นำร่อง 14 รร.อินเตอร์ชายขอบรับอาเซียน / เด็กพม่า-ลาว-มาเลย์แห่เรียนหลักสูตรสากล
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เมื่อเร็วๆ นี้ว่าที่ประชุมได้นำเสนอความคืบหน้าการดำเนินการของ 14 โรงเรียน สังกัด สพฐ.ในการยกระดับการเรียนการสอนให้มีมาตรฐานระดับสากล ตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ที่ต้องการพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการศึกษาในภูมิภาค หรือ Education Hub
โดยขณะนี้โรงเรียนทั้ง 14 แห่งมีจุดเน้นในการพัฒนาอย่างชัดเจนแล้ว ในส่วนของโรงเรียนที่เปิดสอนหลักสูตร International Program บางแห่งเริ่มต้นจากหลักสูตร English Program บางแห่งก้าวไกลไปสู่หลักสูตร International Program เช่น โรงเรียนโยธินบูรณะ มีหลักสูตร cambridge เพื่อเตรียมความพร้อมให้นักเรียนด้วยการเทียบผลการเรียนอัตโนมัติ เมื่อต้องเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า ขณะที่โรงเรียนกลุ่มพหุภาษา ซึ่งตั้งอยู่ตามแนวชายแดน ขณะนี้ก็มีความพร้อมเรื่องการรับนักเรียนต่างชาติ ตลอดจนการเปิดการค้าเสรีแล้วเช่นกัน อาทิ โรงเรียนสรรพวิทยาคม จ.ตาก รองรับเปิดการค้าเสรีกับประเทศพม่า โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ จ.เชียงราย รองรับนักเรียนพม่ามาเรียนแบบเดินทางไปกลับ โรงเรียนปทุมเทพวิทยาคาร จ.หนองคาย เปิดสอนหลักสูตร International Program และสามารถร่วมดำเนินการกับประเทศลาว และเวียดนาม ส่วนโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย มุกดาหาร จ.มุกดาหาร และโรงเรียนนารีนุกูล จ.อุบลราชธานี รองรับนักเรียนจากประเทศลาว ขณะที่โรงเรียนประสาทวิทยาคาร จ.สุรินทร์ และโรงเรียนกันทรลักษณ์วิทยา จ.ศรีสะเกษ รองรับนักเรียนจากประเทศกัมพูชา
ส่วนภาคใต้ คือโรงเรียนพิชัยรัตนาคาร จ.ระนอง โรงเรียนหาดใหญ่รัฐประชาสรรค์ จ.สงขลา โดยเฉพาะโรงเรียนจุฬาภรณราชิทยาลัย สตูล จ.สตูล ซึ่งอยู่ใกล้ประเทศมาเลเซียนั้น จำเป็นต้องเร่งพัฒนาหลักสูตรให้ตรงกับความต้องการ เพราะมาเลเซียมีมาตรฐานคุณภาพการศึกษาสูง ทั้งนี้สำหรับค่าเทอมนักเรียนต่างชาตินั้น จะคิดในอัตราที่สูงกว่านักเรียนไทย ซึ่งได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล
ขอบคุณข้อมูลจาก --> เว็บไซต์หนังสือพิมพ์สยามรัฐ วันที่ 31 มกราคม 2556