06 ธ.ค. 2568สพป.นครราชสีมา เขต 4 รับสมัครพนักงานราชการครู 10 อัตรา เงินเดือน 21,780 บาท 05 ธ.ค. 2568โรงเรียนวัดพระมหาธาตุ รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาเอกภาษาอังกฤษ เงินเดือน 10,000 บาท 05 ธ.ค. 2568กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) รับสมัครเจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป เงินเดือน 18,750 บาท วุฒิ ป.ตรี ทุกสาขา สมัครทางอีเมลได้ ถึง 17 ธ.ค. 68 04 ธ.ค. 2568วิทยาลัยการอาชีพแก้งคร้อ รับสมัครลูกจ้างชั่วคราว 3 อัตรา (งานบริหาร/ประชาสัมพันธ์/ขับรถ) 04 ธ.ค. 2568สสวท. เปิดรับสมัครพนักงาน 8 อัตรา วุฒิ ป.ตรี-เอก เงินเดือนสูงสุด 37,000 บาท 03 ธ.ค. 2568รวมประกาศรับสมัครพนักงานราชการ (ครู/สายสนับสนุน) สังกัดอาชีวศึกษา หลายจังหวัดทั่วประเทศ 03 ธ.ค. 2568โรงเรียนกันตังพิทยากร รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาเอกภาษาอังกฤษ เงินเดือน 11,920 บาท 03 ธ.ค. 2568โรงเรียนบ้านจอมบึง (วาปีพร้อมประชาศึกษา) รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาเอกคอมพิวเตอร์ 03 ธ.ค. 2568สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ รับสมัครพนักงานราชการทั่วไป 5 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 5–12 ธันวาคม 2568 03 ธ.ค. 2568องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร รับสมัครคัดเลือกเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการ 4 ตำแหน่ง รวม 30 อัตรา
ข่าวการศึกษา >
ผอ.สพท.วิจารณ์ระบบย้าย TRS ก.ค.ศ.ปัญหาเพียบ! ไม่ทันความต้องการ รร.

ผอ.สพท.วิจารณ์ระบบย้าย TRS ก.ค.ศ.ปัญหาเพียบ! ไม่ทันความต้องการ รร.
ผอ.สพท.วิจารณ์ระบบย้าย TRS ก.ค.ศ.ปัญหาเพียบ! ครูขาดขวัญกำลังใจ-ล่าช้าไม่ทันความต้องการโรงเรียน
เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2568 คอลัมน์ บทความ/รายงานพิเศษ EduGuide 4.0 นำเสนอประมวลเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของกลุ่มผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (ผอ.สพท.) ทั้งในปัจจุบันและอดีตหลายคน ที่มีต่อปัญหาการยื่นคำร้องขอย้ายข้าราชการครูผ่านระบบ TRS (Teacher Rotation System) ของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ซึ่งได้สะท้อนผ่านโซเชียล และให้ความเห็นโดยตรงกับ EduGuide 4.0 ดังต่อไปนี้

องค์ประกอบพิจารณา 2.กลุ่มวิชา หรือทาง หรือสาขาวิชาที่สอน พบปัญหาประเด็นที่ 1 ผู้ยื่นคำร้องขอย้ายแจ้งในระบบว่า มีประสบการณ์การสอน 12 ปี ข้อที่พบ
1) ผู้ยื่นคำร้องฯส่งตารางสอนมาไม่ครบจำนวน 12 ปีหรือตามเกณฑ์ ส่งมาแค่ 1 ปีการศึกษา โปรแกรมก็ประมวลผลให้คะแนน 20 คะแนน (ซึ่งตามเกณฑ์ต้องได้ 12 คะแนน เพราะมีเอกหลักฐานแค่ 1 ปี ซึ่งประเด็นนี้ขาดความชัดเจนของหลักเกณฑ์ให้คะแนนว่า
จะให้แนบหลักฐานเท่าใคร ใครเป็นคนรับรอง บางทีคนที่สอนมา 12 ปี แผนการสอนอาจจะไม่ได้เก็บไว้ หรือถ้าทำขึ้นใหม่จะตรงตามความจริงหรือไม่
2) ในกรณีที่ผู้ยื่นคำร้องขอย้ายจบไม่ตรงวิชาเอกที่ขอย้ายสามารถใช้หลักเกณฑ์สาขาวิชาที่ได้รับวิทยฐานะขอย้ายได้ เช่น ครูจบเอกประถมศึกษา ได้ได้วิทยฐานะสาขาวิชาภาษาไทย ก็สามารถยื่นคำร้องขอย้ายในสาขาวิชาภาษาไทยได้ ซึ่งตรงนี้ นาย ก เอกประถมศึกษา สอนชั้น ป.3 มา 12 ปี พึ่งได้วิทยฐานะชำนาญการเอกภาษาไทย 2 ปี โปรแกรมควรจะไปประมวลผลในข้อใด
3) การประมวลผลคะแนนของระบบได้จากการลงข้อมูลของผู้ยื่นคำร้องขอย้าย ถ้าผู้ยื่นคำร้องลงระบบไม่ตรงความเป็นจริง ผู้บริหารสถานศึกษาต้นทางตรวจสอบเอกสารหลักฐาน พิจารณาอนุมัติเห็นควรให้ย้าย โปรแกรมก็จะประมวลผลคะแนนตามผู้ยื่นคำร้องให้ข้อมูล แต่ถ้าผู้บริหารตรวจสอบพบว่า เอกสารหลักฐานไม่ถูกต้องให้แจ้งผู้ขอย้ายแก้ไข (ประเด็นนี้ผู้บริหารต้องตรวจสอบให้ชัดเจน)
4) สพท.ได้ตรวจสอบอีกครั้ง ถ้าพบว่าเอกสารหลักฐานไม่ถูกต้องหรือไม่ครบตามเกณฑ์ คะแนนที่ได้จะไม่ตรงกับโปรแกรมประมวลผล (ทำให้เกิดข้อสงสัยและความไม่เข้าใจระหว่างผู้ขอย้ายกับผู้ตรวจสอบ)
องค์ประกอบพิจารณา 3.เหตุผลในการขอย้าย ปัญหาที่พบ
1) ผู้ยื่นคำร้องขอย้ายส่งเอกสารหลักฐานไม่ตรงกับเหตผลที่ขอย้าย เช่น ขอย้ายเพื่อดูแลบิดา มารดา แต่ทะเบียนบ้านบิดามารดาไม่ได้ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ขอประสงค์ขอย้าย 2) ถ้าทะเบียนบ้านของบิดามารดาอยู่อำเภอใกล้เคียง หรือติดกับโรงเรียนที่ผู้ยื่นคำร้องขอย้ายเขียนลง แต่คนละเขตพื้นที่การศึกษาก็จะได้คะแนน 6 (เหตุผลอื่น) (ในเชิงบริหารไม่สามารถพิจารณาตรงนี้ได้ ถึงแม้ว่าระยะห่างของที่อยู่ของบิดา
มารดาจะติดกับโรงเรียนที่ขอย้ายก็ตาม เนื่องจากโปรแกรมยึดภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้าน 3) คนที่มีความรู้ ความสามารถ คนโสด อยากพัฒนางาน สถานศึกษาอยากได้เนื่องจากเป็นครูที่มีความสามารถ ถ้าขอ
ย้ายก็จะได้คะแนนแค่ 6 คะแนน
ยังมีข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า 1.กรณีที่ผู้ยื่นคำร้องขอย้ายได้คะแนนเท่ากัน ระบบ TRS จะประมวลผลโดยเรียงอันดับผู้ที่ได้คะแนนองค์ประกอบที่ 1 มากกว่าเป็นผู้อยู่ในอันดับที่ดีกว่า ถ้าองค์ประกอบที่ 1 เท่ากัน ก็ให้พิจารณาองค์ประกอบที่ 2 ถ้าองค์ประกอบที่ 2 เท่ากัน ก็ให้พิจารณาองค์ประกอบถัดไปทีละองค์ประกอบ 2.การได้ครูอาจไม่ได้ตรงวิชาเอกที่ต้องการ เนื่องจากสามารถใช้หลักเกณฑ์การยื่นขอวิทยฐานะเทียบเคียงได้ 3.ครูที่มีผลงานดีเด่นเชิงประจักษ์ เช่น พัฒนางานได้รางวัลต่างๆ ที่เกิดกับตนเอง กับนักเรียน กับโรงเรียน ไม่ได้นำมาใช้ ทำให้ขาดขวัญกำลังใจอันจะส่งผลให้ครูขาดความกระตือรือร้นในการพัฒนางาน สร้างผลงานต่างๆ
4.ในเชิงบริหารไม่สามารถใช้หลักธรรมาภิบาล โดยเฉพาะหลักคุณธรรมตามสภาพจริงในการบริหารจัดการได้ 5.ไม่สามารถย้ายต่อเนื่องได้ทันที เพราะต้องรอการแนบรายงานมติของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาให้เรียนร้อยก่อน 6.ครูที่มีความเดือดร้อน จำเป็นจริงๆ ขอย้ายลงโรงเรียนใดก็ได้ ไม่สามารถรับย้ายได้เนื่องจากโปรแกรมไม่ได้ระบุ 7.ครูช่วยราชการที่ความเดือดร้อน จำเป็น ที่ช่วยราชการในโรงเรียนนั้นอยู่แล้ว แต่โรงเรียนเปิดรับวิชาเอกว่างไม่ตรงกับครูที่ช่วยราชการ ก็ไม่สามารถรับย้ายช่วยเหลือครูคนนี้ได้ หรือโรงเรียนว่างตรงตามวิชาเอกของครูที่ช่วยราชการ แต่โปรแกรมประมวลผลคะแนนน้อยกว่ารายอื่นๆ ที่เขียนขอย้ายเข้ามา เชิงบริหารก็ไม่สามารถช่วยเหลือดูแลครูที่ช่วยราชการที่โรงเรียนนี้อยู่ก่อนแล้ว
นอกจากนี้ ผอ.สพท.บางคนได้สะท้อนว่า ย้ายได้จำกัดมาก ถ้ามีตำแหน่งว่างหลังการย้ายตามตำแหน่งทึ่ประกาศรับย้าย ก็ยากที่จะใช้พิจารณาย้ายต่อเนื่อง การระบุสาขาวิชาก็มีปัญหา เอกปฐมวัย พอระบุเอกการศึกษาปฐมวัย ในระบบกลับระบุว่าสาขาวิชาเอกไม่ตรงที่ระบุรับย้าย ไม่เห็น ก.ค.ศ.ออกมาพูดถึงปัญหาและการแก้ไขในครั้งนี้ เหมือนจะให้ผ่านไปแล้วไปว่ากันใหม่ครั้งหน้าหรืออย่างไร ครูเราจะเสียโอกาส เสียสิทธิเพียงใด เพราะกำหนดการพิจารณาให้เสร็จภายใน 31 มีนาคม 2568 นับวันจะลิดรอนโอกาสและสิทธิไปทุกที
ตำแหน่งว่างจากการย้ายเคยนำมาพิจารณาต่อเนื่องจากผู้ที่ระบุขอย้ายตรง หรือระบุในอำเภอ ในเขต ซึ่งช่วยสร้างโอกาสการรับย้าย กับช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ที่จะย้ายมาใกล้บ้าน ใช้แต่กลไกอิเล็กทรอนิกส์ตัดโอกาสการดูแลขวัญกำลังใจและสภาพจิตใจของผู้เป็นครูในปัจจุบัน ลืมวิถีชีวิตจิตวิญญาณที่เคยมีในอดีตมาให้ความสำคัญกับวิถีดิจิทัล ด้วยความกลัวคำว่าทุจริตที่ตามหลอกหลอน และใช้เป็นข้ออ้างมาอย่างต่อเนื่องของคนมีอำนาจในการลดโอกาสตัดรอนวิธีการที่จะสร้างบรรยากาศ และวิถีทางของการบริหารงานบุคคลทึ่มีคุณธรรม จริยธรรม ขวัญกำลังใจอย่างหลากหลาย ใครทำผิด ทุจริต หาผลประโยชน์ ก็ดำเนินการลงโทษอย่างจริงจัง ปัจจุบันการติดตามตรวจสอบ การฟ้องร้อง เปิดไว้อย่างกว้างขวาง ถ่วงดุลป้องปรามชัดเจนอยู่แล้ว
อีกเรื่องหนึ่งที่อยากชวนท่าน ผอ.สพท.ทั้งหลายและท่านผู้มีอำนาจ ลองพิจารณาการกำหนดสาขาวิชาเอก หลักที่บังคับว่า ต้องมีให้ครบก่อนจึงจะมีสาขาวิชาเอกนอกจากนั้นได้ คนกำหนดก็เน้นกอดเอาแต่วิชาประถมฯ ปฐมวัย ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ อังกฤษ สังคม เป็นหลัก นอกนั้นไม่สำคัญใช่ไหม ซึ่งไม่ว่า ศิลปะ ดนตรีไทย/สากล นาฏศิลป์ พละศึกษา เกษตร คหกรรมศาสตร์ ฯลฯ ไม่สำคัญใช่ไหม ทั้งที่เป็นสาขาที่ก่อให้เกิดทักษะชีวิต/การทำงาน/อาชีพ พัฒนาทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ ความสุนทรีย์ทางชีวิตจิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์ เน้นหัวโตแบบกลวงๆ เท่านั้นใช่ไหม
คิดอะไรมันตื้นเขินคับแคบเข้าไปทุกที แล้วเราจะพัฒนาเด็กของเราให้เจริญเติบโตเป็นมนุษย์ที่มีวีถีชีวิตที่ดีอย่างไร วิชาหลัก 5 วิชา คนจบ ป.ตรีเขามีความรู้สอนได้ เนื่องจากพื้นฐานเหล่านึ้ได้เรียนรู้มาก่อน ป.ตรึและตอน ป.ตรี ลองไตร่ตรองกันบ้างก็น่าจะดี ไม่เช่นนั้นจะกล่ายเป็นมนุษย์หุ่นยนต์ด้อยค่าจิตวิญญาณและความเป็นมนุษย์ทั้งครูและเด็ก ไม่ถูกใจท่านใดก็ขออภัย คิดและนำเสนอด้วยความเป็นห่วงคนเป็นครูและนักเรียน ในฐานะคนในวงการศึกษาที่เห็นภาวะมาหลายยุคหลายสมัย จะผิดถูกอย่างไรฝากพิจรณาดูครับ
มีอดีต ผอ.เขตฯได้ตั้งข้อสังเกตในทำนองเดียวกันว่า เพราะอะไรให้ครูยื่นขอย้ายเลือกลงได้แค่ 3 โรงเรียน เพราะอะไรไม่มีเกณฑ์ครูย้ายไปดูแลลูกในกรณีแม่เลี้ยงเดี่ยว ลูกอยู่ที่ แม่อยู่ที่ และเลื่อนไหลไม่ได้ ขาดการบริหารจัดการ
ทั้งนี้ ยังมีเสียงสะท้อนจากโรงเรียนไปถึง ผอ.สพท. "เรียนท่าน ผอ.เขต ระบบ TRS การย้ายไม่ตรงสาขา โดยเฉพาะโรงเรียนที่เน้นวิชาการ (การสอบเรียนต่อชั้นที่สูงขึ้น) ต้องการครูที่ตรงสาขาวิชาเอกที่จบการศึกษาครับ ระยะยาวการย้ายจะได้เอกประถมเต็มไปหมดครับ ผมคิดว่ามีบางประเด็นของระบบTRS ที่ทาง ก.ค.ศ.ควรทำความเข้าใจกับครู เพื่อให้ครูบันทึกข้อมูลในระบบได้อย่างถูกต้อง ไม่เสียสิทธิ์ในการย้าย เช่น การบันทึกข้อมูลในส่วนที่ 1 ซึ่งระบบควรยึดวิชาเอกที่บรรจุ (ส่วนที่ 2) ให้ตรงกับวิชาเอกที่โรงเรียนรับย้ายเป็นสำคัญ เพราะหากยึดกลุ่มวิชาจากการทำผลงานวิทยฐานะ จะส่งผลให้โรงเรียนได้ครูที่ไม่ตรงกับวิชาเอก และอาจไม่มีความเชี่ยวชาญ และทำให้ครูกลุ่มวิชาเอกจริงๆ เสียโอกาสย้ายด้วย"
อีกโรงเรียนสะท้อนว่า "1.การดำเนินการให้คะแนนโดยใช้ระบบ AI และการตรวจทานข้อมูลในการตรวจสอบความถูกต้อง น่าจะมีคณะกรรมการร่วมในการกลั่นกรองช่วยความถูกต้องและเหมาะสม 2.โรงเรียนไม่สามารถรับครูย้ายต่อเนื่องได้จากการประกาศตำแหน่งว่าง ทำให้เสียโอกาสในการที่จะมีครูมาชดเชยตำแหน่งที่ว่าง ซึ่งหากต้องรอการย้ายในรอบต่อไปต้องใช้เวลานานถึง 6 เดือน จึงมีความจำเป็นต้องเรียกบรรจุครูผู้ช่วย ซึ่งบางเขตฯไม่มีตำแหน่งวิชาเอกที่ต้องการ จึงต้องไปขอใช้ต่างเขตฯ ส่งผลทำให้เกิดความล่าช้า และอาจไม่ทันต่อความต้องการของโรงเรียน 3.เอกสารที่ใช้ประกอบการยื่นควรมีห้วงระยะเวลาที่เหมาะสม เช่น การมีวิทยฐานะ ทะเบียนบ้านที่ใช้ในการประกอบยื่นคำร้อง ควรจะมีรายละเอียดประกอบที่ชัดเจน ส่งผลให้คะแนนที่ได้เป็นธรรมต่อทุกคน ไม่ใช่เป็นการเฉพาะกิจ การพิจารณาความจำเป็นวิชาเอกควรมีค่าคะแนนมาก และมาก่อนภูมิลำเนา"
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: เว็บไซต์ eduguidenews.com วันที่ 2 เมษายน 2568