คณะวิจัยชี้ กศน.จำเป็นต้องขึ้นองค์กรหลักที่ 6
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
จากการสัมมนารับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการจัดการศึกษาตลอดชีวิต และการดำเนินงานทางด้านกฎหมาย โดยสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ร่วมกับคณะผู้วิจัยโครงการแนวทางการจัดการศึกษาตลอดชีวิต และแนวทางการดำเนินการทางกฎหมายและการบริหารที่จำเป็นเพื่อรองรับการตรากฎหมายว่าด้วยการศึกษาตลอดชีวิต เมื่อเร็ว ๆ นี้
นายสุรพล นิติไกรพจน์ ในฐานะคณะผู้วิจัยฯ กล่าวถึงเหตุผลสำคัญที่สำนักงาน กศน.ควรเปลี่ยนเป็น "สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาตลอดชีวิต" หรือ แยกออกมาเป็นองค์กรหลักที่ 6 ของกระทรวงศึกษาธิการ เนื่องจากปัจจุบัน กศน. อยู่ในโครงสร้างของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.) ทำให้มีอุปสรรคในสายบังคับบัญชา และการปฏิบัติงาน เพราะ สป.ศธ.นอกจากจะดูแลงานแม่บ้านของ ศธ. แล้วยังดูแลเรื่องสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) รวมถึงดูแลนโยบายของฝ่ายการเมืองที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการศึกษา
"กศน.จึงเหมือนอยู่ในห้องที่แคบเกินไป เมื่อเทียบกับภารกิจที่ได้รับมอบหมายเพิ่มขึ้น จึงเกิดแนวคิดปรับบทบาทและขยายภารกิจเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงของสังคมสมัยใหม่ จึงเป็นที่มาของการยกร่างกฎหมาย ส่วนกฎหมายนี้จะนำไปสู่การเป็นองค์การหลักที่ 6 หรือไม่ ต้องดูที่ระบบบริหารจัดการศึกษา และหากมองว่างานการศึกษาตลอดชีวิตเป็นงานที่สำคัญ ก็ควรที่จะมีหน่วยงานรองรับ มีกรรมการนโยบายระดับเช่นเดียวกับองค์กรหลักต่างๆ ซึ่งขึ้นตรงกับรัฐมนตรี และเป็นอีกหน่วยงานที่เป็นมือไม้ของ ศธ.โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านสักนักงานปลัดฯ"
นายสุรพล กล่าวและว่า คณะวิจัยฯ จะนำเสนอรายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์แก่ กศน.ภายในเดือน ก.พ.56 พร้อมด้วยร่าง พ.ร.บ.การศึกษาตลอดชีวิต และร่างกฎหมายเพิ่มเติมอีก 4-5 ฉบับ เพื่อให้ กศน.นำเสนอ รมว.ศึกษาธิการ พิจารณาต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก --> เว็บไซต์หนังสือพิมพ์สยามรัฐ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2556