KRUWANDEE

 ดีเอสไอเข้าสอบข้อมูลผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สพฐ.แล้ว เผยจะเร่งสรุปคดีเบื้องต้นให้เสร็จวันที่ 18 มี.ค.นี้ เพื่อชี้ขาดว่าควรยกเลิกผลการสอบหรือไม่ แฉขบวนการโกงกระจุกตัวอยู่ที่ภาคอีสาน เหตุมีคนในพื้นที่ไปสอบกินโควตาภาคอื่นเยอะมาก และเตรียมเรียกผู้สอบได้คะแนนสูงผิดปกติ 480 คน มาสอบสวนเค้นหาความจริงเป็นรายบุคคล 
 

    ความคืบหน้ากรณีการสอบสวน สืบหาต้นตอการทุจริต การสอบคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการครูในตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีมีความจำเป็นหรือเหตุพิเศษ (ว12) นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้พบผู้สอบกลุ่มที่มีคะแนนสูงผิดปกติ จำนวน 486 คน กระจายตัวใน 60 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งสันนิษฐานเบื้องต้นได้ก่อนเลยว่า ผู้สอบกลุ่มนี้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยทุจริตการสอบ โดยเฉพาะกรณีข้อสอบรั่วที่ทำให้ผู้สอบบางคนมีคะแนนสูงจนผิดปกติ อย่างไรก็ตาม กรณีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ศธ. จะนัดประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) นัดพิเศษ วันที่ 13 มี.ค.นี้ เพื่อพิจารณาว่าจะยกเลิกผลการสอบคัดเลือกหรือไม่นั้น เรื่องนี้ตนจะคุยกับ รมว.ศธ.ขอให้เลื่อนการประชุม ก.ค.ศ.ไปเป็นช่วงปลายเดือน มี.ค.นี้ เพื่อรอผลการตรวจสอบจากฝ่ายต่างๆ ได้สรุปก่อน
 

    นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ได้เตรียมเอกสารข้อมูล 4 ส่วน ให้ดีเอสไอ คือ 1.หลักเกณฑ์และวิธีการในการสอบคัดเลือก 2.จำนวนเขตพื้นที่และรายชื่อเขตพื้นที่ 3.จำนวนผู้เข้าสอบและผลการสอบ และ 4.รายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก วิธีการจัดส่ง การเก็บข้อสอบ การออกข้อสอบ และการประกาศผลสอบ พร้อมกับวิงวอนว่า อย่าเพิ่งตั้งข้อสงสัยว่าคนใน สพฐ.จะมีส่วนเกี่ยวข้องการทุจริต เพราะยังไม่มีหลักฐานชัดเจน
 

    ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา 10.00 น. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เดินทางมาที่ ศธ. และเริ่มสอบข้อมูลผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของ สพฐ. โดยใช้เวลาสอบนานกว่า 4 ชั่วโมง หลังจากนั้นนายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทุจริต ดีเอสไอ เปิดเผยว่า ดีเอสไอจะนำเอกสารต่างๆ ที่ได้ในวันนี้ไปตรวจสอบ ส่วนหลักฐานผู้สอบบางคนที่มีคะแนนสูงผิดปกตินั้น ตั้งแต่ร้อยละ 90-100 มีประมาณ 400 กว่าคน ขณะที่คะแนนเฉลี่ยของผู้เข้าสอบคราวนี้จะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 80 ก็จะมีการเชิญผู้เข้าสอบที่มีคะแนนสูงผิดปกติมาสอบปากคำ ว่าคะแนนที่ได้มานั้นทำได้จริงไหม ซึ่งจะต้องชี้เป็นรายคน โดยการคัดกรองกลุ่มที่ได้คะแนนสูงผิดปกติ ว่าเข้าข่ายในลักษณะการใช้เครื่องไม้เครื่องมือ หรือการพกโพยคำตอบเข้าไปหรือไม่อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ถึงแม้กลุ่มที่คะแนนสูงผิดปกติอาจมีส่วนในการทุจริต แต่ก็ต้องตรวจสอบก่อน เพราะบางคนที่เก่งก็อาจจะสอบได้คะแนนสูง และทั้งหมดต้องขึ้นกับพยานหลักฐาน
 

    ผอ.ศูนย์ป้องกันฯ กล่าวต่อว่า ส่วนกระดาษคำตอบที่ขณะนี้มีการอายัดไว้แล้วนั้น จากนี้ทางดีเอสไอจะทำหนังสือถึงนายเสริมศักดิ์ เพื่อขออนุญาตนำกระดาษคำตอบมาเปรียบเทียบกับพยานหลักฐานที่ได้ ส่วนกรณีผู้อำนวยการโรงเรียนและอาจารย์ที่เกี่ยวข้อง ที่จะเชิญมาให้ข้อมูลกับทางดีเอสไอนั้น ไม่ใช่ว่าเป็นผู้ที่ทุจริต แต่เป็นผู้ที่มีข้อมูลเกี่ยวข้องกับกระบวนการ ดังนั้นจึงต้องเรียกมาให้ข้อมูล เพื่อจะได้สาวไปถึงตัวการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะใช้เวลาสอบ 3 วัน ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้า พนักงานสอบสวนจะลงไปพื้นที่อีกครั้ง ตามเป้าหมายที่จะตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลที่ได้ในวันนี้ถือเป็นประโยชน์มาก ซึ่งสามารถตีวงแคบในการหาตัวผู้ทุจริตได้มากขึ้น โดยคาดว่าในวันที่ 18 มี.ค.นี้ จะสามารถสรุปผลเบื้องต้น ว่ากลุ่มที่กระทำความผิดมีใครบ้าง และต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป
 

    นายธานินทร์กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบเชื่อว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นจริง โดยมี 3 ลักษณะ คือ การให้บุคคลอื่นเข้าสอบแทน การนำข้อสอบออกมาและเฉลยข้อสอบ ให้นำโพยข้อสอบไปท่องจำ การนำเครื่องมือสื่อสารเข้าไปในห้องสอบ เนื่องจากการสืบสวนพบมีหลักฐานเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะพยานบุคคลที่ให้การว่า ก่อนถึงวันสอบ 2 วันได้มีการอบรมการใช้เครื่องมือสื่อสารเพื่อเฉลยข้อสอบ นอกจากนี้ยังมีหลักฐานโพยข้อสอบ ซึ่งจะนำไปตรวจสอบว่าตรงกับกระดาษคำตอบของ สพฐ.หรือไม่ นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือในห้องสอบด้วย 
 

    "ในเบื้องต้นเชื่อว่ามีการทุจริตแน่ มีการส่งมือปืนเข้าสอบชัดเจน ตัวปลอมจะทำข้อสอบไม่ได้ แต่น่าจะเป็นคนส่งคะแนนคนที่นั่งสอบใกล้ๆ พยานหลักฐานชัดเจน มีมือปืนประกบหัวกับท้ายคนที่ต้องการสอบได้ ซึ่งมีการจัดผังให้นั่งอยู่ตรงกลาง เป็นการวางแผนไว้ล่วงหน้า คือให้ตัวจริงสอบได้ในพื้นที่อื่น ไม่ใช่พื้นที่ตัวเอง และให้ตัวปลอมสอบไม่ได้ แต่โชคร้ายคือดันมีตัวปลอมอีกคนสอบติดทำให้เรื่องแดงขึ้น เพราะมีคนชื่อเดียวกันสอบติด 2 ที่"
 

    นายธานินทร์กล่าวอีกว่า มีข้อสงสัยอีกว่าคนได้คะแนนสอบเต็มค่อนข้างเยอะ ทำไมได้ในเขตนอกพื้นที่ตัวเอง สมมติว่าคนสอบได้เป็นคนในพื้นที่โคราช แต่ทำไมไปสอบที่จังหวัดนครปฐม ทั้งๆ ที่การสอบในพื้นที่ สพฐ.จะให้คะแนนแถมอีก 10 คะแนน แต่ทำไมไม่สอบในพื้นที่ตัวเอง กลับไปสอบต่างพื้นที่ และพอสอบแล้วยังได้คะแนนเป็นที่ 1 อีกด้วย อาจเป็นไปได้ว่าถ้าสอบในพื้นที่ ค่าตอบแทนทุจริตสูงอาจอยู่ที่ 5 แสนบาท แต่ถ้าสอบต่างพื้นที่ ค่าตอบแทนอาจลดลงเหลือ 3 แสนบาท 
 

    สำหรับพื้นที่ที่คาดว่ามีการทุจริตมากที่สุด นายธานินทร์ยอมรับว่าน่าจะเป็นพื้นที่อีสาน เพราะมีคนในพื้นที่อีสานไปขอโควตาสอบภาคอื่นเยอะมาก เช่น คนภาคอีสานขอโควตาที่นั่งภาคใต้ แต่ไม่มีคนจากภาคใต้มาขอโควตาพื้นที่อีสาน 
 

    "ถ้าถามว่าจะยกเลิกการสอบหรือไม่ ผมมองว่าถ้ายกเลิกจะมีผลเสียหาย คนสอบเป็นหมื่น บางคนก็ทำข้อสอบได้เอง แต่เชื่อว่าแก๊งนี้อยู่ทางอีสาน ไปกินโควตาภาคอื่น น่าจะกระจุกตัวอยู่ที่ภาคอีสาน"
 

    วันเดียวกัน ที่ดีเอสไอ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวแถลงข่าวว่า เบื้องต้นพบหลักฐานชี้ว่ามีการทุจริตสอบครูผู้ช่วย โดยเชื่อว่าจะสรุปผลการสืบสวนส่งให้ ศธ.นำไปประกอบการพิจารณายกเลิกการสอบหรือไม่ได้ในวันที่ 18 มี.ค.นี้ โดยประเด็นที่ต้องสืบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงคือ มีการทุจริตเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือเกิดการทุจริตทั่วประเทศ เพื่อให้ ศธ.พิจารณาว่าจะยกเลิกการสอบทั้งหมด หรือยกเลิกการสอบเพียงบางพื้นที่ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการจัดสอบแต่ละครั้งต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก.

 

ขอบคุณข้อมูลจาก --> เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 7 มีนาคม 2556