KRUWANDEE

อ.ก.ค.ศ.ภาคอีสาน ออกแถลงการณ์โต้ ก.ค.ศ. กรณีโยนเผือกร้อนผลสอบครูผู้ช่วย โดยไม่ยอมรับเผือกร้อนกรณีทุจริตสอบครูผู้ช่วย

 

เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (6 เม.ย.) ที่ห้องประชุมชั้น 2 ของสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคคลากรทางการศึกษา (ส.ก.ส.ค.) ตั้งอยู่ที่บ้านทุ่ม หมู่ 1 ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้มี นายศักดิ์สิทธิ์  ถิรทัฬหกุล ประธาน อ.ก.ค.ส.ขอนแก่นเขต 1 ได้เป็นประธานการประชุม อ.ก.ค.ส.ภาคอีสาน พร้อมด้วย นายเอกราช ช่างเหลา ประธาน อ.ก.ค.ส.ขอนแก่น เขต 1 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมจาก นายสุบัน ประทุมทอง ผู้แทนข้าราชการครูใน ก.ค.ศ. นายออน นาจกระโทก ผู้แทนข้าราชการครูใน ก.ค.ศ. และคณะอนุกรรมการ อ.ก.ค.ศ.แต่ละเขตในภาคอีสานประมาณ 35 คน  ได้เข้าประชุมเรื่อง กรมสอบสวนคดีพิเศษได้เสนอรายงานกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องการสืบสวนกรณีทุจริตการคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการครูและบุคคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ ในการคัดเลือกเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2556 ที่ผ่านมา และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้มีบัญชาให้นำเสนอ ก.ค.ศ.พิจารณาแล้วมีมติให้ อ.ก.ค.ศ.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตรวจสอบคะแนนผลการคัดเลือกที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานส่งให้ หากพบสิ่งผิดปกติ หรือส่อไปในทางทุจริต หรือไม่ ประการใด ให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ และรายงานผลให้ ก.ค.ศ.ทราบภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้ง

 

นายเอกราช ช่างเหลา ประธาน อ.ก.ค.ส.ขอนแก่น เขต 1 กล่าวว่า  แถลงการณ์ อ.ก.ค.ศ.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เรื่องการทุจริตการสอบแข่งขันเข้ารับราชการครูผู้ช่วย ว่า จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ได้ส่งผลการสืบสวนกรณีการสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีมีเหตุจำเป็น หรือมีเหตุพิเศษ ว12 ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ว่ามีการทุจริตการสอบบรรจุจริงที่ สพป. ขอนแก่น เขต 3, สพป.อุดรธานี เขต 3, สพป.นครราชสีมา เขต 2 และดีเอสไอ เสนอให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณายกเลิกการสอบ รวมทั้งกรณีการสอบที่ สพป.นครปฐม ให้พิจารณายกเลิกด้วย และที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือ ก.ค.ศ. ได้มีมติให้แจ้งไปยัง 129 เขตพื้นที่การศึกษา รวมทั้ง 4 เขตพื้นที่การศึกษาฯ ที่ดีเอสไอพบหลักฐานการทุจริต ให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาฯ ต่างๆ ไปตรวจสอบว่าผู้ที่มีคะแนนสูงผิดปกติ 514 คน มีการทุจริตหรือไม่ โดยให้พิจารณาจากข้อมูลการสอบสวนของดีเอสไอ และข้อมูลของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ สพฐ. และให้ อ.ก.ค.ศ.พิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน โดยอ้างว่าที่ประชุม ก.ค.ศ. ไม่มีอำนาจออกเป็นคำสั่งให้เขตพื้นที่ยกเลิกการสอบ เพราะเป็นอำนาจของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษานั้น

 

จากกรณีดังกล่าว ทางชมรม อ.ก.ค.ศ.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล และ ก.ค.ศ. รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้อง ใน 3 เรื่อง ได้แก่
1.ขอให้เร่งรัดดำเนินการเพื่อเอาผิดกับบุคคลที่เป็นตัวการใหญ่ ในกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งทางวินัย และทางอาญาอย่างจริงจัง,
2.ขอให้ ก.ค.ศ. ดำเนินการยกเลิกผลการสอบตามข้อมูลของดีเอสไอ ทั้งการยกเลิกรายบุคคลที่มีคะแนนสูงผิดปกติ และการยกเลิกรายเขต,
3.ขอให้ ก.ค.ศ.ยกเลิกหลักเกณฑ์ วิธีการสอบแข่งขัน และวิธีการดำเนินการยกเลิกการสอบแข่งขันฯ ตามหนังสือเวียนที่ ศธ 0206.2/ว14 ลงวันที่ 25 เมษายน 2555 ที่ขัดต่อเจตนารมณ์ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุม อ.ก.ค.ส.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ จ.ขอนแก่น ครั้งนี้  ที่ได้สรุปข้อคิดเห็นเบื้องต้นเห็นว่าอำนาจดำเนินการจัดสอบ “ครูผู้ช่วย” ถือว่าเป็นอำนาจในการจัดสอบของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่ เมื่อ ดีเอสไอ. หรือคณะทำงานที่กระทรวงศึกษาธิการตั้งขึ้นมีการสืบสวน การสอบสวน ได้ข้อเท็จจริงประการใด ความเสียหายจะตกมาสู่ อ.ก.ค.ศ.ภาคอีสานซึ่งไม่ถูกต้อง เรื่องนี้ด้านการเมืองเข้ามายุ่งจน อ.ก.ค.ศ.ภาคอีสานกลายเป็นผู้ผิดและรับบาปจากการเมือง ในเรื่อง ทุจริตสอบครูผู้ช่วย
 

ในส่วนนายสุบัน ประทุมทอง ผู้แทนข้าราชการครูใน ก.ค.ศ. เปิดเผยว่า อ.ก.ค.ศ.เขตภาคอีสานทั้งหมดได้มองว่า การดำเนินการสอบของครูผู้ช่วยที่ผ่านมา ที่กฎหมายได้มอบอำนาจให้เขตพื้นที่แต่ละเขตรับผิดชอบตามหลักของการกระจายอำนาจ และ อ.ก.ค.ศ.เขตทั้งหมดต้องรับผิดชอบ ตั้งแต่เริ่มออกข้อสอบ การแต่งตั้งกรรมการรับผิดชอบในการสอบครูผู้ช่วยที่ผ่านมา เท่าที่ผ่านมาที่สอบครูผู้ช่วยมีเหตุพิเศษ ว12 ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน  ได้มีการมองว่าทาง ก.ค.ศ.ได้ออกหลักเกณฑ์ครั้งนี้เกินกว่ากฎหมายบัญญัติไว้ ซึ่ง ก.ค.ศ.ได้ออกหลักเกณฑ์มอบให้ส่วนราชการ คือ สพฐ.ไปดำเนินการออกข้อสอบครูผู้ช่วย ประมวลกฎหมายในการสอบครูผู้ช่วย ซึ่งเรื่องนี้ขอบอกตามตรงว่าเป็นอำนาจของ อ.ก.ค.ศ.เขต ทำให้คณะอนุกรรม อ.ก.ค.ศ.เขตแต่ละเขตในภาคอีกสานไม่พอใจที่ สพฐ.จะให้ อ.ก.ค.ศ.ภาคอีสานเป็นผู้ผิดสอบครูผู้ช่วยครั้งที่ผ่านมา

 

นายสุบัน  กล่าวอีกว่า  การสอบครูผู้ช่วยเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา มีทุจริตครอบคลุมหลายจังหวัด และในแต่ละเขตพื้นที่ เมื่อเกิดปัญหาทุจริตขึ้นมาแล้ว ก.ค.ศ.ได้ประชุมคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และได้มอบให้ อ.ก.ค.ศ.เขตเป็นผู้แก้ปัญหาว่า จะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าใครเป็นผู้ทุจริต และสามารถยกเลิกเพิกถอนได้ เรื่องนี้ขอพูดอีกว่า การสอบครูผู้ช่วยที่มีทุจริตการสอบจนเป็นข่าวในสื่อมวลชนมาอย่างต่อเนื่องมาเป็นเดือน สองเดือน  เมื่อเริ่มต้น อ.ก.ค.ศ.ภาคอีสานไม่ได้ทำ และ สพฐ.ดำเนินการจัดสอบครูผู้ช่วยครั้งนี้ เมื่อเกิดสิ่งไม่ดีไม่งามขึ้นมาจะเอาผิด อ.ก.ค.ศ.ภาคอีสาน และให้ อ.ก.ค.ศ.ภาคอีสานแก้ปัญหา จึงเป็นสิ่งที่คณะกรรมการ สมาชิก อ.ก.ค.ศ. ภาคอีสานไม่พอใจ และจะต้องขับเคลื่อนการไม่พอใจครั้งนี้ไปจนถึงที่สุด และขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในการออกกฎหมายของ อ.ก.ค.ศ.ให้เกิดความชัดเจน  ให้เกิดความกระจ่างต่อสังคมที่การสอบครูผู้ช่วยครั้งนี้มีคนผิดที่ต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย ไม่เป็นมวยล้มต้มคนดู..

 

ขอบคุณข้อมูลจาก --> เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 6 เมษายน 2556