พงศ์เทพตั้งคณะกรรมการแก้ปัญหาโรงเรียนเล็ก
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
ผลหารือระหว่างเครือข่ายโรงเรียนเล็กเห็นร่วมให้ตั้งกรรมการร่วมพัฒนาการศึกษาสางปัญหาทั้งโรงเรียนเล็ก โรงเรียนทางเลือกและโฮมสคูล ขณะที่ พงศ์เทพ ย้ำการจะยุบโรงเรียนต้องฟังเสียงประชาคมเป็นหลัก
วันนี้ (15 พ.ค.) ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ชมรมเครือข่ายโรงเรียนขนาดเล็ก สมาคมสภาการศึกษาทางเลือกไทย โรงเรียนทางเลือก พร้อมด้วยตัวแทนโรงเรียนบ้านเรียน (โฮมสคูล) นายมีชัย วีระไวทยะ ผู้อำนวยการโรงเรียนมีชัยพัฒนา และผู้ปกครองจากชุมชนที่มีโรงเรียนขนาดเล็ก ประมาณ 20 คน เดินทางเข้าพบ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ เพื่อหารือเกี่ยวกับนโยบายการยุบโรงเรียนขนาดเล็กของ ศธ.พร้อมมอบรายชื่อผู้คัดค้านการยุบโรงเรียนขนาดเล็ก 18,081 รายชื่อให้ รมว.ศึกษาธิการ
นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ทางเครือข่ายได้นำเสนอตัวอย่างโรงเรียนขนาดเล็กที่จัดการศึกษาได้อย่างมีคุณภาพ โดยอาศัยความร่วมมือจากชุมชน พร้อมทั้งได้สะท้อนปัญหาสำคัญของโรงเรียนขนาดเล็ก คือ ขาดแคลนผู้บริหาร และขาดแคลนครู ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่ฉุดให้โรงเรียนขนาดเล็กบางแห่งไม่สามารถจัดการศึกษาได้ดี นอกจากนั้นยังได้นำเสนอตัวอย่างการจัดการศึกษาทางเลือกที่ทำได้มีคุณภาพ เช่น โรงเรียนรุ่งอรุณ ซึ่งจัดการเรียนการสอนแบบคละชั้น แต่ผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนออกมาดี ขณะเดียวกันเมื่อนำรูปแบบเดียวกันนี้ไปทดลองใช้กับโรงเรียนขนาดเล็กบางแห่งก็พบว่าช่วยเพิ่มผลสัมฤทธิ์ได้ จึงสามารถนำมารูปแบบของโรงเรียนรุ่งอรุณมาเป็นต้นแบบสำหรับโรงเรียนขนาดเล็กแห่งอื่นๆได้ ขณะที่นายมีชัย เสนอให้ดึงภาคธุรกิจ มาทำโครงการกิจกรรมเพื่อสังคม(ซีเอสอาร์) เพื่อพัฒนาโรงเรียน ในขณะที่ตัวแทนโรงเรียนบ้านเรียนเสนอให้ ศธ.สนับสนุนการศึกษาบ้านเรียนให้มากขึ้น
“จากการหารือเห็นพ้องต้องกันว่าให้มีการตั้งกรรมการร่วมขึ้นมาเพื่อดูแลปัญหาและแนวทางการพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็ก โรงเรียนบ้านเรียน ส่วนประเด็นการยุบโรงเรียนขนาดเล็กนั้น ปัจจุบันชุมชนหลายแห่งเข้ามาช่วยโรงเรียนจัดการศึกษาได้ดี โรงเรียนกลุ่มนี้ก็จะไม่ถูกยุบหรือควบรวมอย่างแน่นอน แต่ในบางพื้นที่การควบรวมอาจทำให้การจัดการศึกษามีคุณภาพดีขึ้น ส่วนในบางพื้นที่ที่โรงเรียนอยู่ห่างไกล ไม่สามารถควบรวมกับโรงเรียนแห่งใดได้ก็จะต้องหาทางพัฒนาคุณภาพให้ดีขึ้นให้ได้ ส่วนแผนบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา(สพป.) 182 เขตจะรายงานมาในวันที่ 24 พ.ค.นั้น เป็นเพียงแค่ข้อมูลการสำรวจเบื้องต้นว่า โรงเรียนใดอยู่ในข่ายที่ไม่ควรจะยุบหรือควรจะยุบ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะยุบทันทีต้องนำมาถามความเห็นชุมชนก่อน จึงสรุปว่า ศธ.ยังไม่ได้เดินหน้ายุบหรือควบรวมโรงเรียนขนาดเล็กทุกแห่งโดยทันที เพราะต้องฟังความเห็นจากในพื้นที่ก่อน ถ้าชุมชนอยากให้โรงเรียนอยู่ต่อและชุมชนเข้ามาร่วมจัดการศึกษาก็จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่โรงเรียนที่ประชาคมเห็นด้วยก็จะเดินหน้ายุบหรือควบรวมโรงเรียน “ นายพงศ์เทพ กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก --> เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 15 พฤษภาคม 2556