ข้อสอบข้อ34มัด'คนโกง'สอบครูผู้ช่วย
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
สัปดาห์ก่อนหน้า คนดูยัง ส่ายหน้า กับภาวะ เกี่ยงงาน กัน ระหว่าง คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) และคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษา ที่ถูก ก.ค.ศ.โยนให้เป็นคน เชือด ผู้ทุจริตสอบแทน ทุกฝ่ายอยู่ในภาวะ หดหัว ไม่กล้าผลีผลามเพราะกลัวเดือดร้อน ทุกอย่างถูก ลากยาว ออกไปเรื่อยๆ สาเหตุสำคัญที่ทำให้เป็นเช่นนี้ เพราะขาดคน ประมวล ข้อมูลที่มีอยู่มาเป็นหลักฐาน มัดตัว คนโกงสอบ อ.ก.ค.ศ.จึงไม่มี ดาบ จะไป ฟัน คนผิดได้
แต่สัปดาห์ที่แล้ว กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ แอ่นอก เสนอตัวเป็นผู้ทำหนังสือถึง อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา เพื่อยืนยันว่า มีผู้ทุจริตสอบชัดเจนแล้ว 344 คน พร้อมเสนอให้ อ.ก.ค.ศ.ปลดคนเหล่านี้ออกจากข้าราชการครู หนังสือฉบับนี้พร้อมสำเนาการสอบสอนที่ดีเอสไอส่งไป จะเป็นหลักฐานอ้างอิงสำหรับปลดคนผิดออกได้ แถมดีเอสไอยังทุบโต๊ะด้วยว่า ภายใน 2 สัปดาห์นี้ จะมีการออกหมายจับ ตัวการ เบื้องหลัง
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นโดยฉับพลันนั้น เป็นผลมาจากการวิเคราะห์ข้อมูลของ ดร.ชอบ ลีซอ นักวิชาการน้ำดี อดีตผู้อำนวยการสำนักงานทดสอบทางการศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจาก เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้เป็น ประธานอนุกรรมการฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับผลการสอบคัดเลือกครูผู้ช่วย ผลการวิเคราะห์ดังกล่าวช่วยปะติดปะต่อความเข้าใจได้ "คม ชัด ลึก" จึงนำมาเสนอ
กุญแจสำคัญที่ ดร.ชอบ ใช้ในการมัดตัวคนผิด คือ ข้อสอบข้อที่ 34 ของวิชาความรอบรู้ (S101) เดิมข้อสอบข้อนี้ เฉลยข้อ ก แต่ก่อนพิมพ์ข้อสอบ กรรมการรายหนึ่งเห็นว่า ข้อสอบข้อนี้มีความผิดพลาด จึงเปลี่ยนแปลงคำถามใหม่ ทำให้เฉลยข้อสอบเปลี่ยนจาก ข้อ ก เป็น ข้อ ข แต่เฉลยข้อสอบที่หลุดออกไปนั้น นำออกไปก่อนจะมีการแก้ไขข้อสอบ
เริ่มต้นนั้น ดร.ชอบ ได้นำคะแนนของผู้เข้าสอบทั้ง 17,000 คน มาลงกราฟ เพื่อดูว่า คะแนนสอบมีความผิดปกติหรือไม่ โดยในสถานการณ์ปกติ กราฟของผู้เข้าสอบโดยเฉพาะการสอบเกิน 15,000 คนขึ้นไป จะอยู่ในรูป โค้งปกติ (Normal Curve) แต่กราฟของผู้เข้าสอบครูผู้ช่วยช่วงปลายสุดด้านปลายขวา ซึ่งเป็นช่วงคะแนนร้อยละ 90 ขึ้นไปนั้น เส้นกราฟสูงเกินโค้งปกติชัดเจน ทั้งนี้ในการสอบ 4 วิชา มีผู้ได้คะแนนเกินร้อยละ 90 ดังนี้ ในวิชา S101 มีผู้ได้คะแนนสอบเกินร้อยละ 90 จำนวน 467 คน วิชาความถนัดและเจตคติต่อวิชาชีพครู (S301) จำนวน 472 คน วิชาความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมและการปฏิบัติวิชาชีพครู (S401) จำนวน 545 คน และวิชาเอกเฉพาะทางจำนวน 357 คน รวมทุกวิชา 376 คน
ดร.ชอบ บอกว่า โอกาสที่จะมีกราฟแบบนี้เกิดขึ้นนั้นน้อยมากๆ เพราะฉะนั้น จึงสรุปแน่นอนได้ว่า คะแนนผู้เข้าสอบมีความผิดปกติ หรือง่ายๆ ก็คือ มีการโกงสอบจริง และผู้ที่ได้คะแนนเกิน 90% ขึ้นไปเป็นผู้ที่น่าจับตา ประเด็นต่อมาคือ การทุจริตสอบนี้มีข้อสอบรั่วหรือไม่ ซึ่ง ดร.ชอบ ได้นำคะแนนของผู้ที่ได้คะแนนเกินร้อยละ 90 ประมาณ 500 คน มาตรวจสอบดู
ที่น่าสนใจคือ คะแนนสอบส่วนใหญ่จะมีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานไม่เกิน 2 แต่ค่า SD ของผู้ที่ทำคะแนนสอบได้ร้อยละ 90 ขึ้นไปนั้นอยู่ที่ 4 ซึ่งตามหลักสถิติแล้ว ในกลุ่มผู้เข้าสอบ 100,000 คน จะมี “อัจฉริยะ” ที่ทำคะแนนได้ค่า SD 4 แค่ 3 คน เทียบไอคิวก็ระดับไอน์สไตน์ บิล เกต หรือสตีฟ จ็อบส์ แต่ในการสอบครูผู้ช่วย กลับมีอัจฉริยะที่ได้ค่า SD 4 ประมาณ 500 คน
แต่อัจฉริยะทั้งหลายพากันตอบผิดในข้อ 34 ทั้งที่เป็นข้อสอบง่าย ดัชนีความยากของข้อสอบนี้อยู่ที่ประมาณ 71% หมายความว่า ใน 100 คนจะมีคนตอบถูก 71 คน แต่คนที่ไอคิวระดับไอน์สไตน์ทั้งหลายกลับตอบผิดในข้อสอบง่ายๆ ที่ชัดเจนยิ่งขึ้นคือ ในหมู่อัจฉริยะห้าร้อยนั้น มีถึงจำนวน 344 คน เลือกคำตอบข้อ ก ตามเฉลยข้อสอบแรก ทั้งๆ ที่เป็นคำตอบที่ไม่สมควรเลือกที่สุด แถมยังมีปากคำจากผู้เข้าสอบร่วมห้องด้วยว่า อัจฉริยะบางรายใช้เวลาทำข้อสอบแค่ 10 นาที ที่เหลือหลับคาห้องสอบ มีการพบโพยข้อสอบที่เฉลยตรงยกเว้นข้อ 34 เพราะฉะนั้น ดร.ชอบ สรุปว่า มีเฉลยข้อสอบรั่วแน่นอน
เพื่อความชัดเจนยิ่งขึ้น ดร.ชอบ นำคะแนนมาแจกแจง พบว่า ผู้ที่ทำคะแนนร้อยละ 50 ลงมา ตอบข้อ ก ร้อยละ 16.3, คะแนน 50-59 เลือกข้อ ก ร้อยละ 10.5, คะแนน 60-69 เลือกข้อ ก ร้อยละ 7.2, คะแนน 70-79 เลือกข้อ ก ร้อยละ 5.1 จะเห็นได้ว่า ร้อยละของผู้ที่เลือกข้อ ก ลดลงตามลำดับ ยิ่งผู้เข้าสอบทำคะแนนได้มากขึ้นหรือ คนเก่ง ก็จะตอบผิดลดลง แต่พอมาถึงช่วงคะแนน 80 ขึ้นไป กลับมีผู้เลือกคำตอบข้อ ก จำนวนมาก โดยผู้ที่ได้คะแนนร้อยละ 80-90 จำนวน 137 คน เลือกตอบข้อ ก 104 คน หรือ ร้อยละ 75.9 และผู้ที่ได้คะแนน ร้อยละ 90 ขึ้นไปจำนวน 376 คน เลือกตอบข้อ ก 344 คน หรือร้อยละ 91.5
หลังจากวิเคราะห์ข้อมูลครบถ้วนแล้ว ดร.ชอบ ฟันธงได้ว่า ผู้ที่มีคุณสมบัติเข้าข่ายทุจริตสอบคือ ผู้ที่ทำคะแนนได้เกินร้อยละ 80 ขึ้นไป และเลือกตอบข้อ ก ในวิชา S101 ข้อ 34
นั่นเป็นการฟันธงโดยมีหลักฐานในเชิงวิทยาศาสตร์รองรับอย่างแน่นหนาเป็นครั้งแรก ทำให้คดีนี้เข้าสู่จุดพลิกผัน แต่ก็ต้องรอดูว่า ทุกฝ่ายจะให้ความร่วมมือในการล่าแม่มดครั้งนี้หรือไม่ อย่าลืมว่า เรื่องนี้ไม่ใช่คิดกันแต่ว่า "เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองหนัง เอากระดูกมาแขวนคอ" แต่เป็นหน้าที่ของทุกคนจะต้องช่วยกันปกป้องผลประโยชน์ของเด็ก โดยไม่ยอมให้คนที่มีความโกงอยู่ในกมลสันดานโกง เล็ดลอดมาเป็นครูได้