มาตรา 157 ย้อนศร สพฐ.-ก.ค.ศ รับ(ผิด)ชอบ เผือกร้อนทุจริตครูผู้ช่้วย
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
ชักวุ่น! อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ รวมตัวค้านมติ ก.ค.ศ. โยนเผือกร้อน " ทุจริตครูผู้ช่วย" ซัด "ส่วนกลาง"รู้ตัวคนผิดแต่ปัดลงโทษ เข้าข่ายผิดมาตรา 157 "พงศ์เทพ" ปัดโยนเผือกร้อนให้เขตพื้นที่ฯ แจงเป็นการแบ่งงานทำเพื่อให้ได้ข้อมูลที่เร็วขึ้น ย้ำ ก.ค.ศ.ไร้อำนาจเอาผิด ด้าน สพฐ.ทะยอยส่งข้อมูลหลักฐานให้ 129 เขตพื้นที่ฯ ดำเนินการต่อ ขณะที่ รร.เอกชน จี้เร่งจัดสอบครูผู้ช่วย เดือน เม.ย. ระบุช้ากว่านี้ หาครูทดแทนไม่ทันเปิดภาคเรียนใหม่
เมื่อวันที่ 25 มี.ค.56 นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่าขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้เริ่มส่งข้อมูลผลการสอบสวนกรณีทุจริตสอบครูผู้ช่วย กรณีมีความจำเป็นหรือเหตุพิเศษ ว12 ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ ศธ. พร้อมกับข้อมูลคะแนนของผู้ที่ผ่านการสอบบรรจุซึ่งได้คะแนนสูงผิดปกติ ไปยัง 129 เขตพื้นที่การศึกษา จากนั้นคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ) เขตพื้นที่การศึกษา จะพิจารณาตัดสินและลงโทษ ให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน ส่วนการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกระบวนการภายใน ที่เสนอให้มีบุคคลภายนอกและมาจากหน่วยงานกลางนั้น สพฐ.จะหารือกับนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ ในเร็วๆ นี้
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า การที่ที่ประชุมคณะกรรมการการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) มอบให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ไปตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบการทุจริตการสอบครูผู้ช่วยนั้น ไม่ใช่เป็นการโยนงานลงไปให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ แต่เพราะ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ มีอำนาจในการพิจารณาตัดสินกรณีพบว่ากระทำผิด เช่น สั่งให้ออก เป็นต้น ซึ่ง ก.ค.ศ.ไม่มีอำนาจไปดำเนินการในส่วนนั้น
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และมีข้อมูลสรุปจากดีเอสไอ ที่ได้ตรวจสอบและสรุปมาแล้วว่า พบผู้เข้าสอบที่มีคะแนนสูงผิดปกติกว่า 500 คน เพราะฉะนั้น การจะให้แค่ส่วนกลางทำงานเพียงหน่วยเดียวการตรวจสอบจะล่าช้า ก็ต้องให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ลงไปช่วยตรวจสอบด้วย
"ถือว่าเป็นการแบ่งงานกันทำ กระจายงานไปไม่เช่นนั้นงานจะกระจุกตัวที่ส่วนกลางที่เดียว การตรวจสอบจะยิ่งใช้เวลานาน โดยเราก็ส่งข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องลง ซึ่งบ่งชี้ประเด็นที่พบว่าทุจริตชัดเจน เช่น รายชื่อและคะแนนผู้สอบกว่า 500 คนที่มีคะแนนสูงผิดปกติ ข้อมูลการรวมตัวเพื่อติวก่อนสอบ และข้อมูลจากผู้ที่รับสารภาพ ซึ่งตรงนี้อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ จะได้ลงไปดำเนินการตรวจสอบ โดย ก.ค.ศ.ก็ไม่ได้ปล่อยให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ดำเนินการลำพัง มีการตั้งคณะกรรมการลงไปติดตามเป็นที่ปรึกษาด้วย"รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
ด้าน นายสานิตย์ พลศรี กรรมการใน อ.ก.ค.ศ. สพป.ชัยภูมิ เขต 1 กล่าวว่า ขณะนี้กำลังประสานหารือกับแต่ละเขตพื้นที่ฯ เพื่อคัดค้านมติที่ประชุม ก.ค.ศ.ที่ให้ส่งเรื่องให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ 129 เขตไปตรวจสอบและพิจารณาว่าจะต้องยกเลิกการสอบครูผู้ช่วย ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะมีมติออกมาเร็วๆ นี้ ว่าจะดำเนินการและมีมาตรการอะไรบ้าง เพราะแต่ละเขตพื้นที่ฯ ก็ไม่ต้องการที่จะมารับผิดชอบในสิ่งที่ไม่ได้ดำเนินการ ทั้งนี้ทาง สพฐ. และที่ประชุม ก.ค.ศ.ควรต้องรับผิดชอบมากกว่า เพราะหลักฐานและข้อมูลต่างก็ชัดเจนแล้วว่ามีการทุจริต ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ก็เข้าข่ายว่าทั้ง สพฐ.และที่ประชุม ก.ค.ศ.ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ได้
นายทองใบ เรียงสิมา กรรมการใน อ.ก.ค.ศ.สพป.ร้อยเอ็ด เขต 1 กล่าวว่า เดิมการสอบครูผู้ช่วย เขตพื้นที่ฯ ดำเนินการทุกอย่างอยู่แล้ว แต่ช่วงหลังส่วนกลางดึงไปทำเองทั้งหมด และเมื่อมีปัญหาจะมาโยนความรับผิดชอบมาให้อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯไม่ได้ ซึ่งการทุจริตที่เกิดขึ้น ศธ.ควรต้องตัดสินและรับผิดชอบไม่ใช่เรื่องของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ซึ่งเรื่องนี้ก็น่าจะหาข้อมูล หลักฐานและหาคนผิดได้ไม่ยากอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามตอนนี้ทาง อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯยืนยันว่าจะไม่ดำเนินการตามมติที่ประชุม ก.ค.ศ.แน่นอน
นายอดิศร เนาวนนท์ คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ในฐานะประธาน อ.ก.ค.ศ.สพป.นครราชสีมา เขต 7 กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องตลกร้ายของวงการศึกษาที่ ก.ค.ศ.และ สพฐ.ทำผิด พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลการทางการศึกษา พ.ศ.2547 เสียเอง รวบอำนาจไปดำเนินการ แต่พอเกิดปัญหากลับโยนไปให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ อ้างเอาตัวรอดว่า ก.ค.ศ.ไม่มีอำนาจ และยังแสดงธาตุแท้ของเผด็จการข่มขู่ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ หากละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือทำอะไรมิชอบก็จะมีความผิดสองเท่า หากไม่ดำเนินการตามที่ ก.ค.ศ.สั่งการก็จะถูกถอดถอน หากเป็น อ.ก.ค.ศ.ที่เป็นข้าราชการครู จะถูกลงโทษทางวินัยด้วย ทั้งที่ ก.ค.ศ.นั้นบิดเบือนเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูฯ มาตรา 47 ที่กำหนดให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ เป็นผู้ดำเนินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุ และแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูฯ
"เป็นการปัดสวะโยนเผือกร้อนให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ขณะที่ ก.ค.ศ.และ สพฐ. รับชอบแต่ไม่รับผิด ผมเชื่อว่าหาก อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ แห่งใด ออกประกาศยกเลิกการสอบแข่งขันทั้งหมด ตามที่ดีเอสไอเสนอในบางเขตฯ หรือประกาศยกเลิก หรือตัดสิทธิ์เฉพาะรายที่มีคะแนนสูงผิดปกติ 514 คน นั้น อ.ก.ค.ศ.จะต้องถูกฟ้องอย่างแน่นอน เพราะเขตพื้นที่ฯ ได้มีการบรรจุบุคคลเหล่านี้ไปแล้ว ขณะที่ ก.ค.ศ.และ สพฐ.จะรอดพ้นการถูกฟ้อง อ.ก.ค.ศ.หลายเขต คงไม่กล้าเสี่ยง ที่จะดำเนินการประกาศยกเลิกการสอบ โดยเฉพาะยกเลิกเฉพาะรายที่มีคะแนนสูงผิดปกติ เพราะการทุจริต หรือส่อไปในทางทุจริตในการสอบ ผู้ดำเนินการสอบได้รับทราบภายหลังจากการสอบ หรือจับไม่ได้ในห้องสอบ จึงมีความเสี่ยงที่จะถูกฟ้องร้อง" นายอดิศร กล่าว
ด้าน นายบัณฑิต ศรีพุทธางกูร เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) กล่าวว่า ตามที่ สพฐ.ได้กำหนดที่จะจัดสอบครูผู้ช่วยในเดือน เม.ย.นั้น จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ดำเนินการใดๆ หากล่าช้าไปกว่านี้โรงเรียนเอกชนจะได้รับผลกระทบหนัก เนื่องจากครูเอกชนจะลาออกไปสมัครสอบครูผู้ช่วยกับ สพฐ. ซึ่งอย่างน้อยก็ควรดำเนินการเรียกบรรจุให้แล้วเสร็จภายในเดือน เม.ย.หรืออย่างช้าต้นเดือน พ.ค.หรือยังอยู่ในช่วงปิดเทอม เพื่อที่โรงเรียนเอกชนจะได้หาครูมาทดแทนได้ทัน
"หาก สพฐ.ดำเนินการล่าช้าจนล่วงเลยไปถึงช่วงเปิดเทอม ปัญหาคงเกิดขึ้นกับโรงเรียนเอกชนหนักหนาแน่ เนื่องจากหาครูมาทดแทนได้ไม่ทันเปิดภาคเรียนใหม่"
นายบัณฑิต กล่าวและว่า ที่จริงมีข้อเสนอแนะจากหลายฝ่ายว่า หาก สพฐ.ดำเนินการจัดสอบขึ้นบัญชีไปก่อน และไปเรียกบรรจุในช่วงเดือน ต.ค.ซึ่งเป็นช่วงปิดเทอมภาคเรียนที่ 1 หรือเป็นช่วงที่มีอัตราเกษียณอายุราชการชัดเจนในช่วงเวลานั้นก็น่าจะดี ที่สำคัญโรงเรียนเอกชนก็ยังพอมีเวลาเตรียมตัว ในการจัดหาครูใหม่เข้ามาทดแทนได้ ซึ่งก็จะมีการนำข้อเสนอนี้ให้ทาง ก.ค.ศ. และ สพฐ.ได้พิจารณาแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก --> เว็บไซต์หนังสือพิมพ์สยามรัฐ วันที่ 25 มีนาคม 2556
“พงศ์เทพ” ปัดโยนเผือกทุจริตสอบครูผู้ช่วยให้ อ.ก.ค.ศ.
“พงศ์เทพ” ปัดโยนเผือกร้อนทุจริตครูผู้ช่วยให้ อ.ก.ค.ศ.เขตฯ สั่งฟัน ชี้เป็นการแบ่งงานทำเพื่อไม่ให้งานกระจุกตัวที่ส่วนกลาง ยันไม่เคยได้รับคำสั่งหรือพูดคุยกับ “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” ตามที่มีกระแสข่าวให้เพลาการตรวจสอบ ลั่นตรวจสอบเต็มที่เพราะกระทบครูจำนวนมาก
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า การที่ที่ประชุมคณะกรรมการการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) มอบให้คณะอนุกรรมการ ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ไปตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบการทุจริตการสอบครูผู้ช่วยนั้น ไม่ใช่เป็นการโยนงานลงไปให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ แต่เพราะ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯมีอำนาจในการพิจารณาตัดสินกรณีพบว่ากระทำผิด เช่น สั่งให้ออก เป็นต้น ซึ่ง ก.ค.ศ.ไม่มีอำนาจไปดำเนินการในส่วนนั้น อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และมีข้อมูลสรุปจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ที่ได้ตรวจสอบและสรุปมาแล้วว่า พบผู้เข้าสอบที่มีคะแนนสูงผิดปกติกว่า 500 คน เพราะฉะนั้น การจะให้แค่ส่วนกลางทำงานเพียงหน่วยเดียวการตรวจสอบจะล่าช้า ก็ต้องให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ลงไปช่วยตรวจสอบซึ่งก็เป็นการแบ่งงานกันทำ
“เป็นการแบ่งงานกันทำ กระจายงานไปไม่เช่นนั้นงานจะกระจุกตัวที่ส่วนกลางที่เดียวการตรวจสอบจะยิ่งใช้เวลานาน โดยเราก็ส่งข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องลง ซึ่งบ่งชี้ประเด็นที่พบว่าทุจริตชัดเจน เช่น รายชื่อและคะแนนผู้สอบกว่า 500 คนที่มีคะแนนสูงผิดปกติ ข้อมูลการรวมตัวเพื่อติวก่อนสอบ และข้อมูลจากผู้ที่รับสารภาพ ซึ่งตรงนี้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯจะได้ลงไปดำเนินการตรวจสอบ โดย ก.ค.ศ.ก็ไม่ได้ปล่อยให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ดำเนินการลำพัง มีการตั้งคณะกรรมการลงไปติดตามเป็นที่ปรึกษาด้วย” นายพงศ์เทพ กล่าว
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีของเขตพื้นที่การศึกษาที่มีหลักฐานชัดเจนว่ามีการทุจริตก็สามารถสั่งดำเนินการได้เลย ว่า ตนยืนยันว่าเรื่องนี้คงไม่เป็นมวยล้มและจะต้องดำเนินการอย่างเต็มที่อยู่แล้วและไม่ได้เป็นการผลักภาระไปให้อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯอย่างที่คิดกัน ทั้งนี้ตนเชื่อว่าอ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯส่วนใหญ่จะดำเนินการตามมติที่ให้ไปตรวจสอบ แต่หากไม่ดำเนินการอะไรก็จะมีวิธีการอื่นจะดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ตนจะหารือกับนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ ว่าจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนอะไรเพิ่มเติมหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตามที่มีกระแสข่าวว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ขอให้ นายพงศ์เทพ เพลาการตรวจสอบและดำเนินการในเรื่องนี้ นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ไม่มีใครมาสั่งอะไร และเรื่องนี้ไม่เคยคุยกันเลย ซึ่งตนและนายเสริมศักดิ์ถือว่าเรื่องนี้กระทบต่อการสอบและคนจำนวน ฉะนั้นจึงตั้งใจที่จะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเต็มที่
ขอบคุณข้อมูลจาก --> เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 25 มีนาคม 2556