ฝ่ายผลิตครูยอมรับผลิตบัณฑิตบางสาขาล้นตลาด
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
วันนี้ ( 27 ก.พ.) รศ.นพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยผลการประชุมจัดทำแผนการผลิตกำลังคนสาขาครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ให้เหมาะสมกับความต้องการของประเทศ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่า สถาบันฝ่ายผลิตครูยอมรับว่ามีการผลิตครูในบางสาขาเกินความต้องการของประเทศจริงๆ โดยเฉพาะสาขาวิชาพลศึกษา สุขศึกษาและมวยไทยศึกษา สาขาการศึกษาปฐมวัย สาขาภาษาอังกฤษ ดังนั้นสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.)ขอให้สภาคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย (ส.ค.ศ.ท.) ไปจัดทำแผน 5 ปี ในการผลิตบัณฑิตในคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ เพื่อจะได้รู้จำนวนตัวเลขบัณฑิตครูในอนาคต รวมถึงให้นำข้อมูลตัวเลขจำนวนนักศึกษาที่เรียนในแต่ละสาขาวิชาชีพและแต่ละปีจากสถาบันผลิตครูทั้งหมดส่งให้สภาวิชาชีพ คือ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ซึ่งเป็นผู้ออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู เพื่อให้คุรุสภารู้จำนวนการผลิตทั้งหมด และสามารถแนะนำสถาบันฝ่ายผลิตได้ว่าสาขาไหนมีจำนวนนิสิตนักศึกษาเกินความต้องการของประเทศแล้ว พร้อมทั้งสถาบันฝ่ายผลิตจะได้จัดทำแผนการผลิตได้ตรงตามความต้องการมากขึ้นด้วย
รศ.รพ.กำจร กล่าวต่อไปว่า ส่วน สกอ.จะเก็บข้อมูลทั้งหมดไว้เช่นกัน เพื่อดูเรื่องของคุณภาพทั้งหมด สัดส่วนอาจารย์ต่อนักศึกษา และหลักสูตรการเรียนการสอนต่าง ๆ ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด รวมถึงจะนำข้อมูลจำนวนนักศึกษาในแต่ละสาขาวิชาชีพ ประกาศผ่านเว็บไซต์ของสกอ. เพื่อให้นักเรียนใช้ประกอบการตัดสินใจเข้าศึกษาต่อด้วย ส่วนที่นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ มอบหมายให้ฝ่ายผลิตครูไปสรุปผลการดำเนินงาน ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะโครงการครูมืออาชีพ เพื่อรมว.ศึกษาธิการจะได้ใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจว่าจะเดินหน้าโครงการครูมืออาชีพต่อไปหรือไม่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 3 สัปดาห์นี้
ด้านผศ.ดร.สุรวาท ทองบุ คณบดีคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ(มรภ.)มหาสารคาม ในฐานะประธาน ส.ค.ศ.ท. กล่าวว่า จากนี้สถาบันผลิตครู จะไปทำแผนการรับนักศึกษาคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ เพื่อให้สามารถผลิตบัณฑิตได้ตรงตามความต้องการของประเทศ ขณะเดียวกันในส่วนของสาขาที่ผลิตเกินความต้องการนั้น ก็มีความเป็นไปได้ที่จะโอนย้ายนิสิตนักศึกษามาเรียนในสาขาที่ขาดแคลนแทน แต่ต้องเป็นไปด้วยความสมัครใจของผู้เรียน ส่วนโครงการครูมืออาชีพนั้น เบื้องต้นส.ค.ศ.ท. เห็นว่า โครงการดังกล่าวควรจะเดินหน้าต่อไป แม้รัฐบาลจะไม่มีทุนให้นักศึกษา แต่ให้คงการประกันการมีงานทำเอาไว้ เพื่อดึงดูดคนเก่งคนดีมาเป็นครู แต่ควรปรับหลักเกณฑ์การคัดเลือกใหม่ โดยส.ค.ศ.ท. จะหารือเรื่องดังกล่าวในวันที่ 8 มี.ค.นี้ ก่อนสรุปข้อมูลเสนอรมว.ศึกษาธิการ พิจารณาต่อไป.
ขอบคุณข้อมูลจาก --> เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2556