KRUWANDEE

ชี้ข้อมูลบิดเบือนกรณียุบโรงเรียนเล็ก สมศ.มีของจริงแต่ที่ผ่านมาไม่มีหน่วยงานใดหยิบไปใช้ แนะ ศธ.ปล่อย รร.บริหารจัดการดี กว่า 8,000 แห่ง เป็นนิติบุคคล 
 

     นายชัยณรงค์ อินทรมีทรัพย์ อดีตคณะกรรมการบริหารสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) เปิดเผยถึงปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กว่า นโยบายการประกาศยุบโรงเรียนขนาดเล็ก 17,000 แห่ง เป็นนโยบายที่ผิดพลาด ไม่ใช่แนวทางการจัดการศึกษาที่ถูกต้อง ทั้งนี้คุณภาพการศึกษาไม่ได้ขึ้นกับจำนวนนักเรียน ก่อนที่นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ จะประกาศยุบหรือควบรวมโรงเรียน ต้องใช้การบริหารจัดการเข้ามาแก้ไขก่อน อาทิ รถโรงเรียน ครูเดินสอน และสร้างความเข้าใจกับชุมชน หากชุมชนไม่เห็นด้วยก็ควรปล่อยโรงเรียนเล็กนั้นไว้ก่อน จนกว่าชุมชนจะเห็นด้วยแล้วจึงค่อยนำไปสู่การยุบหรือควบรวมโรงเรียน 
 

     "การที่นายพงศ์เทพ สั่งให้ตั้งคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพโรงเรียนขนาดเล็ก และกลุ่มการศึกษาทางเลือก ทั้งให้เขตพื้นที่ฯ ทำการสำรวจจำนวนโรงเรียนขนาดเล็ก และเสนอความจำเป็นในการยุบหรือควบรวมโรงเรียนขนาดเล็กนั้น เป็นการบิดเบือนข้อมูลให้ รมว.ศึกษาธิการ เพราะข้อมูลเหล่านี้ สมศ.มีแล้วทั้งหมด รวมทั้งข้อมูลคะแนนสอบของเด็กจากสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ทั้งที่ผ่านมา รมว.ศึกษาธิการ หลายคน จะดำเนินการด้านคุณภาพการศึกษา ก็ถูกข้าราชการประจำทดแทนด้วยโครงการอื่น เช่น โรงเรียนในฝัน, 1 โรงเรียน 1 ตำบล นโยบายแจกแท็บเล็ต เป็นต้น ซึ่งเป็นนโยบายที่ไม่ได้เน้นถึงการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ที่สำคัญกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ไม่เคยบอกความจริงกับสังคม หรือ รมว.ศึกษาธิการ ว่า คุณภาพการศึกษาไม่ได้ขึ้นกับจำนวนนักเรียนในโรงเรียนเท่านั้น"นายชัยณรงค์ กล่าว
 

     สำหรับข้อเสนอในการยกระดับคุณภาพการศึกษานั้น นายชัยณรงค์ กล่าวว่า ศธ. ต้องสร้างความโปร่งใสเกี่ยวกับการบริหารจัดการของ ศธ. โดยเฉพาะคุณภาพการศึกษาไม่ได้ขึ้นกับจำนวนนักเรียน แต่ยังมีการบริหารจัดการอื่นๆ อีก เช่น ครู อุปกรณ์ หลักสูตร,  ศธ.ควรปลดปล่อยโรงเรียนที่มีการบริหารจัดการดี ให้เป็นนิติบุคคล ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 8,000 โรง ให้มีการบริหารงานที่เป็นอิสระ เพื่อที่ผู้บริหารในเขตพื้นที่ฯ จะได้มีเวลาไปพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กอื่นๆ ในพื้นที่ รวมทั้งควรมีการปรับโครงสร้าง สพฐ.ทั้งส่วนกลาง และเขตพื้นที่ฯ ให้มีจำนวนลดลง เพราะ สพฐ.มีบุคลากรจำนวนมาก 
 

โดยข้อมูลปี 2552 มีจำนวน 504,860 คน แบ่งเป็น
   >>  ผู้อำนวยการ (ผอ.) 30,245 คน,
   >>  รอง ผอ. 9,436 คน,
   >>  ครูหรือครูผู้ช่วย 394,785 คน,
   >>  พนักงานราชการ 28,118 คน,
   >>  ครูอัตราจ้าง 9,641 คน,
   >>  ครูต่างประเทศ 2,190 คน,
   >>  ข้าราชการพลเรือน 300 คน,
   >>  นักการภารโรง 27,228 คน,
   >>  พนักงานขับรถ 1,928 คน,
   >>  ยาม 19 คน,
   >>  คนครัวและคนสวน 980 คน

แสดงให้ว่า สพฐ.เป็นอาณาจักรขนาดใหญ่ ซึ่งส่วนกลางไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง
 

     นายชัยณรงค์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ค่อนข้างมั่นใจว่า ข้อเสนอที่ให้ ศธ.นำข้อมูล สมศ. และ สทศ.มาพิจารณา คงไม่ได้รับการตอบสนอง เพราะที่ผ่านมาจากประสบการณ์ที่ตนเป็นกรรมการบอร์ด สมศ. ศธ.และ สพฐ. ก็ไม่ยอมใช้ข้อมูล จาก สมศ. และไม่ยอมรับด้วยซ้ำ เพราะเป็นข้อมูลที่จับผิด สพฐ. จึงหวังว่า นายพงศ์เทพ จะเรียกข้อมูลการประเมินโรงเรียน จาก สพฐ. ไม่เช่นนั้น นายพงศ์เทพ ก็จะได้รับข้อมูลที่บิดเบือน เหมือนการประกาศยุบโรงเรียนขนาดเล็ก ซึ่งถูกสังคมต่อต้านและวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักอย่างที่ผ่านมา

 

ขอบคุณข้อมูลจาก --> เว็บไซต์หนังสือพิมพ์สยามรัฐ วันที่ 22 พฤษภาคม 2556