การบ้านบางประเภท ไม่ควรให้เด็กทำที่บ้าน เช่นโจทย์ซับซ้อนเครียดเกิน
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
วันที่ 5 มี.ค.56 นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานแห่งชาติ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 9 มี.ค.นี้ ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ ซึ่งมีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เตรียมเสนอเรื่องการปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปรับโครงสร้างเวลาเรียน และปรับลดจำนวนการบ้านที่นักเรียนได้รับ ซึ่งหลังจากศึกษาเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ อาทิ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และแคนนาดา สพฐ.ได้ตัดสินใจปรับโครงสร้างเวลาเรียนใหม่ทุกระดับตั้งแต่ระดับประถมต้น ประถมปลาย มัธยมต้น และมัธยมปลาย
นายชินภัทร กล่าวต่อไปว่า การปรับโครงสร้างเวลาเรียนในครั้งนี้ยังไม่ใช่การปรับใหม่ จำนวนชั่วโมงเรียนต่อปีต่อสัปดาห์ หรือต่อวัน ยังคงเท่าเดิมตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตร แต่ภายใต้จำนวนชั่วโมงเรียนเท่าเดิมนั้น จะลดจำนวนชั่วโมงเรียนในชั้นเรียนลง และเทเวลาเรียนให้การทำกิจกรรมนอกห้องเรียนมากขึ้น ซึ่งการลดจำนวนชั่วโมงเรียนในชั้นเรียนลงได้ สามารถทำได้โดยไม่ส่งกระทบหากครูใช้การเรียนการสอนแบบบูรณาการ
ทั้งนี้นอกจากจะปรับลดจำนวนชั่วโมงเรียนวิชาการลงแล้ว จะมีการปรับสัดส่วนการเรียนวิชาต่างๆ ของนักเรียนแต่ละระดับชั้นด้วย จากเดิมที่ให้สัดส่วนเวลาเรียนทุกวิชาเท่าๆ กัน ก็จะเปลี่ยนมามีจุดเน้นให้ตรงตามวัย โดยระดับประถมต้นโดยเฉพาะ ป.1-ป.2 จะเน้นการเรียนรู้ทักษะด้านภาษาเป็นหลัก จนถึงระดับประถมปลายจึงจะเพิ่มเติมทักษะด้านการคิดคำนวณ ส่วนระดับมัธยมต้น จะเพิ่มเติมทักษะในการแสวงหาความรู้ให้กับเด็ก และมัธยมปลาย จะเน้นให้เด็กนำความรู้ที่เรียนมาประยุกต์ใช้ได้
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า สำหรับเรื่องการปรับการบ้านนั้น สพฐ.ได้ศึกษาและพบว่า การบ้านบางประเภทนั้น ไม่เหมาะสมจะให้นักเรียนนำกลับไปทำที่บ้าน เช่น การบ้านประเภทแก้โจทย์ปัญหา หรือ Problem Solving เพราะการบ้านประเภทนี้มีความซับซ้อนและยากเกินกว่าที่เด็กจะทำได้โดยลำพัง ซึ่งจะกลายเป็นการสร้างความเครียดให้เด็กและไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ด้วย โดยในต่างประเทศนั้น การบ้านประเภทนี้จะให้นักเรียนทำที่โรงเรียนโดยมีครูเป็นพี่เลี้ยง และเปิดโอกาสให้เกิดการถกเถียงกันในการแก้โจทย์ปัญหา อย่างไรก็ตามการบ้านบางประเภทยังมีความสำคัญอยู่ เช่น การบ้านประเภททบทวน และเพิ่มความชำนาญ ฉะนั้นจะต้องมีการทบทวนเรื่องการให้การบ้านจะต้องมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง
"ทั้งหมดนี้จะเริ่มดำเนินการทันทีในปีการศึกษา 2556 ซึ่งในระหว่างนี้ สพฐ.กำลังจัดทำคู่มือการบูรณาการการเรียนการสอนแบบครบวงจรสำหรับแจกครู เพื่อแนะนำตั้งแต่การวางแผนการสอน การจัดการเรียนการสอนในห้องเรียน การประเมินผล และการให้การบ้าน โดยจะมีการจัดอบรมครูให้เข้าใจเรื่องนี้ในเดือน เม.ย.นี้" นายชินภัทร กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก --> เว็บไซต์หนังสือพิมพ์สยามรัฐ วันที่ 5 มีนาคม 2556