KRUWANDEE

เด็กพลาดหวังให้รีบแจ้งจัดสรรที่เรียน ณ เขตพื้นที่ และโรงเรียนสหวิทยาเขต ภายในวันที่ 8 เม.ย.นี้ คาดทุกโรงเรียนเคลียร์รับ ม.1 เสร็จก่อนหยุดยางสงกรานต์  "ชินภัทร" ย้ำโรงเรียนดังหากรับก๊อกสองถือผิดกติกา ต้องเกลี่ยไปโรงเรียนคู่พัฒนา  

 

     ที่โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย เมื่อวันที่ 31 มี.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เดินทางไปตรวจเยี่ยมการจับฉลากนักเรียนในเขตพื้นที่บริการเข้าเรียนต่อชั้น ม.1 ประจำปีการศึกษา 2556 ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้กำหนดให้วันที่ 31 มี.ค. เป็นวันจับสลากของโรงเรียนในสังกัด สพฐ.ทั่วประเทศ  โดยบรรยากาศการจับสลากของโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย เป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้ปกครองพาบุตรหลานมาไหว้พระพุทธรูปประจำโรงเรียน เพื่อขอพรให้บุตรหลานจับสลากเข้าเรียนได้ โดยทางโรงเรียนได้จัดดอกไม้ พวงมาลัย ธูป และเทียนไว้คอยจำหน่ายด้วย ส่วนบรรยากาศระหว่างรอการจับสลากนั้น นักเรียนต่างตื่นเต้น บางคนพนมมือนั่งสวดมนต์ เพื่อขอพรให้สมหวังจากการจับสลาก และในปีนี้มีสามเณร 1 รูป เข้าร่วมการจับสลากด้วย  ทั้งนี้โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย ใช้วิธีให้นักเรียนจับสลากในวงล้อ โดยให้เด็กขึ้นจับสลากครั้งละ 10 คน ซึ่งเมื่อจับแล้วจะให้เด็กเปิดสลากพร้อมกัน โดยเด็กที่จับได้สลากที่มีตราประจำโรงเรียนคู่กับลายเซ็นของผู้อำนวยการโรงเรียน จะถือว่าเป็นผู้มีสิทธิ์เข้าเรียนต่อ
 

     นายเฉลิมชัย จันทรมิตรี ผู้อำนวยการโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย กล่าวว่า โรงเรียนมีแผนการรับนักเรียนชั้น ม.1 ปีการศึกษา 2556 จำนวน 790 คน โดยในจำนวนนี้เป็นส่วนของการจับสลาก 150 คน ซึ่งมีนักเรียนที่มีคุณสมบัติในการจับสลาก 342 คน แต่มารายงานตัว 280 คน ดังนั้นจะมีเด็กที่พลาดหวัง 130 คน อย่างไรก็ตามนักเรียนที่จับสลากไม่ได้สามารถยื่นความจำนงขอจัดที่เรียนรอบ2ได้ที่โรงเรียน ตั้งแต่วันนี้ถึง 8 เม.ย.นี้ โดยโรงเรียนในสหวิทยาเขตวิภาวดีที่รับรอบ 2 ประกอบด้วย โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย 2 โรงเรียนดอนเมืองจาตุรจินดา และโรงเรียนสีกัน (วัฒนานันท์อุปถัมภ์) 
 

     นายชินภัทร กล่าวว่า ในปีนี้มีโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูงจัดให้มีการจับสลากทั้งสิ้น 70 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งลดลงจากปีที่ผ่านมา ซึ่งมี 110 โรงเรียน แบ่งเป็น โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) กรุงเทพมหานคร เขต 1 จำนวน 4 โรงเรียน สพม.กทม.เขต 2 จำนวน 18 โรงเรียน และ สพม.เขต 3-42 จำนวน 48 โรงเรียน ซึ่งในภาพรวมการจับสลากเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยหลังจากนี้ทางโรงเรียนจะต้องประสานกับเขตพื้นที่ฯ เพื่อจัดสรรที่เรียนให้แก่เด็กที่พลาดหวังจากการจับสลาก ได้เข้าเรียนในโรงเรียนคู่พัฒนาต่อไป แต่หากโรงเรียนคู่พัฒนารับเต็มจำนวนแล้ว ให้มีการประสานไปยังโรงเรียนคู่สหกิจของ กทม.
 

     ทั้งนี้เด็กที่พลาดหวังจากการจับสลากสามารถยื่นความจำนงขอจัดสรรที่เรียนรอบ 2 ได้ที่โรงเรียน หรือเขตพื้นที่การศึกษาฯ ตั้งแต่วันนี้ถึง 8 เม.ย.นี้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถประกาศผลการจัดสรรที่เรียนฯ ได้ในวันที่ 10 เม.ย. และมอบตัวในวันที่ 11 เม.ย. ซึ่งยืนยันว่าเด็กทุกคนมีที่เรียนแน่นอนหากไม่เลือกโรงเรียน
 

     "โรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูงจะประกาศรับนักเรียนเพียงรอบเดียวเท่านั้น จะไม่มีการเปิดรับรอบสอง โดยจะต้องเกลี่ยนักเรียนไปยังโรงเรียนคู่พัฒนา ซึ่งหากโรงเรียนเปิดรับรอบสองจะถือว่าปฏิบัตินอกกฎเกณฑ์" 
 

     นายชินภัทร กล่าวและว่า สำหรับภาพรวมการรับนักเรียนในปีนี้ พบว่า สพม.กทม.เขต 2 มีจำนวนนักเรียนมาสมัครสูงที่สุด โดยมีนักเรียนมาสมัคร 30,447 คน จากแผนรับ 22,260 คน แต่เมื่อตรวจสอบพบว่ามีรายชื่อที่สมัครมากกว่า 1 ที่ 3,771 คน ดังนั้นจะเหลือเด็กที่มาสมัคร 26,676 คน และเกินจากแผนรับ 4,416 คน ซึ่งทางเขตพื้นที่ฯ จะมีการประสานกับโรงเรียนสังกัด กทม.และโรงเรียนเอกชน เพื่อจัดสรรที่เรียนให้แก่เด็กต่อไป
 

     อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปีนี้มีตัวป้อนลดลง จึงทำให้ปัญหาการจัดสรรที่เรียนให้แก่เด็กผ่อนคลายกว่าปีที่ผ่านมา ส่วนการรับนักเรียนชั้น ม.4 นั้น ขณะนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่มีบางโรงเรียนไม่ได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่ สพฐ. กำหนด โดยเปิดรับนักเรียนทั่วไปจำนวนมาก จึงทำให้นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนเดิม ซึ่งมีคะแนนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตร ม.ปลาย ตั้งแต่ 2.00 ขึ้นไป ไม่ได้สิทธิ์เรียนต่อครบทุกคน ฉะนั้นจึงได้ขอให้โรงเรียนไปทบทวนการปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ สพฐ.กำหนด เพราะการที่นักเรียนตั้งใจเรียนตั้งแต่ ม.ต้น และรับผิดชอบผลการเรียนก็ควรต้องให้เด็กในโรงเรียนเดิมได้เรียนต่อชั้น ม.4 ด้วย

 

ขอบคุณข้อมูลจาก --> เว็บไซต์หนังสือพิมพ์สยามรัฐ วันที่ 31 มีนาคม 2556