กล้าปฏิวัติไหม?
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
เรื่องการศึกษาอีกครั้ง เนื่องจากปรากฏข่าวในสื่อมวลชนว่า รมต.ศึกษาจะยุบหรือควบรวมโรงเรียนเล็กๆ ในชนบทเพื่อพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ปรากฏว่ามีหลายฝ่ายออกมาแสดงความคิดเห็นคัดค้าน เพราะข้อเสนอของรัฐมนตรีก็ไม่ชัดเจน ทำให้ผู้ที่คัดค้านเองก็พูดออกมาโดยขาดความเข้าใจ ได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาทางด้านการศึกษาของไทยมาหลายสิบปีแล้ว จนกระทั่งได้เสนอเปลี่ยนแปลงแนวทางการศึกษาไทยในระดับล่าง หรือภาคบังคับโดยใช้คำว่าพัฒนาการศึกษาของประเทศ ทั้งๆ ที่เป็นภารกิจสำคัญในการพัฒนาประเทศ ไม่ว่าปัจจุบันและอนาคต
เด็กไทยในวันนี้ คือทรัพยากรมนุษย์ที่สำคัญของประเทศ ถ้าไม่เก่งประเทศไทยก็จะล้าหลัง เราต้องวางแผนการศึกษาให้เป็นระบบตั้งแต่ 5 ปี 10 ปี และ 15 ปี ต้องมีแผนปฏิบัติการที่ชัดเจนตั้งแต่ I.Q. ของเด็ก ซึ่งล้าหลังกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ให้ขึ้นมาอยู่ในระดับมาตรฐานภายในกี่ปี ต้องวางระบบไว้ชัดเจนว่าใน 15 ปี เราต้องมีหมอ วิศวะ รวมทั้งอาชีพสำคัญจำนวนเท่าใด
ตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองมา 80 กว่าปี กล้าพูดว่านักการเมืองไทยไม่ต้องการให้ประชาชนฉลาด จึงไม่ทุ่มเทและกระตือรือร้นที่จะพัฒนาการศึกษาให้ได้มาตรฐานเหนือกว่าประเทศในภูมิภาคเอเชียใต้ การศึกษาไทยตกต่ำมาตลอดจนกระทั่งปัจจุบัน ไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศด้อยพัฒนา ผู้รับผิดชอบก็ไม่สนใจไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลในอดีตที่ผ่านมาและรัฐบาลปัจจุบัน!
อดีตนายกฯ ทักษิณ ให้ความสนใจด้วยการมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการเอง แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในสมัยทักษิณเป็นนายกฯ ใช้ รมต.ว่าการถึง 6 คน ในสังคมไทยมีผู้แสดงความคิดเห็นในทางการศึกษามากมาย แต่ผู้มีอำนาจไม่สนใจที่จะพัฒนาการศึกษาของเด็กไทย ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกระทรวงศึกษาฯ เอง ซ้ำร้ายยังมีแต่ข่าวในเรื่องการคอรัปชั่น และการวิ่งเต้นเพื่อหาประโยชน์ในการโยกย้ายตำแหน่งประจำปีทุกครั้ง ไม่น่าเชื่อว่าคนในกระทรวงศึกษาและนักการเมืองไม่เข้าใจว่าความเสมอภาคทางการศึกษาคืออะไร
เนื่องจากสอนหนังสือและทำหน้าที่เกี่ยวกับการปกครองท้องถิ่นมานาน จึงได้มีโอกาสได้พบเห็นโรงเรียนสำหรับเด็กในชนบทมากมาย ทั้งในระดับดีและแย่ ซึ่งขึ้นอยู่กับความเจริญของท้องถิ่นเป็นสำคัญ แต่ในความเป็นจริงก็คือการขาดความสนใจของผู้มีหน้าที่รับผิดชอบทางการศึกษาของไทย เด็กไทยจึงขาดทั้งความรู้ที่ควรจะมีเหมือนกับเด็กที่อยู่ในโรงเรียนดีๆ ของเมืองกรุง ยิ่งไปกว่านั้น โภชนาการของเด็กในท้องถิ่นก็ขาดการเหลียวแล ประชาชนก็ขาดการมีส่วนร่วมในทางการศึกษา
ขอบคุณข้อมูลจาก : เว็บไซต์หนังสือพิมพ์บ้านเมือง วันที่ 26 พฤษภาคม 2556