ย.)นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า จากการตรวจเยี่ยมและจัดเวทีประชาคม เพื่อรับฟังความเห็นนำไปพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอนโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่โรงเรียนผาขวาง สาขาแคววัวดำ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย และโรงเรียนบ้านปางแดง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 1-2 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น เป็นการเดินทางไปเพื่อดูโรงเรียนที่ห่างไกลจากโรงเรียนแม่และโรงเรียนใกล้เคียง จนไม่สามารถบริหารจัดการด้วยวิธีการเคลื่อนย้ายนักเรียนได้ อาทิ โรงเรียนผาขวางที่จัดการศึกษาตั้งแต่ระดับประถมศึกษาชั้นปีที่ 1-6 มีครู 3 คน แต่ละคนต้องสอน 2 ชั้นเรียน ส่วนนักเรียนมีจำนวน 39 คน ซึ่งถือว่าไม่น้อยจนเกินไปเหมือนบางโรงที่มีนักเรียนแค่ห้องเรียนละ 1-2 คน
นายพงศ์เทพ กล่าวต่อไปว่า จากการรับฟังความคิดเห็นประชาคม พบแนวทางที่จะพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียนกลุ่มที่เคลื่อนย้ายไม่ได้ ในหลายแนวทาง เช่น การใช้ระบบการศึกษาทางไกล ไม่ว่าจะเป็นถานีโทรทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียมวังไกลกังวล สถานีโทรทัศน์ OBEC Channel เป็นต้น แต่ที่ผ่านมาอาจมีปัญหาเรื่องการถ่ายทอดสัญญาณอยู่บ้าง ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องแก้ไขต่อไป นอกจากนี้ยังมีแนวทางการให้โรงเรียนแม่ช่วยส่งครูที่สอนตรงสาขามาช่วยสอนให้โรงเรียนลูกที่มีครูไม่ครบชั้น หรือการให้ชุมชนมาช่วยสอนความเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อที่ว่าเมื่อเรียนจบเด็กจะสามารถไปประกอบอาชีพได้
“กรอบการพิจารณาบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก จะต้องดูไปเป็นรายโรง อย่างบางโรงที่อยู่ห่างไกลจนไม่สามารถเคลื่อนย้ายนักเรียนได้ก็ต้องพัฒนาตามแนวทางข้างต้น ส่วนโรงเรียนอื่นๆที่อาจมีทางเลือก ก็อาจใช้วิธีจัดการศึกษาร่วมกัน ซึ่งที่ผ่านมาก็มีโรงเรียนขนาดเล็กเริ่มทำกันแล้ว แต่ทั้งนี้ก็ต้องพิจารณาจากระยะทาง และความเห็นของประชาคมว่าเห็นด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ สพฐ.ยังไม่ได้เสนอรายงานข้อมูลแผนบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กทั่วประเทศมาที่ผมเลย”นายพงศ์เทพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าการจัดซื้อรถตู้ 1,000 คัน ของ ศธ.มีสเปกและรายละเอียดอย่างไร เนื่องจากมีการวิพากษ์วิจารณ์กันมาก โดยเฉพาะการโจมตีว่าอาจมีการทุจริตในการจัดซื้อ นายพงศ์เทพ กล่าวว่า เรื่องรายละเอียดทั้งสเปกและการจัดซื้อนั้น ต้องถามนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ เพราะเป็นผู้ดูแลโดยตรง ซึ่งจะมีการเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดในวันที่ 3 มิ.ย.นี้ ขณะที่ตนทราบคร่าวๆว่า การจัดซื้อรถตู้รับส่งนักเรียนนั้น ส่วนใหญ่เป็นการจัดซื้อให้เขตพื้นที่ฯเพื่อใช้งาน ซึ่งเป็นไปตามความต้องการ ขณะที่การจัดซื้อรถตู้เพื่อเคลื่อนย้ายนักเรียนไปเรียนรวมนั้น เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ส่วนกรณีรถรับส่งนักเรียนจะติดก๊าซเอ็นจีวีนั้น หากพื้นที่ใดมีปั๊มเอ็นจีวีก็จะพิจารณาให้รถรับส่งนั้นติดตั้งถังก๊าซ แต่หากพื้นที่ใดไม่มี ก็ให้ใช้น้ำมันเชื่อเพลิง อย่างไรก็ดี สำหรับข้อห่วงใยเรื่องอุบัติเหตุของรถรับส่งนักเรียนนั้น ที่ผ่านมาก็มีการเสนอเรื่องนี้มาที่ตน ซึ่งก็รวบรวมข้อเสนอต่างๆอยู่
ด้านนายสุรเจต ปาลี ผอ.โรงเรียนผาขวางวิทยา สาขาแคววัวดำ กล่าวว่า โรงเรียนเน้นการจัดการศึกษาที่เป็นการฝึกอาชีพมากกว่า โดยเปิดให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการปลูกฝั่งภูมิปัญญาท้องถิ่น เด็กจะได้ไม่ลืมรากเหง้าของตัวเอง รวมถึงเน้นการอ่านออกเขียนได้ แต่โรงเรียนยังไม่เน้นผลสัมฤทธิ์การเรียนของนักเรียนว่าจะต้องเทียบเท่าระดับชาติ เพราะอยากเน้นให้เด็กรู้จักใช้ชีวิตกับสังคม ไม่ต้องไปดิ้นรนใช้ชีวิตในเมือง อย่างไรก็ดี กรณีจะยุบโรงเรียนของตนหรือไม่นั้น มองว่าคงยุบไม่ได้ เพราะเป็นโรงเรียนห่างไกล และเด็กส่วนใหญ่ครอบครัวมีฐานะยากจนมาก จึงไม่พร้อมที่จะเคลื่อนย้ายไปเรียนที่อื่น
ขณะที่ นายสุริยน สุริโยดร ผอ.โรงเรียนบ้านป่าสักงาม กล่าวว่า ปัจจุบันโรงเรียนมีข้าราชการครู 2 คน มีลูกจ้างประจำ 1 คน เจ้าหน้าที่ธุรการ 1 คน ซึ่งเป็นการสนับสนุนจากเทศบาลตำบลวงเหนือ ขณะที่โรงเรียนจัดการศึกษาตั้งแต่ชั้น ป.1-6 มีนักเรียนทั้งหมด 9 คน จัดการเรียนการสอนแบบคละชั้นแบ่งตามช่วงชั้นมี 2 ห้องเรียน แต่โรงเรียนนี้จะยุบไม่ได้ เพราะตั้งอยู่บนภูเขาเป็นพื้นที่ห่างไกล ที่มีระยะห่างจากโรงเรียนอื่นที่ใกล้ที่สุดก็ยังไกลถึง 12 กิโลเมตร ซึ่งต้องเดินทางทั้งทางเรือและน้ำที่ต้องใช้เวลาและมีความเสี่ยง
“ถึงแม้จะเป็นโรงเรียนขนาดเล็กและอยู่ห่างไกล แต่ก็มีผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต ประจำปี 2555 ของนักเรียนชั้นป.6 เกือบทุกวิชาสูงกว่าระดับจังหวัด และประเทศ เช่น วิชาคณิตศาสตร์ ร้อยละ 40.00 ภาษาไทย 60.00 วิทยาศาสตร์ 44.50 สุขศึกษา 72.00 สังคมศึกษา 52.00 เป็นต้น ซึ่งเป็นเพราะชุมชนเข้มแข็ง และมีปราชญ์ชาวบ้านมาช่วยจัดการศึกษาและสนับสนุนโรงเรียนในด้านต่างๆ อย่างไรก็ดี ผมมองว่าโรงเรียนขนาดเล็กก็มีจุดแข็งของตัวเอง ในความที่มีเด็กน้อยทำให้ไม่ฉุดค่าเฉลี่ย ซึ่งตรงนี้หากโรงเรียนและชุมชนเข้มแข็ง นักเรียนก็จะเข้มแข็งด้วย ดังนั้นการจะบอกว่าโรงเรียนขนาดเล็กฉุดค่าเฉลี่ยของ สพฐ. คงไม่ใช่ความจริงทั้งหมด”นายสุริยน กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก --> เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 2 มิถุนายน 2556