ชง'ศธ.'ล้มสอบครู 4 เขต พบหลักฐานทุจริตชัดเจน
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
"ดีเอสไอ" แฉสอบครูผู้ช่วย จนท.เอี่ยวหลายระดับ เผยมีบัญชีรายชื่อขบวนการแล้ว เล็งเสนอเป็นคดีพิเศษ สอบเชิงลึก ระบุชง "กระทรวงศึกษาฯ" ยกเลิกการสอบใน 4 เขต เนื่องจากพบทุจริตชัดเจน ด้าน "ชินภัทร" ตัดพ้อกระแส "ฟ้าผ่า 2 บิ๊ก สพฐ." ลั่นทำงานด้วยความบริสุทธิ์ ควรได้รับการคุ้มครอง แนะแยกประเด็นทุจริต-ละเลยบกพร่อง" ออกจากกัน
ความคืบหน้าการตรวจสอบทุจริตสอบคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการครู ในตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีมีความจำเป็นหรือเหตุพิเศษ ว12 ที่ล่าสุดกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้นัดสรุปผลการสอบสวน ในวันที่ 19 มี.ค. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อวันที่ 19 มี.ค.56 นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ในวันนี้(19 มี.ค.) ทางดีเอสไอจะสามารถรวบรวมข้อมูลที่ได้จากการลงพื้นที่ของศูนย์ป้องกัน และปราบปรามทุจริตได้แล้วเสร็จและจะแถลงข่าวรายละเอียดทั้งหมดในวันที่ 20 มี.ค. โดยมีนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิชรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการจะร่วมแถลงข่าวกับดีเอสไอ
นายธาริต กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น มีความชัดเจนว่า การสอบครูผู้ช่วย เกิดการทุจริตจริงทั้งในรูปแบบการนำกระดาษเฉลยคำตอบ มาเผยแพร่ก่อนสอบ โดยมีการจ่ายค่าตอบแทน การใช้เครื่องมือ อิเล็กทรอนิกส์เฉลยข้อสอบ และการจัดให้คนอื่นเข้าสอบแทนซึ่งทางดีเอสไอ ได้เสนอผลการตรวจสอบให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณายกเลิกการสอบและสอบใหม่ใน 4 เขต ส่วนที่ยังไม่มีพยานหลักฐานชัดก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเพราะสามารถจัดการเอาผิดภายหลังเป็นรายไปได้ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบรายชื่อผู้เข้าสอบที่ต้องสงสัยกว่า400 คน ที่มีคะแนนมากกว่าปกติอีกด้วย
"ผมยอมรับว่า เรื่องดังกล่าวมีผู้เกี่ยวข้องหลายระดับ และขณะนี้ทางดีเอสไอ มีบัญชีรายชื่อของขบวนการดังกล่าวแล้ว แต่ต้องรอให้มีการเสนอคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) เพื่อให้รับเป็นคดีพิเศษก่อนจึงจะสอบสวนในเชิงลึกได้ โดยการใช้มาตรการพิเศษเข้าไปตรวจสอบ ทั้งกระแสการเงินและความสัมพันธ์ของบุคคลที่เกี่ยวข้องซึ่งมีตั้งแต่ระดับล่างถึงระดับบนโดยจะมอบให้นายเสริมศักดิ์เป็นผู้แถลงรายละเอียดของขบวนการในวันที่ 20 มี.ค."
ด้าน นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) เปิดเผยถึงกรณีรมช.ศึกษา ธิการระบุการตรวจสอบของดีเอสไอ พบเชื่อมโยงกับผู้บริหารระดับสูงของ สพฐ. 2 รายและอาจจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)โยกย้ายไปสำนักนายกฯว่า ยังไม่อยากให้ความเห็นใดๆ เพราะคิดว่าทุกวันที่ทำหน้าที่ได้พยายามตั้งใจทำงานอย่างดีที่สุดฉะนั้นการจะตัดสินอะไรต้องตัดสินบนพื้นฐานของความจริง และข้อมูลที่ชัดเจนและเห็นว่าข้าราชการที่มีความตั้งใจในการทำงาน ควรได้รับการคุ้มครอง ดูแลเพื่อให้คนมีอุดมการณ์ได้รักษาอุดมการณ์ต่อไป เพราะหากตัดสินใจอะไรที่ด่วนหรือเร็วไปโดยใช้กระแสมาตัดสิน จะทำให้เกิดวัฒนธรรมที่ไม่พึงประสงค์ขึ้นได้ ดังนั้นอยากให้ข้าราชการทุกคนที่มีความตั้งใจและมีอุดมการณ์อย่าท้อถอย ขอให้ยืนหยัดในความถูกต้อง และท้ายที่สุดเราต้องเชื่อมั่นในหลักยุติธรรมที่จะอยู่คู่กับสังคมประเทศชาติต่อไป หากระบบยุติธรรมยังยืนหยัดในความถูกต้องได้สมาชิกในสังคมจะก้าวหน้าต่อไปจะไม่ถูกพลังที่ไม่ถูกต้องมาทำลายให้หมดสิ้นไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการมองว่าเป็นความละเลยของผู้บริหาร สพฐ.ในปัญหาการสอบครูผู้ช่วยครั้งนี้ นายชินภัทร กล่าวว่าพูดยากให้คนอื่นตัดสินดีกว่าและที่บอกว่าเป็นความละเลยนั้นให้คนอื่นตัดสินดีกว่า และคิดว่าควรแยกแยะ 2 ประเด็นระหว่างเรื่องเกี่ยวกับการทุจริต กับประเด็นการละเลยหรือบกพร่อง ฉะนั้น หากเป็นเรื่องการละเลยหรือบกพร่องก็ให้ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจว่าเป็นการวางระบบที่ไม่ดีและถูกต้องจนทำให้เกิดการรั่วไหลหรือไม่
ขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์สยามรัฐ